หลังจากที่นักร้องแรปเปอร์สาว มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล ถูกออกหมายเรียกกรณีดารา Call out จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ พร้อมทั้งติดแฮชแท็ก #saveมิลลิ และแสดงความคิดเห็นเพื่อปกป้องและให้กำลังใจนักร้องดัง

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. มิลลิและนายศุชัยวุธ ชาวสวนกล้วย ที่ปรึกษากฎหมายพรรคไทยสร้างไทย ทนายความ ได้เดินทางมารับทราบข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา มาตรา 393 ที่ สน.นางเลิ้ง โดยหลังจากเสร็จสิ้นการรับทราบข้อกล่าวหาและรับสารภาพ ก็ได้จ่ายเงินเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ด้านผู้กล่าวหาแจ้งว่า ไม่ติดใจเอาความ ส่วนคดีอาญาเป็นอันเลิกกัน ก่อนที่นักร้องสาวจะเดินทางกลับทันที

โดยในครั้งนี้มีกลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้าเดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมทั้งเปิดเพลงของมิลลิและโชว์ป้าย "#saveมิลลิ" รวมถึงป้าย "ให้กำลังใจมิลลิ" และ "พักก่อนประยุทธ์" ด้วย ซึ่งการมารับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีที่ นายสนธิญา สวัสดี ยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการติดตาม กำกับ ดูแล ตรวจสอบ กรณีการคอลเอาต์ ของดารา นักร้อง และผู้มีชื่อเสียง เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 

...

ด้านทนายความของมิลลิ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเรื่องนี้ไว้ว่า น้องมิลลิถูกตั้งข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณา เป็นความผิดตามมาตรา 393 โดยน้องมิลลิได้มีการแสดงความคิดเห็นในทางทวิตเตอร์ ซึ่งบางข้อความนั้นผู้แจ้งความนั้นเห็นว่าไม่สุภาพ หยาบคาย เลยมีการแจ้งความร้องทุกข์ตามสิทธิ์ของเขา เมื่อมีหมายเรียก ทางน้องมิลลิก็มาพบพนักงานสอบสวน

การแสดงความคิดเห็นของน้องมิลลิเป็นการแสดงความคิดเห็นที่สุจริต เป็นสิทธิของประชาชนคนหนึ่งที่จะแสดงความคิดเห็นด้วยความห่วงใย

ซึ่งถ้อยคำที่สื่อไปในคนวัยหนึ่งยุคหนึ่งอาจมองว่าไม่สุภาพ แต่คนยุคของมิลลิซึ่งอายุ 19 อาจมองว่าเป็นถ้อยคำธรรมดา เราได้คุยกันแล้วว่าเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี เมื่อบอกว่าเราใช้ถ้อยคำหยาบคาย วันนี้เราเป็นเด็ก เรามายอมรับและจ่ายค่าเปรียบเทียบปรับไป เป็นความผิดลหุโทษตามมาตรา 393

เมื่อถามว่าข้อความไหนที่เป็นข้อความที่เข้าข่ายความรุนแรง ทนายตอบว่า ยอมรับว่าถ้อยคำที่สื่อไป เมื่อมีคนมาแจ้งความในฐานะผู้ใหญ่ว่าไม่สุภาพ เราดูแล้วว่าเราเป็นเด็ก เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ดีให้บ้านเมือง ก็เลยมายอมรับในถ้อยคำที่กล่าวออกไป

ส่วนเรื่องการแสดงออก ต้องเรียนว่าการแสดงออกความคิดเห็น การกระทำใดๆ ซึ่งเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่เกิดประโยชน์กับส่วนรวม ประชาชน ไม่ได้ทำให้ผู้อื่นเสียหาย

กับเรื่องที่มิลลิพูดถึงรัฐบาล หากจะพูด ไม่อยากให้พูดถึงเนื้อเรื่อง ถึงแม้มีคำว่ารัฐบาล แต่ให้ดูข้อความที่ตามมาด้วย อันไหนที่ทำดีอยู่แล้วก็โอเค แต่การสื่อสารของมิลลินั้นซึ่งเป็นเด็กอาจใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ข้อความทวิตเตอร์มีข้อความอย่างนั้นจริง

แต่มันมีข้อความที่ 2 คืออยากให้มีการกระทำ ไม่ได้พูดถึงว่าไปเจาะจงตัวโดยตรง อันนี้เนื้อหาในคดีก็ไม่อยากจะพูดมาก เพราะมันจบแล้ว อันไหนฟังดูไม่สุภาพก็ยอมขอโทษและเสียค่าปรับ แต่การแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ คุณมิลลิก็จะแสดงความคิดเห็นต่อไป

โดยมิลลิโดนคดีเดียว ปรับ 2000 บาท ไม่มีเรื่อง พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ก่อนจะขอบคุณพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ซึ่งผมเข้าใจและเห็นใจในการทำงานของเขา เพราะมีหลายเรื่องที่ตำรวจต้องรับ ซึ่งคดีเหล่านี้เป็นคดีธรรมดา ความผิดลหุโทษ

...

ส่วนกรณีที่มิลลิมาวันนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีของนายสนธิญา โดยบอกว่าอันนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดอะไร มันอยู่ที่มุมมอง พร้อมทั้งบอกว่า "ใครจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับใคร ผมฝากไว้นิดนึงว่าบ้านเมืองในวันนี้ อำนาจมี แต่ท่านมีหน้าที่อยู่ด้วย การใช้อำนาจต้องใช้อำนาจให้เหมาะสม เพราะปัญหาของบ้านเมืองมีเยอะแยะมากมายไปหมดในเรื่องโควิด ส่วนใครจะแจ้งความก็เป็นสิทธิ์ของเขาครับ".