หลังจากถ่ายทำเสร็จมาได้พักใหญ่ ในที่สุดภาพยนตร์ “ผ้าผีบอก” โดย บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จํากัด หรือ iAM ก็ได้ฤกษ์เข้าฉายแล้วเมื่อ 23 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ 5 สาวจากวง BNK48 วี วีรยา จาง รับบทเป็น อัญญานางหอมนวล, โมบายล์ พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค รับบทเป็น เก็ดถะหวา, น้ำหนึ่ง มิลิน ดอกเทียน รับบทเป็น สาระปี, ปูเป้ จิรดาภา อินทจักร รับบทเป็น สะบันงา และ จีจี้ ณัฐกุล พิมพ์ธงชัยกุล รับบทเป็น คำเคิบ และได้คู่จิ้นดัง หยิ่น อานันท์ ว่อง กับ วอร์ วนรัตน์ รัศมีรัตน์ มาร่วมงานครั้งแรก โดยหยิ่นรับบทเป็น เจ้าหลวงรังสิมันต์ และวอร์รับบท อชิ รวมถึงนักแสดงหนุ่ม บอส สหรัฐ หอมแสง รับบท หมอผีสิงห์คำ

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์พูดคุยกับ วี-จีจี้-ปูเป้-โมบายล์ BNK48 และ วอร์ ถึงเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมไปถึงการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่างพวกเขา และการทำงานกับ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล โปรดิวเซอร์-ผู้เขียนบทภาพยนตร์ กับ อั้ม ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

...


ความยากง่ายของบท?
วอร์ : รู้สึกยากนะครับที่ผมต้องแสดงย้อนยุค ซึ่งเรามีความรู้เรื่องคำพูดแบบย้อนยุคน้อย จริงๆ ผมเป็นคนอีสาน แต่พูดอีสานไม่ค่อยได้เท่าไร เวลาพูดก็ต้องซ้อม อ่านบทเป็นภาษาไทยแล้วแปลเป็นอีสานอีกที แต่โชคดีที่ไม่ได้พูดเยอะเท่าไรเพราะว่าเราอยู่ในพาร์ตปัจจุบันเยอะ ถามว่าเล่นหนังแตกต่างจากเล่นซีรีส์เยอะมั้ย มันก็แตกต่างครับ การถ่ายก็ต่างกัน รายละเอียดอะไรที่ขาดไปก็ต้องถ่ายใหม่ มันมีความละเอียดกว่า

วี : ที่ยากก็มีภาษาอีสานนี่แหละค่ะ จะมีซีนด่า พี่หนึ่งจะด่าเป็นภาษาเหนือ หนูก็ด่ากลับเป็นภาษาอีสาน หนูเป็นคนโคราชแต่หนูพูดไม่ได้ ก็มีพี่นักแสดงคือพี่บอสเป็นคนอีสาน เราก็ถามเขาว่าตรงนี้พูดยังไง ออกเสียงยังไง มีพี่ทีมช่างไฟเป็นคนอีสาน ก็จะหาความรู้จากตรงนั้น ก็เป็นความยากของหนู และก็มีซีนรำที่ก็เพิ่งรู้ไม่กี่ ชม. โชคดีที่พี่สไตลิสต์เป็นครูนาฏศิลป์มาช่วยเทรนให้ และก็ความเป็นผู้หญิงเรียบร้อย

จีจี้ : ของหนูก็ตั้งแต่เขาบอกจะให้เล่นเป็นวีว่า เป็นสาวสอง หนูก็ตกใจว่าทำไมเรื่องแรกให้เราเล่นคาแรกเตอร์นี้เลย ก็รู้สึกว่าท้าทาย หลังจากวันนั้นหนูก็ไปดูว่าจะต้องเล่นแบบไหน จริตจะก้านประมาณไหน แต่พอเข้าฉากจริงๆ ก็ตื้นเต้น แต่โชคดีที่เพื่อนๆ คอยเชียร์อัพให้กำลังใจ ก็รู้สึกดีขึ้น เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ดีค่ะ

ปูเป้ : ของหนูรู้สึกว่ามันยากตรงที่พูดยังไงให้มันดูไม่เหมือนท่องบท คือถึงบทหนูจะไม่ค่อยเยอะเท่าไร หนูก็รู้สึกว่ามันยากจังเลย แล้วมันเป็นภาษาสมัยก่อนด้วย มันก็จะแข็งๆ นิดหน่อย

โมบายล์ : ของหนูคล้ายๆ กับที่เพื่อนพูดมาทั้งหมดค่ะ (หัวเราะ) พอรู้ว่าจะต้องเล่น หนูไม่เคยดูหนังพีเรียดเลย แล้วเก็ดถะหวาจะเป็นคนค่อนข้างอ่อนแอ ขี้โรค กุลสตรีไทยเหมือนกัน ก็จะยากตรงนี้นิดนึง เพราะว่าเพื่อนเราก็สนิทกัน ไม่เคยพูดเรียบร้อยกับเพื่อน อยู่ดีๆ เข้าฉากก็ต้องพูดเรียบร้อยกัน มีมุกขำบ้างก็กลั้นขำยากมาก แค่เห็นหน้ากันก็ขำแล้ว ก็เป็นความท้าทายของเรื่องนี้

ใช้เวลาฝึกการแสดงนานมั้ย?
วี : จริงๆ เราได้เวิร์กช็อปกัน 1 ครั้ง เหมือนเป็นวันที่เจอกันมากกว่า ก็พูดคุยว่าเนื้อเรื่องประมาณไหน ก็ฝึกกันเองนั่นแหละค่ะ
จีจี้ : เรื่องภาษาก็ไม่ได้มีเทรนกันนะ
โมบายล์ : แต่ก็จะมีคนที่จะต้องพูด พี่น้ำหนึ่งจะต้องพูดเหนือ แล้วคนในกองเป็นคนเหนือซะส่วนใหญ่ ช่วงพักก็มีไปสอนกันว่าพูดยังไงมากกว่า แต่ส่วนใหญ่จะพูดภาษากลางค่ะ

หนังเรื่องนี้มีทั้งฆาตกรรม มีความคอมเมดี้ สรุปคือเป็นหนังแนวไหน?
วี : เรื่องนี้ครบรสนะ
วอร์ : มีทั้งสืบสวน สยองขวัญ คอมเมดี้ด้วย ประมาณนั้นครับ

...

วอร์เป็นนักแสดง มีช่วยสอนสาวๆ เรื่องการแสดงมั้ย?
วอร์ : ไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ สร้างภาระให้เขามากกว่า (ยิ้ม) ทุกคนทำสมาธิอยู่ก็จะไปเล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง จะชวนเล่นอะไรต่างๆ จนไม่มีเวลาซ้อมครับ

การร่วมงานกับพี่มะเดี่ยวและพี่อั้ม ผู้กำกับ และทีมงานเป็นไงบ้าง?
จีจี้ : เกร็งค่ะ มันจะมีฉากที่หนูบทเยอะ ทีนี้ก็กังวลหลายเรื่อง คิดเยอะไปหมด ผมหนูก็ใหญ่ หนูรู้สึกทุกอย่างมันกองที่หนูหมดเลย กลัวทำคนอื่นเสียเวลา มันก็เลยเกร็งไปหมด หนูก็กลัวพี่อั้มมาก (หัวเราะ) โดนพี่อั้มดุเหมือนกัน แต่เพื่อนๆ ก็ให้กำลังใจ แต่พอตั้งสมาธิก็เล่นได้ค่ะ
วี : พี่อั้มก็ใจดี แต่พอช่วงจริงจังก็จริงจัง ส่วนพี่มะเดี่ยวก็เข้ามาดูบ้าง มาดูภาพรวมให้ค่ะ
จีจี้ : พี่ๆ ทีมงานก็น่ารักค่ะ

ได้อะไรจากการร่วมงานกับพี่มะเดี่ยวและพี่อั้มยังไงบ้าง?
โมบายล์ : เขาก็แนะนำเราเวลาเวิร์กช็อป เขาก็บอกว่าให้ลองฝึกกับหน้ากระจกดู จะได้แสดงออกทางแววตาได้มากกว่านี้ ด้วยความที่เขามีประสบการณ์มากมายก็มีสิ่งที่เขามาบอกพวกเราค่ะ เขาใจดีมากสำหรับหนูค่ะ
ปูเป้ : เขาสอนแนวคิดตัวละครด้วยค่ะว่าตัวละครมีระบบความคิดแบบนี้ถึงทำแบบนี้ ลองมองให้ลึกกว่าการกระทำ ให้เข้าไปถึงสมองว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงแสดงออกมาแบบนี้

...

อยากให้เม้าท์คนที่ไม่ได้มาอย่างน้ำหนึ่งกับหยิ่น?
วอร์ : น้ำหนึ่งเขาเป็นคนปลีกวิเวก เป็นคนนิ่งๆ เหมือนทำสมาธิ แต่เราก็ไปแย็บๆ แกล้งๆ เขาก็ชวนผมสมัคร iAm48 แล้วผมก็ติดดูเพลินๆ ไปครับ มีเติมเงินด้วย ผมกดโอชิทุกคนเลย (ยิ้ม) ส่วนหยิ่นก็ดีนะครับ เป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ แต่เวลาเล่นเขาก็เล่นด้วยครับ ทำให้บรรยากาศสนุกขึ้น
วี : พี่น้ำหนึ่งพูดภาษาเหนือเก่ง เรียนรู้เร็วด้านภาษา หนูก็เคยถามทำไมถึงพูดได้ ดูเซียน พี่เขาก็บอกว่าคุณย่าเป็นคนเหนือ หนูก็ถามว่าแล้วภาษาอีสานล่ะทำไมถึงดูคล่อง พี่น้ำหนึ่งบอกว่าชอบโดยส่วนตัว เก่งมากๆ ด้านภาษา

อยากให้สาวๆ พูดถึงหยิ่นหน่อย?
โมบายล์ : เขาเป็นคนเม้าท์เก่ง หมายถึงคุยเล่นกันแบบนี้
ปูเป้ : เขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนพูดเก่ง แต่พูดไม่หยุดเลย (หัวเราะ)
จีจี้ : เป็นคนที่แวบแรกเราไม่กล้าเข้าหาเลย พอเขาไม่ยิ้มแล้วแบบ (ยกมือไหว้ ทำหน้ากลัวๆ)
วี : จำได้ตอนที่เราเจอพี่เขาครั้งแรกก็ไม่กล้าเข้าไปคุย เพราะเขาอยู่กันสองคน
จีจี้ : ที่หนูกลัวเพราะวันแรกที่อ่านบท เขาเตะขาหนูแต่ไม่ขอโทษหนู คือวันที่อ่านบทเขานั่งตรงข้ามแล้วเตะดังปั๊ก หนูก็มองหน้าเขา หนูคิดว่าเขาจะขอโทษหนู แต่เขาไม่ได้ขอโทษ แต่หนูคิดว่าเขาคงไม่รู้ว่าขาไปโดนใครหรือเปล่า หนูก็เลยกลัวเขา จนถึงตอนนี้เขาก็น่าจะยังไม่รู้ แต่จริงๆ ไม่มีอะไรค่ะ

...

เบื้องหลังการถ่ายทำสนุกๆ ที่อยากเล่า?
วี : มันจะมีซีนนึงที่หนูหลุดขำกับพี่วอร์ เป็นซีนร่ายคาถาที่หนูเป็นผีแต่นั่งอยู่ในสายสิญจน์ ซีนนั้นขำมากเพราะว่าพี่บอสเป็นคนที่เล่นหนังแนวนี้อยู่แล้ว เขาจะหัวไวด้านการคิดมุก เขาก็อิมโพรไวส์ขึ้นมา พวกหนูก็ขำกันทั้งกอง ตากล้องยังขำอ่ะ จนต้องพักก่อนเพื่อให้มีสมาธิกลับมา ก็รอติดตามค่ะว่าจะเป็นยังไง

เรื่องเม้าท์ในกอง?
ปูเป้ : มีตอนนึงเราจะชวนเขาไปกินข้าว
โมบายล์ : เราก็บอกชวนพี่หยิ่นพี่วอร์กันมั้ย แต่เขาไม่ไป บอกว่าไม่กินเผ็ด
วอร์ : จะแก้ตัวยังไงดี (ยิ้ม) ไม่ๆ คือตอนแรกยังไม่รู้ว่าทำยังไงได้บ้าง ไปกินข้าวด้วยได้มั้ย ไม่รู้กฎของ BNK48 ว่ายังไง
ปูเป้ : ไม่ๆ พวกเราเป็นคนชวนเลยนะ
วอร์ : อะ ครั้งหน้ามั้ยล่ะ เสร็จงานไปกินข้าวด้วยกันมั้ย เอามั้ยล่ะ (หัวเราะ)
โมบายล์ : ตอนนั้นก็คิดว่าทำยังไงดี ก็เลยเอาบอร์ดเกมมาเล่นในกอง

ฝากถึงแฟนๆ?
วี : ก็ฝากภาพยนตร์ “ผ้าผีบอก” ด้วยนะคะ เป็นหนังผีคอมเมดี้เรื่องแรกที่พวกเราได้มีโอกาสเล่น ก็เต็มที่มากๆ ค่ะ อยากให้ติดตามกันด้วยค่ะ ฝากด้วยค่ะ
วอร์ : เหมือนกันครับ ดูแล้วอย่าไปคิดเยอะ เข้าไปดูไม่ต้องซีเรียสกับเรื่องการย้อนเวลา ดูเอาเพลินๆ บันเทิงครับ.