เจมส์ จิรายุ เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 19 ปี และเขาได้แจ้งเกิดในอาชีพนี้ได้
อย่างสวยงาม ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ ซุป’ตาร์ สายฟ้าแลบ โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน จากละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร จนทำให้เด็กหนุ่มหน้าใสคนนี้กลายเป็นพระเอกดาวรุ่งที่น่าจับตามองในขณะนั้น

เจมส์จิ ยังได้สร้างปรากฏการณ์ห้างแตกเกิดขึ้น เมื่อเขาได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ค่ายมือถือ ซึ่งในขณะนั้นมีแฟนคลับมานั่งรอต่อแถวยาวนานอย่างกับรอซุป’ตาร์จากเกาหลี และเมื่อเจมส์จิปรากฏตัวต่อหน้าแฟนๆ ทุกคนก็พร้อมใจส่งเสียงกรี๊ด ทำเอาห้างเกือบแตก

และในตอนนั้น เจมส์จิยังสร้างปรากฏการณ์ที่ดาราหลายๆ คนก็ทำไม่ได้ เพราะในช่วงที่เขาโด่งดังสุดๆ เจมส์จิได้ขึ้นปกนิตยสารแทบจะทุกฉบับ รวมไปถึงค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ที่สูงมากในตอนนั้นคือ 14 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมตามติดชีวิตเจมส์จิ 24 ชั่วโมง สติกเกอร์ไลน์ และเคยทำให้โยเกิร์ตขาดตลาดมาแล้ว เรียกว่าละครเรื่องเดียวก็ทำให้เจมส์จิโด่งดังเป็นพลุแตก และทำให้เขากลายเป็นพระเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงมา 8 ปีแล้ว

เพราะมาแรงแบบแซงหน้ารุ่นพี่ งานนี้เลยทำให้เจมส์จิต้องพิสูจน์ตัวเองเป็นอย่างมาก เพื่อให้ทุกคนได้เห็นศักยภาพที่มีในตัวเขา ว่าไม่ได้มีดีแค่ความหล่อ แต่ยังมีฝีมือและความสามารถรอบด้านไม่แพ้ใคร ซึ่งเจมส์จิก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นมาตลอดในเวลา 8 ปี ว่าเขาคนนี้มีความพยายาม และพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นอยู่เสมอ

เพราะความฮอตของเจมส์จิ บวกกับความสามารถทางด้านการร้องเพลงและการเต้น จึงทำให้เขามีคอนเสิร์ตเดี่ยวที่ใช้ชื่อว่า MAGIC JAMES THE CONCERT ที่จัดขึ้นในปี 2558 และคอนเสิร์ต JAMES 4D Presented by BAOJI ที่จัดขึ้นในปี 2560 ซึ่งทั้ง 2 คอนเสิร์ตนี้ เจมส์จิได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ แม้จะมีดราม่าเกิดขึ้นในทุกคอนเสิร์ตก็ตาม

เพราะมีฐานแฟนคลับจำนวนมากและเหนียวแน่น ทำให้เจมส์จิต้องจัดงานแฟนมีตติ้งขึ้นเพื่อได้ทำอะไรตอบแทนให้กับแฟนๆ ของเขา ซึ่งแฟนมีตติ้งครั้งแรกของเจมส์จิมีชื่อว่า James Ji Monkey King Fan Meeting วันซนซนกับคนสำคัญ ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทย และนอกจากนี้ยังมีการจัดแฟนมีตติ้งที่ประเทศกัมพูชาอีกด้วย

ปรากฏการณ์ซุป’ตาร์ฟ้าแลบของเจมส์จิ ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นให้เห็นกันบ่อยเท่าไรนักของคนในวงการบันเทิง และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา 8 ปีแล้วที่เจมส์จิยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง และเขาก็ยังรักษามาตรฐานความฮอตของตัวเองเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ด้วยการยังมีงานละคร งานพรีเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง

และเพราะเจมส์จิยังมีกลุ่มแฟนคลับที่ติดตามและซัพพอร์ตอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็จะได้รับการสนับสนุนแบบสุดหัวใจจากแฟนๆ ที่รักและติดตามผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้เจมส์จิก็รู้ดี เขาถึงต้องพัฒนาฝีมือตัวเองให้เก่งขึ้นอยู่เสมอ เพื่อเป็นการตอบแทนเหล่าแฟนคลับที่น่ารักของเขาจะได้ตามชมผลงานที่มีคุณภาพจากเจมส์จิ.

แต่เมื่อเจมส์จิได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง และเริ่มรักในสิ่งที่ตัวเองทำ เขามีความฝันอยากเป็นสายเอ็น สร้างความบันเทิง สร้างความสุขให้คนดู และเพราะรักในสิ่งนี้ เจมส์จิจึงมีความหวังและตั้งใจว่าอยากจะได้รางวัลเกี่ยวกับการแสดงสักรางวัลเป็นของขวัญให้ตัวเองจากการทำงาน และในปี 2562 งานประกาศรางวัลนาฏราชครั้งที่ 11 เจมส์จิก็คว้ารางวัลนักแสดงนำชายมาครองได้อย่างสวยงาม จากละครเรื่อง กรงกรรม ในบทของ อาซา

เจมส์จิเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาเป็นคนชอบร้องเพลง ชอบด้านดนตรีมาโดยตลอด บางครั้งเคยรู้สึกผิดหวังกับตัวเองว่ามีไอเดียอยากทำเพลงมาตั้งนาน แต่ยังไม่ได้ทำสักที ถ้าได้ลงมือทำมันสักครั้งจะได้ไม่ติดค้างความรู้สึกนี้ และเจมส์จิใช้เวลา 2 ปีกว่าในการทำเพลงให้เป็นรูปเป็นร่าง และในที่สุดในปี 2564 เจมส์จิก็มีอัลบั้มที่ชื่อว่า See More มีทั้งหมด 5 เพลงด้วยกัน

ปรากฏการณ์ซุป’ตาร์ฟ้าแลบของเจมส์จิ ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นให้เห็นกันบ่อยเท่าไรนักของคนในวงการบันเทิง และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา 8 ปีแล้วที่เจมส์จิยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง และเขาก็ยังรักษามาตรฐานความฮอตของตัวเองเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ด้วยการยังมีงานละคร งานพรีเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง

และเพราะเจมส์จิยังมีกลุ่มแฟนคลับที่ติดตามและซัพพอร์ตอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็จะได้รับการสนับสนุนแบบสุดหัวใจจากแฟนๆ ที่รักและติดตามผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้เจมส์จิก็รู้ดี เขาถึงต้องพัฒนาฝีมือตัวเองให้เก่งขึ้นอยู่เสมอ เพื่อเป็นการตอบแทนเหล่าแฟนคลับที่น่ารักของเขาจะได้ตามชมผลงานที่มีคุณภาพจากเจมส์จิ.