หวานซ่อนเปรี้ยวลุคอินเตอร์ มัจฉา โมซิมันน์ ศิลปินสาวลูกครึ่งสวิตเซอร์แลนด์ จากค่ายเพลง White Fox (ไวท์ ฟ็อกซ์) ในเครือ GMM Grammy เจ้าของเพลงฮิต “So What” ที่ปลุกกระแส T-PoP เมืองไทยให้คึกคัก ล่าสุดส่ง “Waste My Time” ด้วยเพลงที่มีบีตเท่ๆ บวกกลิ่นอายของฮิปฮอปแบบจัดๆ ส่งท้ายปิดอีพีอัลบั้ม “Dreaming” ที่บอกเล่าความรักที่ไม่ชัดเจน อย่ามัวแต่มานั่งเสียดายเวลา จากฝีมือการแต่งเนื้อร้องแบบฟาดเฟียร์ซของ เกต-จินภัค เปียกลิ่น น้องสาวคนเก่งของ แก้ม-วิชญาณี เพื่อส่งต่อพลังบวกให้ “ผู้หญิง” หันมารักตัวเอง ฮึบ! แล้ว มูฟออนแบบเริ่ดๆ เชิดๆ
สาวป๊อปไอคอนรุ่นใหม่ มัจฉาเล่าถึงเพลง Waste My Time ที่เป็นเพลงสำหรับผู้หญิงสายสตรอง ด้วยว่า “คืออยากให้พลังกับผู้หญิง ถ้ายูอกหัก ผู้ชายไม่แคร์ยู ยูก็อย่าไปแคร์ผู้ชาย เพลงนี้คล้ายๆ เพลง So What เพลงแรกของอัลบั้ม เฟียร์ชๆ สตรอง แรงบันดาลใจมาจากพี่นุ้ย วงพีชแบนด์ พี่เกต-จินภัค เขียนให้แรงบันดาลใจมาจากตัวเราด้วย เราชอบใคร เขาไม่ชอบ เราก็อย่าเสียเวลา ไม่เห็นต้องไปแคร์เลย เพลงนี้เป็นเพลงที่ฉารักมากและเป็นเพลงที่ร้องยากมากๆ เพราะว่าเพลงนี้แต่งไว้ให้ร้องเสียงต่ำมากกับเสียงสูงมาก เรนจ์เสียงฉาจะสูง เวลาเสียงต่ำเลยคอนโทรลยากค่ะ”
...
ตอกย้ำสาวมั่นลุคแซ่บจี๊ดจ๊าด หอบเสื้อผ้าแบรนด์ CHA COLLECTIVE กับ SAUCE COURT ขึ้น “มาลัยไทยรัฐ” จริตโพสเป๊ะปังสมเป็น “นางแบบ” มืออาชีพ ที่โลดแล่นบนแคตวอล์กมากว่า 7 ปี และนอกจากพาร์ตนางแบบ-นักแสดงและนักร้องจนต้องร้องว้าว...วว สาวมัจฉายังลุยธุรกิจสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ได้แรงบันดาลใจจากแฟชั่นยุค 90 เรียกง่ายๆ รุ่นคุณแม่ยังสาวนั่นเอง
“ฉาทำแบรนด์เสื้อผ้า อันนี้ทำตั้งแต่ตอนที่เริ่มเรียนมหาวิทยาลัย Raffles International College สาขาแฟชั่นดีไซน์แล้วค่ะ ฉาชอบเรื่องแฟชั่นตั้งแต่เด็กๆ อยากเป็นดีไซเนอร์ อยากเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง วันนึง ฉาไปบ้านคุณยาย ไปรื้อเสื้อผ้า ของคุณแม่ เพราะคุณแม่เป็นคนชอบแต่งตัวมาก (ลากเสียงสูง) ฉาเห็นเสื้อผ้ารู้สึกน่ารักมากสไตล์เราเลย และตัวฉาเองก็เหมือนเป็นแฝดของคุณแม่ เราคิดว่าทำไมเราไม่ทำเสื้อผ้ายุคที่เราชอบ ยุค 2000 ที่เราอยากจะใส่ เราเริ่มทำเสื้อผ้า ทำทุกอย่างเองหมด ทำดีไซน์ หาช่างทำแพตเทิร์น ตอบลูกค้าเอง ทำได้ 3 ปีแล้ว ทำก่อนโควิด แล้วตอนนี้มีแบรนด์เสื้อผ้า ออกกำลังกายด้วย ฉา ชอบออกกำลังอยู่แล้ว และคุณแม่เป็น เทรนเนอร์ด้วยค่ะ ออกกำลังกาย มาตั้งแต่เด็ก (มิ หน้าล่ะ! หุ่นเป๊ะปังมว้ากกกกก) ตอนเด็กๆ แม่ ให้ทำกิจกรรมเยอะมาก ว่ายน้ำ ตีเทนนิส เล่นไวโอลิน เปียโน เต้นละติน เต้นฮิปฮอป เต้นบัลเล่ต์ ให้ลองทุกอย่าง เมนหลักเป็นนักว่ายน้ำเพราะคุณแม่อยากให้สูง ตอนนี้สูง 175 ซม. ไม่อยากสูงไปกว่านี้แล้วค่ะ (หัวเราะ)”
สวยเก่งครบเครื่อง จบในคนเดียว เลยเกิดกระแส เชียร์กระหน่ำ รีเควสอยากให้ขึ้นเวที “ขาอ่อน” สักครั้ง!! มั่นอกมั่นใจ “มง” ต้องลงอย่างแน่นอน!! “เรื่องประกวดนางงาม ก็มีคนเชียร์เยอะค่ะ เริ่มจากแฟนเพจนางงาม เอารูปฉาไปลง คุณแม่ก็เลยเห็นเลยมาบอก...‘ฉามีคนเชียร์ยูไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส เยอะมาก’ ตอนแรกฉาอายุ 17 เกือบจะไปสมัคร ตอนนั้นฉาทำงานเดินแบบอย่างเดียวก็อยากทำอะไรมากกว่านี้ เน็กซ์ สเต็ป ฉาก็อยากลองไปนางงาม แต่พอดีตอนนั้นอายุไม่ถึง อีกมุมก็รู้สึกดีที่ยังไม่ได้ไปเพราะตอนนั้นค่อนข้างเด็กไป แต่ตอนนี้ขอทำเพลงก่อนอนาคตก็เป็นไปได้ที่จะไปประกวดเพราะฉาเป็นคนไม่ปิดโอกาสให้ตัวเองอยู่แล้ว อยากลองค่ะ ถ้าเรารู้สึกว่าเราพร้อมจริงๆ คือถ้าไปประกวดก็ต้องไปให้สุด และต้องได้มง เพราะฉะนั้นเรารอให้ทุกอย่างพร้อมจริงๆ ยังมีเวลาอีกหลายปีเพราะ ตอนนี้ฉาเพิ่งจะอายุ 22 ยังมีเวลาหลายปี ถ้าฉาคิดว่าเรามั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ค่อยลงประกวดดีกว่า ฉาตั้งใจทำก็ครั้งเดียวเป็นประสบการณ์หนึ่งครั้ง เราไม่อยากลงประกวดหลายรอบ เพราะรู้สึกว่ามันมีหลายอย่างมากในชีวิตกำลังทำอยู่ ถ้าเกิดไปตรงนั้นต้องพร้อมที่สุดไปทำ”
...
พกความมั่นเกินร้อย!! แบบนี้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตก็ต้อง “เพอร์เฟกต์” ไม่งั้นไม่ทำหรือเปล่า มัจฉาเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า “ไม่ค่ะ ไม่คิดตัวเองเพอร์เฟกต์ ผิดหวังได้ อย่างในเรื่องการทำงานเพราะไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เราคนเดียว มีหลายฝ่ายที่ทำงานร่วมกับเรา มีความคิดเห็นไม่ตรงกับเรา เราก็ต้องมาเจอกันตรงกลาง บางทีบางอย่างไม่ตรงใจเรา 100% แต่เราทำดีที่สุดแล้ว มันไม่ใช่เรื่องซีเรียสเป็นเรื่องเข้าใจ”
เคยมีเรื่องผิดหวังกับตัวเอง “ไม่มีค่ะ (ยิ้ม)”
หลายๆคนจะทึ่งในความสามารถรอบด้านของเรา ตัวเราพอใจในความเป็นมัจฉา “ฉารู้สึกแฮปปี้และโชคดีมาก มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่เรารักมากๆ คนให้โอกาสฉา ถ้าในเรื่องสกิล ตอนนี้ฉาให้ทุกอย่างที่ฉาให้ได้พยายามทำให้ดี แต่ฉาไม่อยากหยุดแค่นี้ต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ” แหม่ๆสมเป็นผู้หญิงยุคใหม่
...
ไม่ได้ลักกี้แค่เรื่องงานเท่านั้น แม้แต่ความรักก็แฮปปี้สุดๆเรียกว่า “แต้มบุญ” สูง!! เพราะสถานะหัวใจของสาวมัจฉาบอกเลยว่าไม่โสด!! มีแฟนหนุ่มเคียงข้างคอยซัพพอร์ตทุกสิ่งทุกอย่าง “ก็มีคนที่เราศึกษาอยู่ เขาไม่ใช่คนในวงการ เป็นคนที่รู้จักตั้งแต่เรียนไฮสกูล เพราะว่าอยู่โรงเรียนเดียวกัน เป็นรุ่นพี่ปีนึง เขาเป็นลูกครึ่งเยอรมัน-ฟิลิปปินส์ เขาไม่ใช่คนไทยแต่พูดภาษาไทยได้”
เริ่มเปลี่ยนสถานะเพื่อนพี่เป็นคนพิเศษตอนไหน “ตอนแรกไม่ได้คุยกัน เพิ่งมาคุยกันตอนจบไฮสกูลแล้ว”
แสดงว่าคบกันนาน 3-4 ปี “ใช่ค่ะ 4 ปีแล้วค่ะ”
เก็บความลับเก่งเหมือนกันนะ “ไม่ได้ปิดบังเลย ลงไอจีบ้างแต่ชีวิตเราค่อนข้างไพรเวทอยู่แล้ว ไม่ได้โชว์ทุกอย่างในชีวิตอยู่แล้วแต่ไม่ได้ปิดบัง”
เขารู้ไหมเราเป็นนางแบบ ดารา นักร้อง เขาสนับสนุนขนาดไหน “เขาซัพพอร์ตตลอด มีอะไรช่วยเหลือกัน อย่างธุรกิจที่ทำเขาก็เป็นพาร์ตเนอร์ เป็นหุ้นส่วน แบรนด์เสื้อผ้าออกกำลังกายก็เหมือนกัน เราเป็นเหมือนเพื่อนกัน ค่อนข้างสนิทกัน เราเป็นพาร์ตเนอร์ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ความสัมพันธ์เลยค่อนข้างแน่วแน่ มั่นคง”
...
ความโรแมนติกในตัวแฟนของฉาล่ะเป็นยังไงบ้าง “รู้สึกเขาเป็นคนที่น่ารัก สวีต เราสามารถพูดหรือบอกอะไรไปเขารับฟัง คอยเติมเต็มให้เราเสมอค่ะ”.
ภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต
เสื้อผ้า : CHA COLLECTIVE กับ SAUCE COURT