• เริ่มต้นสนใจเล่นดนตรีตั้งแต่ 9 ขวบ รักการเล่นกีตาร์ แต่ไม่เคยคิดเป็นนักร้อง
  • ที่มาที่ไปกว่าจะเป็นวง "โลโซ" สร้างชื่อเสกเป็นร็อกเกอร์ดังในตำนาน
  • มหากาพย์เรื่องอื้อฉาวที่ต้องเผชิญ เลือกเดินทางผิด ชีวิตวุ่นวายจนถึงปัจจุบัน

ถือเป็นตำนานร็อกเกอร์เบอร์ต้นๆ ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับ เสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ เสก โลโซ เชื่อว่าหลายคนยังคุ้นตากับภาพเมื่อครั้งเป็นนักร้องนำวง LOSO (โลโซ) ค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ฝากผลงานเพลงดังมากมาย อาทิ ไม่ต้องห่วงฉัน, เราและนาย, ซมซาน, จักรยานสีแดง, มอ’ไซค์รับจ้าง, พันธ์ทิพย์, ฝนตกที่หน้าต่าง, เคยรักฉันบ้างไหม ฯลฯ แต่ในช่วงหลังกลับมีเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ทั้งในเรื่องความรัก, ทำร้ายร่างกาย, เสพยาเสพติด, ยิงปืนขึ้นฟ้า ไลฟ์สดมาราธอน จนถูกนำตัวส่ง รพ. และตรวจพบว่าป่วยไบโพลาร์ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์จะพาไปย้อนเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตร็อกเกอร์หนุ่มคนนี้ด้วยกัน

จุดกำเนิดศิลปินดัง

...

เสกเริ่มสนใจการเล่นดนตรีมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เพราะตอนนั้นไปดูคอนเสิร์ตวงคาราบาวแล้วถูกใจ เลยอยากเป็นนักดนตรีเหมือนรุ่นพี่ ซึ่งเครื่องดนตรีที่สนใจก็คือกีตาร์ แต่เริ่มฝึกเล่นกีตาร์อย่างจริงจังเมื่ออายุประมาณ 12 ปี และเริ่มฟังเพลงสากล ในเวลานั้นเสกอยากเป็นนักดนตรีอาชีพ ไม่ได้อยากเป็นนักร้อง

จากนั้นหนุ่มเลือดอีสานคนนี้เริ่มต้นชีวิตในวงการดนตรีด้วยการตระเวนเล่นดนตรีอาชีพตามงานแต่งงาน งานบวช และตามผับหลายจังหวัด ซึ่งในช่วงที่เล่นตามร้าน บางครั้งก็ต้องร้องแทนนักร้องที่บางครั้งไม่ได้มา จึงรู้สึกว่าตัวเองร้องเพลงได้ ส่วนแนวเพลงที่ชอบคือสไตล์อัลเทอร์เนทีฟร็อก

ในช่วงที่เริ่มเล่นดนตรี เสกมีโอกาสได้เจอเพื่อนนักดนตรีอาชีพ ทั้งมือเบส รัฐ อภิรัฐ สุขจิตร์ และมือกลอง ใหญ่ กิตติศักดิ์ โคตรคำ จึงได้พูดคุยและก่อตั้งวง “โลโซ” ซึ่งดัดแปลงมาจากคำว่า “ไฮโซ” โดยคำว่าโลโซเป็นคำที่สะท้อนถึงต้นกำเนิดของวง และเป็นการบ่งบอกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ในช่วงปลายปี 2537 วงโลโซก็เข้ามากรุงเทพฯ เพื่อตระเวนเล่นดนตรีตามผับ

และเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิต เมื่อพระเอกหนุ่มฮอตในเวลานั้น แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ต้องการทำวงดนตรี จึงได้ชวนวงโลโซมาเป็นวงแบ็กอัพ ออกอัลบั้มชุด “เด็กหลังห้อง” เมื่อต้นปี 2539 และแท่งเป็นคนแนะนำให้เสกนำอัลบั้มเดโม่ที่เคยทำเพื่อเสนอค่ายเพลงต่างๆ ไปเสนอกับค่ายมอร์ มิวสิก ของ อัสนี โชติกุล ที่เพิ่งเปิดในเวลานั้น และสุดท้ายวงโลโซก็ได้เป็นศิลปินสมดังใจ

ความสำเร็จของโลโซ

เพียงแค่เปิดตัวอัลบั้มแรก “Lo Society” ในเดือน เม.ย. 2539 ก็ประสบความสำเร็จเกินคาดหมาย มีเพลงดัง อาทิ ไม่ต้องห่วงฉัน, เราและนาย, ไม่ตายหรอกเธอ, ฉันหรือเธอ (ที่เปลี่ยนไป) ก่อนจะมีอัลบั้มพิเศษ LOSO Special ในปี 2540 ซึ่งเป็นอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ “จักรยานสีแดง” ที่มี มอส ปฏิภาณ และ ทาทา ยัง เป็นพระนางในเรื่อง และเพลง “จักรยานสีแดง” กลายเป็นเพลงฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองในเวลานั้น

ส่วนอัลบั้มชุดที่ 2 “Loso Entertainment” ถือเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เพราะมียอดขายมากกว่า 2 ล้านตลับ ส่งผลให้โลโซกลายเป็นวงร็อกเบอร์หนึ่งของไทยในเวลานั้น โดยมีเพลงดัง อาทิ อยากเห็นหน้าคุณ, อะไรก็ยอม, ซมซาน, เลิกแล้วต่อกัน, แม่ จากนั้นปี 2542 โลโซออกอัลบั้มที่ 3 “Rock & Roll” ซึ่งได้ กลาง ณัฐพล สุนทรานู ทำหน้าที่มือเบสแทนรัฐ ส่วนเพลงฮิตอัลบั้มนี้คือ ใจสั่งมา, คืนจันทร์ ฯลฯ

แต่หลังจากนั้นเมื่อโลโซออกอัลบั้มที่ 4 “Losoland” ในปี 2544 ซึ่งมีเพลงฮิต อาทิ มอ’ไซค์รับจ้าง, รอยยิ้มนักสู้, หมาเห่าเครื่องบิน กลับมียอดขายที่ลดลง เนื่องจากเทปผีซีดีเถื่อนที่ระบาดหนัก หลังจากนั้นอีก 6 เดือนถัดมา โลโซออกอัลบั้มชุดที่ 5 “ปกแดง” ในเดือน ส.ค. ปีเดียวกัน โดยชื่อและปกอัลบั้มเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์การต่อต้านเทปผีซีดีเถื่อน และมีเพลงสุดจี๊ดอย่าง “พันธ์ทิพย์” ที่เสกแต่งเพื่อประชดประชันห้างพันธุ์ทิพย์ที่ขายเทปผีซีดีเถื่อน อีกทั้งมีเพลงดังในอัลบั้มหลายเพลง อาทิ ฝนตกที่หน้าต่าง, เคยรักฉันบ้างไหม, 5 นาที ฯลฯ อีกทั้งยังได้รัฐกลับมาทำหน้าที่มือเบส และเป็นอัลบั้มแรกของไทยที่ลดราคาซีดีเหลือ 155 บาท ซึ่งประสบความสำเร็จด้านยอดขายกว่า 9 แสนชุด

...

บินเดี่ยว

หลังจากที่โลโซประกาศยุบวงในปี 2546 เสกก็ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก “7 สิงหา” สังกัดมอร์ มิวสิก ในเดือน เม.ย. 2546 และบินไปที่ประเทศอังกฤษ เพื่อเรียนด้านภาษาและดนตรีเพิ่มเติม เมื่อกลับเมืองไทย เสกก็ได้มาทำงานเพลงร่วมกับนักร้องซุปเปอร์สตาร์ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ และออกอัลบั้ม เบิร์ด-เสก เมื่อปี 2547 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีแกรมมี่ ซึ่งมียอดขายสูงกว่า 2 ล้านชุด มีเพลงดังอย่าง อมพระมาพูด, คุณรู้ไหมครับ

จากนั้น เสก โลโซ ออกอัลบั้มเดี่ยวชุด Black & White สังกัด GMM Grammy ในปี 2549 ก่อนจะย้ายมาอยู่ค่ายอัพจีและออกอัลบั้มเดี่ยวชุด SEK LOSO ในเดือน พ.ค. 2552 และอัลบั้ม Plus ในเดือน มิ.ย. 2553 ก่อนจะออกมาเปิดค่ายเพลงของตนเองในชื่อ Yess Records ปล่อยอัลบั้มเดี่ยว “ใหม่” ในเดือน ธ.ค. 2553 จากนั้นออกอัลบั้ม I’m Back ในปี 2556 สังกัด โลโซ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และอัลบั้ม Part 2 สังกัด Yess Records ในปี 2558 ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าหลังจากเสกออกอัลบั้มเดี่ยว กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าเมื่อครั้งรวมตัวกับเพื่อนสมาชิกวงโลโซ

...

นอกจากจะมีความสามารถในการร้องเพลงและเล่นกีตาร์แล้ว เสก โลโซ ยังเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีความสามารถในการแต่งเพลง ซึ่งนอกจากจะแต่งเพลงให้กับตัวเองแล้ว ยังแต่งเพลงให้กับศิลปินดังอีกหลายคน อาทิ อัสนี-วสันต์ (เพลง คนหลายใจ), เบิร์ด ธงไชย (เพลง อย่ารักกันเลย, อย่าทำร้ายใจกัน, รู้ไหม (ว่าฉันคิดถึง), อยากเป็นแฟนเธอ), เปเปอร์ แจม (เพลง ไม่รักดี), OHO (เพลง (เก็บใจใส่) กุญแจ) ฯลฯ อีกทั้งยังแต่งเพลงให้กับ อมร ศุขพิมาย หรือ แสน นากา พี่ชายแท้ๆ ของเสก ในเพลง ดูถั่ว ดูถั่ว, นักร้องขาดรัก, เรารักประเทศไทย ด้วย

ชีวิตรักสุดแสนวุ่นวาย

เรื่องความรัก เสก โลโซ จดทะเบียนสมรสกับ กานต์ วิภากร ภรรยา มีลูกด้วยกัน 3 คน คือ เสฏกานต์ (เสือ หรือไทเกอร์) ซึ่งเป็นลูกชายคนโต และลูกสาว 2 คน คือ กรกวี (กวาง หรือ เดียร์) และ น้องลอนดอน จากนั้น เสก-กานต์ หย่ากันครั้งแรกเมื่อเดือน ส.ค. 2554 หลังสมรสมานานกว่า 20 ปี โดยสาเหตุมาจากปัญหาภายในครอบครัว จากนั้นเสกเปิดตัวคบหากับ อ้อม พรพิมล เทพพิชัย แต่ก็เกิดข่าวฉาวตามมา ก่อนที่เสกและอ้อมจะเลิกรากันในที่สุด

หลังจากนั้น เสก-กานต์ ก็กลับมาจดทะเบียนสมรสรอบที่ 2 ในวันที่ 7 ส.ค. 2555 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของเสกอายุครบ 38 ปี และกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่แล้วก็มีปัญหาในครอบครัวอีก จึงทำให้ทั้งคู่จดทะเบียนหย่าอีกครั้งในวันที่ 18 มิ.ย. 2558 และเสกได้มีการยกทรัพย์สินและค่าเลี้ยงดูต่างๆ รวมกว่า 17 ล้านบาทให้กับกานต์

...

ซึ่งหลังจากที่หย่ารอบ 2 ในปี 2559 เสกก็มีข่าวว่าคบหาดูใจกับนักแสดงสาววิกหมอชิต แซนวิช ปภาดา โชติกวณิชย์ โดยมีลูกชาย 1 คน คือ น้องลีออง ด.ช.จอมเก้า โชติกวณิชย์ ที่ลืมตาดูโลกเมื่อ 9 ก.ค. 2560 ซึ่ง เสก-แซนวิช ไม่ได้แต่งงานกัน และเลิกรากันไป หลังจากนั้นในเดือน ต.ค. 2560 เสกก็ได้เปิดตัวว่ากำลังคบหาดูใจกับ อีฟ อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ หรือ อีฟ แม็กซิม

แต่แล้วก็เกิดประเด็นร้อนอีกรอบ เมื่อ กานต์-อีฟ และ เสือ ลูกชาย พาเสกไปรักษาอาการไบโพลาร์ที่ รพ. เมื่อเดือน ส.ค. 2561 หลังจากเสกไลฟ์สดมาราธอนแบบไม่หลับไม่นอน แต่หลังจากนั้นไม่นาน กานต์-อีฟ ก็มีปัญหาทะเลาะเดือด เปิดศึกสายน้ำลายผ่านโลกโซเชียล และกานต์ร่วมมือกับแซนวิชไล่อีฟออกจากบ้าน แต่หลังจากนั้น กานต์-แซนวิช ก็แตกหัก และกานต์เรียกร้องให้แซนวิชตรวจดีเอ็นเอน้องลีออง เพื่อยืนยันว่าเป็นลูกชายของเสกด้วย แต่แซนวิชไม่ได้ไปตรวจ พร้อมทั้งยืนยันว่าน้องลีอองเป็นลูกของเสกจริงๆ และที่ผ่านมาเลี้ยงลูกเองมาตลอด

และหลังจากเรื่องวุ่นวายในชีวิตของเสกเริ่มสงบลง เสก-กานต์ จึงตัดสินใจจดทะเบียนสมรสรอบที่ 3 เมื่อ 2 เม.ย. 2563 ซึ่งเสกยืนยันว่าเป็นการจดทะเบียนรอบสุดท้ายแล้ว ด้านกานต์ก็ยืนยันว่า 5 คนพ่อแม่ลูกจะไม่แยกจากกัน และจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายครอบครัวอีกต่อไป ก่อนจะจัดพิธีแต่งงานในวันที่ 12 ก.ย. 2563 โดยน้องเสือ ลูกชายคนโต ขอเป็นเจ้าภาพจัดงานมงคลสมรสเพื่อเป็นของขวัญให้พ่อกับแม่

มหากาพย์เรื่องอื้อฉาว

นอกจากเรื่องผลงานเพลงที่ถูกจับตามองแล้ว เสก โลโซ ยังเป็นนักร้องที่มีข่าวฉาวเยอะมากคนหนึ่งของวงการบันเทิง โดยเฉพาะในช่วงหลังๆ มักจะมีประเด็นร้อนบนพื้นที่สื่อต่างๆ อยู่เป็นประจำ ไล่มาตั้งแต่ตอนที่เสกไปตบบ้องหู น้อย วงพรู ระหว่างที่ทั้งคู่ไปแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอน นางลอย นาฏกรรมแห่งรักแอนด์โรล ในงานมหกรรมดนตรี Lincoln Center Festival ของโรงละครดังในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อปลายเดือน ก.ค. 2549 สาเหตุเป็นเพราะเสกเคืองที่อีกฝ่ายสะบัดรองเท้าปลิวไปโดนตัวในระหว่างทำการแสดงแล้วไม่ยอมขอโทษ แต่สุดท้ายเสกก็ได้ขอโทษและกลับมาคืนดีแล้ว

หลังจากนั้นในเดือน ธ.ค. 2554 เสกตกเป็นข่าวฉาวอีกครั้ง หลัง กานต์ วิภากร โพสต์เดือดแฉอดีตสามีอย่างเสกทำร้ายร่างกาย ทอดทิ้งลูกเมียที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 20 ปี อีกทั้งยังโพสต์ภาพเสกในลักษณะคล้ายเสพยาเสพติดจนถูกเผยแพร่ไปทั่วโซเชียล ทำให้เกิดกระแสด้านลบอย่างหนัก ก่อนที่เสกจะออกมาแถลงยอมรับว่าเสพยาจริง จากนั้นค่ายแกรมมี่แถลงข่าวยกเลิกสัญญาของเสกที่ยังเหลือ 3 ปี ในวันที่ 20 ธ.ค. 2554

เสกตกเป็นข่าวร้อนอีกครั้งเมื่อ กานต์ วิภากร โพสต์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊ก สันนิษฐานว่าอดีตสามีทำร้ายร่างกาย บี ลูกน้องคนสนิท จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อ 16 เม.ย. 2559 ก่อนที่เสกจะถูกศาลตัดสินให้จำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับ 4,000 บาท แต่รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 3 เดือน รอลงอาญา 2 ปี พร้อมบริการสังคม 3 ครั้งภายใน 1 ปี และจ่ายค่าเสียหายให้คู่กรณีเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท

และอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงมากเช่นกัน คือกรณีที่เสกไลฟ์สดโชว์ยิงปืนขึ้นฟ้า 9 นัด และยิงปืนลงพื้น 1 นัด ในวันที่ 28 ธ.ค. 2560 หลังจากเสร็จงานคอนเสิร์ตในงาน 250 ปี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยอ้างว่าเป็นการยิงสลุตถวายพระองค์ท่านด้วยความจงรักภักดี แถมยังโพสต์อีกว่า “ถ้าลูกปืนโดนใครจะเป็นไรมั้ย=ไม่ตายหรอกเธอ” จนถูกวิจารณ์อย่างหนัก

จากนั้น 31 ธ.ค. 2560 ตำรวจได้นำหมายศาลและหมายจับไปบุกค้นที่บ้านของเสก แต่เสกไม่ยอมเปิดประตู โดยอ้างว่าไม่เชื่อว่ามีหมาย ตำรวจจึงปีนรั้วเข้าไป จากนั้นเสกไลฟ์สดผ่านแฟนเพจบอกว่ามีตำรวจเข้ามาในบ้าน แต่จะไม่เปิดประตูให้และรอทนายก่อน พร้อมทั้งบอกว่ามีปืน ใครเปิดประตูเข้ามาจะยิง ตำรวจตัดสินใจเรียกหน่วยอรินทราชมาช่วย ปิดล้อมบ้านนานกว่า 7 ชม. จนสามารถควบคุมตัวเสกได้ ก่อนจะถูกตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะในเวลาต่อมา

จากเรื่องดังกล่าวจึงทำให้เสกถูกตั้ง 3 ข้อหา คือ มีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน หลังขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการควบคุมตัว, เสพยาเสพติด (ยาไอซ์) โดยล่าสุดเมื่อ 25 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดมีนบุรีอ่านคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา และไม่รับฎีกาของเสก จึงให้รับโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คือ 2 ปี 18 เดือน แต่กานต์ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 6 แสนบาท เพื่อประกันตัวเสก ศาลพิจารณาแล้วจึงอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว

อีกเรื่องที่หลายคนยังจำได้ดี คือเหตุการณ์เสกไลฟ์สดในแฟนเพจตัวเอง โดยมีการพูดถึงบุคคลที่ 3 ด้วยคำหยาบและเป็นการหมิ่นประมาท อีกทั้งยังไลฟ์สดอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 5 วัน จนทำให้กานต์ อีฟ และน้องเสือ ลูกชาย ตัดสินใจนำตัวเสกไปรักษาที่ รพ. ซึ่งผลการตรวจพบว่าเสกเป็นโรคไบโพลาร์ระยะสุดท้าย ต่อจากนี้อาจคิดสั้นได้ โดยหลังจากได้รับการรักษา เสกมีอาการดีขึ้น จนเริ่มใช้ชีวิตได้เป็นปกติ อีกทั้งกานต์ยังให้สัมภาษณ์เมื่อ 25 มี.ค. 2564 หลังจากเสกได้รับการประกันตัว ยืนยันว่าปัจจุบันเสกเปลี่ยนไปแล้ว และจะไม่กลับไปเป็นคนไม่ดีอีก พร้อมทั้งขอโอกาสให้กับสามีอีกครั้งด้วย

มาถึงบรรทัดนี้ เชื่อว่าหลายคนคงอดเสียดายแทนร็อกเกอร์หนุ่มไม่ได้ เพราะถึงแม้เสกจะเป็นศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานเพลงดีๆ เป็นที่จดจำในวงการเพลงไว้มากมาย แต่เพราะพฤติกรรมหลายอย่าง อีกทั้งเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งไม่เคยให้ผลดีกับใคร ส่งผลให้ชีวิตของเขาต้องพบเจอแต่ความวุ่นวายมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหากเขาไม่เลือกเดินทางผิด ชีวิตในปัจจุบันของเสกคงจะมีความสงบสุข ไม่ต้องมีเรื่องเดือดร้อนวุ่นวายใจอย่างเช่นทุกวันนี้.

ผู้เขียน : Penguin บินได้
กราฟิก : Phantira Thongcherd
ภาพ : นสพ.ไทยรัฐ, ไทยรัฐออนไลน์, อินเทอร์เน็ต