โตเป็นสาวแล้ว! นักแสดงสาว “มิว-ลักษณ์นารา เปี้ยทา” ปรับลุคเปรี้ยวแซ่บขึ้นเรื่อยๆ พอถามว่าหวานใจดีกรีคุณหมอว่ายังไง เพราะเมื่อปลายปีเพิ่งฉลองครบรอบ 1 ปีกับแฟนหนุ่ม สาว มิว กลับบอกว่า ตอนนี้โสดแล้วจ้า! เพิ่งเลิกรากับแฟนหนุ่มแบบแผลยังสด เจอ มิว ร่วมฟิตติ้งละคร “ดงดอกไม้” ค่ายเช้นจ์ 2561 ที่ไพเรต สตูดิโอ

ช่วงนี้เปลี่ยนลุคให้เซ็กซี่ขึ้น?

“พยายามจะลบภาพลักษณ์นางเงือกของตัวเองตอนสมัยเด็กๆค่ะ แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนจำมิวได้จากบทนางเงือกใช่มั้ย แต่ก็อยากจะให้คนที่ติดตามมิวหรือว่าเคยดูละครมิวมาก่อนได้เห็นในอีกหลายๆลุค ว่าเราโตขึ้นแล้วนะ เราไม่ได้เป็นนางเงือกน่ารักๆอย่างนั้นอีกแล้วนะ”

ฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?

“ก็ดีนะคะ ที่เห็นได้ชัดๆเลยก็คงจะเป็นเรื่องงาน ทุกคนก็เริ่มเห็นว่าเราโตขึ้น ดูดีขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น งานมันก็เลยมีเข้ามา ส่วนเพื่อนๆทุกคนก็โอเค บอกว่าสวยนะ เพราะเราก็ใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น แฟนคลับเด็กๆตอนนี้ก็คือทุกคนโตกันมาหมดแล้ว เลยรับได้ ล่าสุดน้องแฟนคลับก็บอกว่าหนูดูพี่ตั้งแต่เด็กมากๆเลยค่ะ แต่ตอนนี้ก็ชอบนะ ทุกคนก็ยังเรียกมีนานุชอยู่ดี”

เปลี่ยนลุคแล้วเปิดโอกาสให้มีงานเข้ามาเยอะขึ้นใช่มั้ย?

“มิวว่าเปิดนะ เพราะว่าผู้จัดหรือผู้ใหญ่ในวงการหลายๆท่านก็ยังติดภาพลักษณ์มิวในลุคนางเงือกน่ารักใสๆอยู่ อย่างที่ได้มาเล่นดงดอกไม้ก็เป็นบทที่พลิกไปเลย พี่ฉอดไว้ใจให้มิวมาเล่นบทนี้ ก็ดีใจมากๆ นี่คือสิ่งที่มิวพยายามทำมาตลอด ให้คนเห็นว่าเรามีมุมอื่นนะ เราสามารถเล่นบทอื่นได้”

...

หวานใจว่ายังไงบ้างกับลุคเซ็กซี่แบบนี้?

“เอ่อ...เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตอนนี้ก็คงว่าไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีแฟนแล้วค่ะ โสดแล้ว”

เกิดอะไรขึ้น?

“ทุกคนตกใจ มิวก็ยังตกใจเหมือนกัน ที่เลิกกันไปก็เพราะเหมือนทัศนคติในหลายๆอย่างมันไม่ตรงกัน ก่อนหน้านี้เค้ายังเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ก็ยังฝึกงาน แต่ตอนนี้เค้าทำงานเต็มตัวแล้ว เค้าก็เลยโฟกัสกับตรงนั้นมากขึ้น โดยที่เราก็โฟกัสกับงาน แต่เราอาจจะไม่โฟกัสเท่าเค้า พอคุยกันแล้วมันไม่ลงรอยกันเท่าเมื่อก่อน เลยแบบงั้นก็แยกย้ายแล้วกัน”

เรื่องของเวลาด้วยมั้ย?

“ก็มีส่วนนะ เมื่อก่อนเราก็เจอกันบ่อย แต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้เจอกัน เค้าก็ทำงานเยอะมาก ก็เข้าใจ ถ้าเค้าโฟกัสอย่างอื่นอยู่ก็ให้เค้าไปตามทางของเค้า”

ห่างกันมานานหรือยัง?

“ยังไม่ถึงเดือนเลย ประมาณ 3 อาทิตย์ได้ค่ะ ก็เฮิร์ตนะ คบกันมาปีกว่าๆ พอคนคนหนึ่งที่เคยอยู่กับเรามาปีหนึ่งอยู่ดีๆก็หายไป มันก็โหวงๆ เจ็บๆอยู่ แต่ชีวิตมันก็ต้องมูฟออนเนอะ”

ด้วยความที่เราเริ่มต้นคุยกันจากการเล่นเกม ทำให้ไม่ได้ศึกษากันมากพอรึเปล่า?

“ก็ไม่ได้เชิงเจอกันผ่านเกมนะ เรารู้จักกันแต่แค่ไม่เคยเจอกัน รู้ว่าเพื่อนเรามีเพื่อนคนนี้นะ พอมีโอกาสได้มาคุยกันตอนนั้นก็ได้มาเจอกัน เราเจอกันบ่อยมากเลย ช่วงที่คบกันก็หาเวลามาเจอกันมากขึ้น ถ้าเค้าไม่ว่างมิวก็ไปหา ถ้าเค้าว่างก็มาหา คือเราก็ปรับตัวกันมาอยู่ตลอด แต่อย่างที่บอกพอถึงจุดหนึ่งจุดโฟกัสมันคนละอย่าง เลยเป็นเหตุผลให้เราเดินกันไปคนละทาง”

เรียกว่าจบลงด้วยดีมั้ย?

“จบลงด้วยดีนะ คุยกันด้วยดี เค้าก็บอกเหตุผลเราตรงๆว่าตอนนี้เค้าโฟกัสกับอะไร เราก็เข้าใจเค้าแหละ เค้าเป็นคนที่จริงจังมาก เราก็โอเค อยากให้เค้าได้ในสิ่งที่เค้าหวัง เราก็เลยแบบโอเค”

เสียดายมั้ยความรักครั้งนี้ดูเหมือนจบเร็วไปหน่อย?

“เสียดายนะเพราะมิวคบใครก็ไม่ได้กะคบเพื่อเลิก หนูก็อายุ 27 แล้ว ไม่ได้คิดว่าเราอาจจะมีแฟนอีกสักคนสองคน มิวก็กะว่าถ้าคนนี้ใช่คนนี้โอเคก็จะอยู่กันไปยาวๆ เราอาจจะได้แต่งงานกัน เราเคยวาดความฝันไว้ด้วยกันด้วยนะ แต่จุดโฟกัสมันเปลี่ยนมันก็เปลี่ยนค่ะ”

ทำให้เรากลัวความรัก กลัวการเริ่มต้นใหม่ไปเลยมั้ย?

“อืม...กลัวความรักมั้ย ไม่ได้กลัวค่ะ แต่ว่ามันก็อาจจะกลัวการเริ่มต้นใหม่นิดหนึ่ง เพราะก็เหนื่อยนะกับการที่ต้องเริ่มใหม่กับใคร ต้องกลับไปจุดสตาร์ตใหม่ ทั้งๆที่เราเดินมาครึ่งทางแล้ว”

เราคุยกันเข้าใจทั้งสองฝ่ายแล้วใช่มั้ย?

“เข้าใจค่ะ ต่างคนก็ต่างทำงาน ถามว่ายังพูดคุยกันได้มั้ย คือตอนนี้มิวว่าน่าจะยังไม่สะดวกที่จะเจอกัน มันยังสดไปหน่อย แต่อนาคตหลัง จากนี้ก็หวังว่าเค้าจะโอเค แล้วก็ได้มาพูดคุยกันเพราะเราไม่ได้เลิกกันแบบทะเลาะกันหรือมีมือที่สาม หวังว่าในอนาคตเราจะได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะเวลามิวมีอะไรก็ชอบที่จะปรึกษาเค้า เพราะเค้าก็เป็น คนมีเหตุผล มีตรรกะความคิดแบบคุณหมอก็จะเป็นเหตุเป็นผล การได้ฟังความคิดเห็นของเค้ามันก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ ตอนนี้ก็คืนสเปซให้กันและกันก่อน”.

...