นักแสดงสาวมากความสามารถ ซูซี่ สุษิรา ที่วันนี้จะมาเปิดใจครั้งแรกหลัง คริสโตเฟอร์ คู่หมั้นเสียชีวิต เพราะป่วยโรคซึมเศร้า ถึงขั้นไม่รับงานนานนับปี ต้องเยียวยาจิตใจด้วยความเชื่อเรื่องติดต่อโลกของวิญญาณ พร้อมทั้งอัปเดตสถานะหัวใจ ตอนนี้โสดแล้วแซ่บมาก มีผู้ชายตามจีบเพียบ อีกทั้งเจ้าตัวยังบอกอีกว่าโควิด-19 ทำพิษ ธุรกิจเกือบเจ๊ง ขาดรายได้ 2 ปี ผ่านทางรายการ "คุยแซ่บ Show" ทางช่องวัน 31 ที่มี ชมพู่ ก่อนบ่าย และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ


ตอนนี้สภาพจิตใจหรือความรู้สึกเราเป็นยังไงบ้าง?
ซูซี่ : ตอนนี้รู้สึกดี แฮปปี้ดี

ย้อนอดีตไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คู่หมั้นของเราตอนนั้นคบกันกี่ปี?
ซูซี่ : คบกัน 7 ปี 5 ปีแรกคบกันแบบไกลๆ เราบินไปหากันอะไรประมาณนี้ แล้วได้มาอยู่ด้วยกันคือ 2 ปีท้าย

ระหว่างทางที่คบกันเรารู้มาก่อนไหมในเรื่องของอาการป่วย?
ซูซี่ : ทราบค่ะ เขาทำงานเป็นนักรบ จะต้องเจอเหตุการณ์อะไรหลายอย่างที่กระทบถึงจิตใจเขา

...

ความรัก 2 ปีท้ายที่มาอยู่ด้วยกันเป็นยังไงบ้าง?
ซูซี่ : ดีค่ะ เรามีโมเมนต์ที่แฮปปี้กันตลอด

แต่วันนึงก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คู่หมั้นเสียชีวิต ย้อนเล่าเหตุการณ์หน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?
ซูซี่ : ตอนนั้นอยู่กับเขาที่บ้านซูซี่ที่เชียงใหม่ พอได้ข่าวก็รู้สึกอึ้ง ทำตัวไม่ถูก ซี่ไม่สามารถที่จะพูดได้เลย พูดไม่ออกเลย ทำตัวไม่ถูก เศร้ามาก

ตอนนั้นข้างๆ ซูซี่มีใครอยู่เป็นเพื่อน แล้วดึงออกจากอาการช็อก?
ซูซี่ : โชคดีมากๆ ที่มีคนรอบข้างซัพพอร์ตเราเยอะเหมือนกัน โชคดีมากๆ ที่มีครอบครัวที่รักเรา ซัพพอร์ตเรา อยู่ข้างเราตลอดเวลา แล้วก็โชคดีที่มีเพื่อนรักทุกคนที่ให้กำลังใจเราตลอดเวลา สำหรับซี่คงผ่านจุดนั้นไม่ได้แน่นอน ถ้าเราไม่มีทุกคนที่รักและซัพพอร์ตเรา อยากจะขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ให้ความรักกับซี่ช่วงนั้น ซี่รู้สึกซาบซึ้งมาก

ตอนนั้นก็มีคุณแอรินไปให้สัมภาษณ์กับพี่ๆ สื่อแทน?
ซูซี่ : ขอบคุณแอรินมากๆ ที่เป็นตัวแทนให้ในช่วงเวลาที่ซี่ไม่สามารถเป็นมนุษย์ได้

แสดงว่าตอนนั้นเราอยู่กับตัวเอง เราค่อนข้างมีน้ำตาเยอะพอสมควร?
ซูซี่ : แน่นอน ตอนนั้นแอรินน่ารักมากเลย เราไม่ต้องพูดอะไรมาก เขารู้เลยว่าเขาต้องช่วยแล้ว มาพูดให้เรา มาตั้งฐาน มาเป็นบล็อกให้ซูซี่

ตอนนั้นใช้กำลังใจหรือแนวทางอะไรที่ทำให้ลุกขึ้นมาใหม่ได้?
ซูซี่ : จะบอกว่ามันเป็นประสบการณ์และเรื่องราวที่ไม่ได้ง่ายเลย เราใช้เวลาในการดูแลตัวเองเยอะมาก เพื่อจะผ่านพายุตรงนั้นไป ทุกคนทำได้ ถ้าเราตั้งใจและโฟกัสในการดูแลตัวเอง ให้เวลากับตัวเองเยอะๆ ทุกอย่างมันคือขั้นตอนต้องใช้เวลาเป็นสเตปๆ ไป

นอกจากกำลังใจจากครอบครัว อีกหนทางนึงคือไปหาวิธีบำบัดเทอราพี?
ซูซี่ : อย่างแรกอยากพูดถึงการดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพสำคัญที่สุด ซี่ออกกำลังกายทุกวัน แล้วต้องมีวินัยในการออกกำลังกาย ก็อยากขอบคุณคริสที่เขาช่วยเทรนซูซี่ เขาเก่งมากในเรื่องของการออกกำลังกาย เหมือนทำให้เราเป็นเทรนเนอร์ให้กับตัวเอง

ศาสตร์เทอราพีไม่ใช่การนวด แต่เป็นการบำบัดอย่างหนึ่ง เป็นการฝึกให้เรารักตัวเอง?
ซูซี่ : ใช่ค่ะ คือการรักตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วที่เราจะให้ตัวเองคือความรัก แล้วก็การดูแลตัวเอง การดูแลสุขภาพจิต กาย แล้วก็ใจของเรา สำหรับซี่เองก็ไปอยู่กับธรรมชาติ ธรรมชาติคือสิ่งที่ซูซี่รักมากๆ เลย แล้วธรรมชาติจะให้เอนเนอร์จี้ที่ดีมากๆ ในการบำบัด แล้วซี่ก็ไปหาหมอจิตวิทยาด้วย ช่วย Mindset ให้เราหาแนวทางคิดให้เราคิดบวก ไม่ใช่ว่าเราป่วยนะ แต่ซี่เห็นว่าทุกคนต้องการความช่วยเหลือในบางครั้ง มันเป็นเรื่องปกติ เราไม่ควรจะอายเรื่องนี้

เห็นว่ามีอีกศาสตร์นึง นั่นคือการสื่อสารกับโลกวิญญาณ?
ซูซี่ : ซี่ได้เรียนรู้จากครู การทำสมาธิ เรียกว่า "ชี่กง" มันคือศิลปะการฝึกจิตใจ แล้วฝึกจิตตัวเองของจีน พวกนี้จะช่วยให้เราสตรองทั้งจิต กาย แล้วก็ใจ มันทำให้เรารับสถานการณ์ทุกๆ อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งตอนนั้นซี่ก็ทำทุกวันเลย

เห็นเขาบอกว่าศาสตร์นี้ถ้านั่งดีๆ สามารถติดต่อกับโลกวิญญาณได้จริงเหรอ?
ซูซี่ : มันเป็นการโฟลว์ของเอนเนอร์จีมากกว่า เราใช้จิตวิญญาณของเราคอนเน็กกับโลก กับจักรวาล กับพระเจ้า พอเราคอนเน็กกับข้างนอกแล้วมันเป็นการโฟลว์เอนเนอร์จีจากข้างในไปข้างนอก ข้างนอกมาข้างใน เราได้รับเอนเนอร์จีที่ดีมากๆ จากพระเจ้า พอเข้ามาในตัวของเราแล้วจะทำให้จิตของเราโปร่ง แล้วก็มีอะไรที่พิเศษแล้วก็เหนือธรรมชาติ ตอนนั้นซี่ทำทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง แต่มันไม่เหมือน 1 ชั่วโมงนะคะ มันเหมือน 10 นาที

...

ที่ฝึกอะไรพวกนี้คืออยากติดต่อไปหาคุณแฟนที่เสียชีวิตด้วยหรือเปล่า?
ซูซี่ : ไม่เกี่ยวหรอก มันเป็นการติดต่อกับพระเจ้า มันเป็นเอนเนอร์จีที่เหนือธรรมชาติมากกว่า ซี่ว่าคริสเขาไปอีกที่นึงแล้ว เขาไปดีแล้ว

ใช้ศาสตร์นี้บำบัดตัวเองจนดีขึ้น แต่ไม่ 100% เลยตัดสินใจกลับไปอยู่ออสเตรเลีย?
ซูซี่ : ใช่ ตอนนั้นน่าจะประมาณ 1-2 เดือนหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น บ้านที่นั่นเป็นสถานที่ที่เรารู้สึกแฮปปี้ที่สุด อยู่ติดทะเล เราได้ทำการฝึกชี่กงอยู่กับทะเล บนพื้นทราย ได้ฟังเสียงคลื่น ได้รับลม อากาศบริสุทธิ์ ได้เอนเนอร์จีจากพระอาทิตย์ทุกวัน เวลาที่เราฝึกไม่เคยรู้สึกพลังที่เยอะขนาดนี้ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ในชีวิตเลย มันได้ประสิทธิภาพที่ดีมากๆ เลยตอนที่เราไปอยู่ที่นั่น

ตอนนั้นไปกี่เดือน?
ซูซี่ : น่าจะประมาณ 2 เดือน ได้ไปฝึกจิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราสามารถที่จะยิ้มได้ด้วยในระหว่างที่เราทำ บางครั้งเราก็เห็นเขานะ เห็นเขาเดินออกมาจากทะเล ยิ้มให้กับเรา มันเป็นน้ำตาที่ซาบซึ้ง เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ต่อกัน

ในช่วงที่ฝึก แอบมีน้ำตาอยู่บ้างไหม?
ซูซี่ : แน่นอนอยู่แล้ว มนุษย์เราต้องมีโมเมนต์พวกนี้อยู่แล้ว แต่ส่วนมากเป็นน้ำตาที่แฮปปี้ ที่ซาบซึ้งมากกว่าว่าโมเมนต์ทุกโมเมนต์ที่เราได้อยู่ด้วยกัน มันเป็นโมเมนต์ที่ดีมาก มีความสุข

...

กว่าจะแข็งแรง งดรับงานในวงการไปกี่เดือน?
ซูซี่ : เกือบปีที่ซี่ขอพักจิตใจ แล้วก็ขอพักงานวงการ มันสำคัญมากที่เราต้องให้เวลากับตัวเอง

ณ ตอนนี้กลับมาทำงานปกติแล้ว?
ซูซี่ : ใช่ค่ะ

เราได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง?
ซูซี่ : เรียนรู้ให้รักตัวเองมากขึ้น ให้รักตัวเองที่สุด ดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพ จิต กาย และใจ

ถ้าสื่อสารถึงคนรักเก่าได้ อยากสื่ออะไร?
ซูซี่ : รู้ว่าได้ยิน และคงไปอยู่ในสถานที่ที่สวยงามแล้ว ความรู้สึกลึกๆ ก็คือรักและเป็นห่วงเสมอ

พอทุกอย่างเข้าที่ คุณซูซี่ก็มีแฟน คนก็มองว่ามูฟออนเร็วไปหรือเปล่า?
ซูซี่ : จริงๆ มันก็ปีนึงนะคะ ซี่ว่ามันไม่ได้เร็วมากหรอก มันแล้วแต่คนว่าจะคิดยังไง แต่สำหรับเรา เราพร้อมที่จะเริ่มใหม่ แล้วซี่ว่าคริสก็อยากให้เรามีความสุข ไม่ใช่ให้เราจมอยู่กับที่อย่างนั้น

กว่าเราจะแข็งแรงมาได้ก็ใช้เวลานาน พอมาเจอคอมเมนต์แบบนี้รู้สึกแย่อีกไหม?
ซูซี่ : ส่วนมากซี่ไม่ได้ดูหรอก ไม่ได้อ่าน อะไรที่ไม่ดีสำหรับเรา เราอย่าไปสนใจ เราอย่าไปเสพมัน

ตอนนี้แซ่บขึ้น?
ซูซี่ : เขินเลย ตอนนี้ก็โสด

คนมาขายขนมจีบเยอะไหม?
ซูซี่ : ก็มีเข้ามาคุย มีแน่นอนอยู่แล้ว สวยแบบนี้มันจะไม่มีได้ไง

ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มไทยหรือหนุ่มต่างชาติ?
ซูซี่ : ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นชาติไหน ก็มีหมดแหละ

เรามีสเปกไหม?
ซูซี่ : ซี่เปิดรับ ไม่ได้เจาะจงว่าชาติอะไรเป็นยังไง คืออยากให้เขาเป็นคนที่จิตใจดี น่ารัก คุยได้

เป็นคาสโนวี่หรือเปล่า?
ซูซี่ : ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก ซี่ก็อยู่นิ่งๆ ของซี่แหละ อยู่สวยๆ ไม่ต้องอะไรมาก เดี๋ยวก็ได้คุยกันไปเรื่อยๆ ดูใจกันไปเรื่อยๆ ไม่รีบ แต่ในอนาคตซี่ก็อยากมีลูกแหละ ในหัวแพลนไว้คร่าวๆ ว่าอยากมีลูกอีกสัก 4 ปี ถ้าได้นะคะ

...

แสดงว่าเปิดหัวใจ ไม่เข็ดเรื่องความรักแน่นอน?
ซูซี่ : ค่ะ

เห็นว่าสมัยก่อนทำงานไม่ดูแลตัวเอง ทำงานเสร็จไปเที่ยว ร่างกายโทรม?
ซูซี่ : ถ้าเราไม่สนใจในการดูแลตัวเองร่างกายเราก็จะทรุดโทรม ซึ่งตอนนั้นไม่ไบรต์เท่าตอนนี้

โควิดทำธุรกิจพัง?
ซูซี่ : เป็นธุรกิจของครอบครัว เป็นธุรกิจผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้ามัดย้อม ผ้ามัดหมี่ คุณแม่เป็นฝรั่ง แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผ้า

พอโควิดแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจเราบ้าง?
ซูซี่ : ช่วงโควิดลำบากมากเลย เชียงใหม่ช่วงที่ผ่านมาไม่มีนักท่องเที่ยว ไม่มีคนมาเยี่ยมเลย ไม่มีคนเข้ามาในร้านเลย เราไม่มีลูกค้า ไม่มีรายได้ เราจำเป็นต้องหาทางออกด้วยวิธีอื่น คือ ทำเวิร์กช็อป คือปกติเราก็ทำอยู่แล้ว เป็นเวิร์กช็อปย้อมผ้า คือเราต้องทำเวิร์กช็อปเพื่อที่จะเลี้ยงดูตัวเองให้ได้ เราจำเป็นต้องปล่อยพนักงานหลายคนไป ก็เสียดายมากๆ เราไม่อยากเลย แต่จำเป็นจริงๆ

ตอนแรกที่ทำเรามีพนักงานกี่ชีวิต?
ซูซี่ : น่าจะประมาณ 7 คน ก็ออกเกินครึ่ง มันจำเป็นมากๆ ก็เสียใจนะที่ต้องปล่อยพวกเขาไป ขนาดคุณแม่ พี่สาว ก็ลำบากมากๆ รายได้ไม่ได้กันเลย

แบกค่าใช้จ่ายเอาไว้ถึงขั้นควักเนื้อไหม?
ซูซี่ : ใช่ค่ะ ทั้งซี่ ครอบครัว ต้องใช้เงินสะสมที่เก็บไว้ทั้งหมดมาใช้เลี้ยงดูตัวเอง

ละครก็ไม่ได้ถ่าย ร้านก็ไม่มีรายได้ เอาเงินเก็บมาใช้ สถานการณ์ตอนนี้เป็นไงบ้าง?
ซูซี่ : ช่วงที่ผ่านมาลำบากมาก ซี่ใช้เงินที่สะสมเอาไว้ แล้วช่วยเลี้ยงดูคุณแม่ด้วย คุณแม่มีรายจ่าย แต่ไม่มีรายได้เลย ของเราเองก็ใช้แต่เงินที่เซฟไว้ เพราะว่างานวงการก็ไม่มี ก็เหนื่อย

หลักแสนไหม หรือเลยไปหลักล้าน?
ซูซี่ : หลักล้าน คือภาระมันก็เยอะ เราก็เครียด ซี่ว่าทุกคนก็เครียดนะ ทุกคนลำบากมากๆ ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านไปให้ได้นะคะ แสงสว่างมันอยู่ข้างหน้าเรา เราต้องอดทนไว้ ช่วงนี้เราก็เริ่มดีขึ้น มีอะไรเข้ามาหาเรามากขึ้น ก็เป็นกำลังใจ อดทนต่อไปนะคะ

ซูซี่มีลูกแล้ว?
ซูซี่ : ลูกที่เซอร์ไพรส์มากๆ นั่นก็คือโปรเจกต์ชุดว่ายน้ำของซูซี่เอง ซี่ออกแบบเอง เนื้อผ้าทำจากพลาสติกรีไซเคิล ช่วยสิ่งแวดล้อม