ทำเอาแฟนๆ เป็นห่วง เมื่อนักร้องหนุ่ม ไอซ์ ศรัณยู วินัยพานิช มีอาการป่วยภาวะไม่สามารถหยุดการกินได้ (Binge Eating Disorder) ซึ่งนอกจากจะส่งผลในเรื่องรูปร่างและน้ำหนักที่เปลี่ยนไปแล้ว ยังทำให้จิตตก กังวล รู้สึกผิด โทษตัวเองว่าไม่ควรกิน แต่ไม่สามารถห้ามมือห้ามใจให้หยิบอาหารเข้าปากได้

โดยในคลิป “ไอซ์ ป่วยเป็น “โรคกินไม่หยุด” โรคจริงๆ ไม่ใช่ความตะกละเด้อ!” ทางยูทูบแชนแนล ICE SARUNYU OFFICIAL ไอซ์เล่าถึงอาการป่วยครั้งนี้ไว้ว่า อาการโรคนี้ฟังดูแล้วอาจจะตลก แต่ถ้าเป็นเองจะรู้ถึงความไม่ตลกเลย คือไม่สามารถควบคุมการกินของตัวเองได้ กินแม้กระทั่งเวลาไม่หิว ต่อให้เป็นอาหารที่ไม่อยากกิน แต่ถ้าวางอยู่ใกล้ๆ ก็พร้อมเอามือไปหยิบแล้วเอาเข้าปาก รู้ว่าทุกคนอาจจะพูดว่าก็แค่ไม่กินไง ทุกอย่างอยู่ที่ใจ มันก็คงใช่ แต่มันหนักมากกว่านั้น เพราะภาวะการควบคุมการกินของตัวเองไม่ได้ ทำให้กินตลอดเวลา ปัญหาที่ตามมาคือมีความรู้สึกผิด รู้สึกผิดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับใจที่ได้รับผลกระทบ

มันอาจจะดูไม่หนักหนาสาหัสมาก แต่มันเริ่มสาหัสมากกว่านั้น พอเริ่มโดนทักว่าแก้มออกหรือเปล่า น้ำหนักขึ้นรึเปล่า ก็กินแบบนี้ไงถึงอ้วนขึ้น มันจะเริ่มเกิดภาวะต่อต้าน ซึ่งเป็นอาการของโรค ทำให้เริ่มหลอกตัวเองจากสังคมโดยบอกทุกคนว่าไม่ เราลดน้ำหนักอยู่ เราไม่กิน คนรอบตัวชินกับการที่ไอซ์ไม่กินแป้ง เนื้อสัตว์ติดมัน มื้อเย็นกินแต่ผลไม้ นั่นคือการแกล้งทำเป็นให้ทุกคนเข้าใจแบบนั้น

...

แต่ภาวะที่เกิดขึ้นคือเราเริ่มซ่อนอาหาร พอไม่มีใครเห็นก็จะกินเยอะมาก ไม่มีคำว่าอิ่ม กินจนของหมด หลังจากกินความรู้สึกผิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดภาวะความเศร้า ซึ่งถือว่าเป็นอันตราย เพราะเป็นภาวะที่ทำให้ซึมเศร้าขึ้น ปฏิเสธการกินร่วมกันกับคนในสังคม แยกตัวกินคนเดียว รู้สึกผิดกับรูปร่าง น้ำหนัก พอคนมาพูดว่าให้หยุดกิน เหมือนเป็นคำสั่ง พอบอกว่าให้ออกกำลังกาย ไอซ์เป็นคนออกกำลังกายทุกวัน วันละ 1 ชม. แต่สิ่งที่ไม่ทดแทนกันคือเรากินเยอะมาก ต่อให้ออกกำลังกายแค่ไหนก็ตาม การกินคือ 70-80% การออกกำลังกาย 20% แล้วไอซ์ตรวจเจอว่าไขมัน LDL ในเส้นเลือดสูงมาก และมีไขมันพอกตับ

ส่วนวิธีการแก้ ไอซ์บอกว่าอย่าอายที่จะไปปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับสุขภาพจิต ขั้นแรกคุณหมอจะให้คำปรึกษาและให้กำลังใจ และบอกว่าอาการเป็นแค่ไหน มีผลกระทบอะไรกับร่างกายบ้าง และเข้าสู่การรักษาต่อไป ไอซ์เจอ LDL สูงมาก ปัญหาใหญ่คือชอบกินขนมหวานกับเบเกอรี่มาก ก็พยายามปรับตามคำแนะนำของหมอ เบเกอรี่ก็ทานเป็นของคลีน อาหารก็พยายามลด อะไรที่เป็นคาร์บ ไขมัน เปลี่ยนให้โอเคขึ้นกับสุขภาพ พยายามเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อจะกินแต่จะหงุดหงิดมาก

ในเรื่องการเยียวยาจิตใจ ถ้ามีใครเป็นโรคนี้ อย่าเด็ดขาดที่จะบอกเขาว่าหยุดกินสิ ก็แค่ไม่หยิบมากินไง ทุกอย่างอยู่ที่ใจ หมอจะไม่พูดแบบนี้ คนที่เผชิญภาวะโรคนี้จะรู้สึกเหมือนโดนตำหนิ โดนสั่ง และเกิดภาวะต่อต้าน ตอนนี้ไอซ์พยายามใช้เวลากับอย่างอื่นมากขึ้น ไม่เปิดตู้เย็น อาหาร พยายามปรับอยู่ ก็ทำได้ดีขึ้น เพราะตอนนี้มีภาวะของ LDL สูงมาก ไขมันเกาะตับด้วย พร้อมทั้งบอกว่าถ้าคนที่เป็นปกติและคิดว่าตัวเองเป็นโรคนี้ อย่าคิดเองว่าตัวเองเป็นโรคนี้ ถ้าสงสัยว่าเป็นให้ไปปรึกษาแพทย์

ส่วนสาเหตุที่เกิดโรคนี้ ไอซ์บอกว่าตัวเองเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 18 ปี เป็นคนมีแก้มตั้งแต่เด็ก พอเข้าวงการ เรื่องของรูปร่างมันสำคัญมาก ปกติจะมีคนตัวแบนกับคนตัวกลม ไอซ์เป็นคนตัวกลม ซึ่งคนตัวแบนออกทีวียังไงก็ดูผอม ต่อให้อ้วนขึ้นเขาจะยังดูผอม แต่คนตัวกลมอย่างไอซ์ ออกทีวียังไงก็ดูกลมกว่าปกติ และดูอ้วนกว่าตัวจริง 5 กก. ทำให้เราดูอ้วนกว่าในทีวี ทำให้ถูกทักว่าอ้วนรึเปล่าๆ เลยทำให้พยายามควบคุมน้ำหนักตลอดเวลาเป็น 10 ปี จนมันเป็นภาวะหนึ่งในจิตใจ

...

พอมาถึงจุดนึงมีตอนที่น้ำหนักพุ่งปรี๊ด ไอซ์คุมไม่อยู่แล้ว คือเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว คนเริ่มทักว่าอ้วน เลยพยายามอด แต่ตบะแตกก็กินมากกว่าเดิมอีก จนเกิดภาวะ Binge Eating Disorder สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนเป็นโรคนี้ นอกจากสุขภาพกาย สุขภาพจิตสำคัญมาก ไอซ์ว่าคนบ้านเราเวลาเจอกันชอบทักเรื่องรูปร่างภายนอก แล้วไอซ์เป็นคนมีแก้ม พอถ่ายแค่หน้าก็โดนทักว่าอ้วน ก็เลยเป็นบ้า ยิ่งลดๆ ก็นำไปสู่การควบคุมน้ำหนักตลอดเวลานับ 10 ปี พูดเรื่องอ้วนตลอดเวลา มีช่วงนึงที่ไอซ์เคยทำงานกับน้ำชา ชีรณัฐ ก็บ่นเรื่องอ้วนให้เขาฟัง ทั้งที่ตอนนั้นผอมมาก แล้วอดอาหาร น้ำชาบอกพี่ไม่อ้วนจริงๆ พี่พูดแต่เรื่องอ้วนตลอดเวลา พี่เป็นอะไรรึเปล่า แต่เรายังไม่รู้ตัวว่าเราเป็น แล้วส่งผลมาถึงตอนนี้

ก่อนจะบอกว่าที่เห็นว่ามีแก้มเยอะและตัวใหญ่ขนาดนี้ ไอซ์พยายามอยู่ เผชิญกับภาวะโรคนี้อยู่ ถ้าเจอตัวจริงให้กำลังใจกันด้วย ตอนนี้ก็พยายามใช้วิธีการวิทยาศาสตร์มาช่วยทำให้อยากอาหารน้อยลง แต่ไม่ขอบอกรายละเอียด ที่นำมาแชร์ไม่ได้อยากให้เป็นประเด็นอะไร พร้อมทั้งฝากถึงทุกคนว่าให้ดูแลเรื่องการกิน หากเริ่มมีภาวะเศร้า เริ่มปฏิเสธการกินกับผู้อื่น แอบกิน ซุกของกิน หยุดกินไม่ได้ อันนี้อันตราย เพราะมันจะนำไปสู่ภาวะสุขภาพจิตด้วย.