เรียกได้ว่าสะเทือนไปทั้งวงการบันเทิง หลังจากกรณี ดีเจมะตูม เตชินท์ ออกมาประกาศว่า ติดโควิด-19 ทำเอาหลายคนที่ได้เคยร่วมงานด้วย ต้องทยอยกันเข้าตรวจหาเชื้อ และต้องกักตัวอยู่บ้าน เช่นเดียวกับพิธีกร-อาจารย์สอนทำอาหารชื่อดังอย่าง อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ที่เคยร่วมงานกับดีเจมะตูมในวันที่ 18 มกราคม โดยได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อเรียบร้อย และมีผลออกมาเป็นลบ
ล่าสุด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์วิดีโอคอล ผ่านรายการ แซ่บ 108 ทางช่อง 8 ว่า ถูกยกเลิกงาน และคนที่ทำงานด้วยไม่ไว้ใจ ไม่กล้าแม้แต่จะซื้อข้าวแกงข้างโรงเรียน รวมถึงคุณแม่วัย 90 กว่า เครียดคิดว่าลูกติดโควิด และโดนจับแยกตรวจในโรงพยาบาล
"คืออย่างงี้ค่ะ อาจารย์เป็นคนดูแลรักษาสุขภาพตัวเองนะคะ ไปไหนใส่หน้ากากปิดหน้า มีแอลกอฮอล์พกติดกระเป๋า เว้นระยะห่าง อาจารย์ล้างมือตลอดเวลา ฉันก็ทำทุกอย่าง ฉันเลือกงานทำ ฉันก็ต้องดูงานไหนบ้างที่เขามีความปลอดภัย ทุกอย่างมีครบ
หลังจากนั้นเสร็จ อ้าวตายแล้วคนที่ฉันไปร่วมงานถึงแม้จะมีระยะห่างก็ติดโควิด แล้วฉันต้องทำยังไงฉันก็ต้องรีบไปตรวจ ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎโซเชียลดิสแทนซิ่ง กักตัวต้องทำทุกอย่าง ไม่เป็นไร อาจารย์ยิ่งศักดิ์รับได้จะไม่โทษว่าใครเอาโรคมาใส่ ฉันว่าไม่มีใครอยากป่วย
...
คุณมะตูมเขาป่วย เขาก็คงไม่อยากป่วย แต่ฉันไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านที่จะไปถามเขาไปติดโรคมาจากไหน ไปปาร์ตี้หรืออะไร มันเรื่องของเขา แต่ตัวฉันเองเมื่อโดนฉันทนได้ แต่คนรอบข้างฉันมันเดือดร้อนวายวอด
คุณแม่ฉันต้องไปฟอกไตที่โรงพยาบาล คนที่โรงพยาบาลเขาตกอกตกใจ เขาเอาแม่ฉันแยกออกไปตรวจ เพราะบอกว่า อาจารย์ยิ่งศักดิ์ติดโควิด แม่ฉัน 90 กว่า ถูกจับตัว แม่ตกใจ โทรศัพท์มาเสียงสั่นว่า ลูกเป็นอะไรทำไมไม่บอกแม่ แม่ฉันแก่แล้วสุขภาพไม่ดี ต้องถูกแยกออกไปอย่างน้อยที่สุดต้อง 14 วัน ความรู้สึกของคนแก่อายุ 90 กว่า จะรู้สึกอย่างไร"
"เจ้าหน้าที่ที่โรงเรียนของฉัน ทุกคนก็ตกอกตกใจพ่อแม่จะไม่ให้มาทำงาน ว่าเจ้านายติดโควิดรึเปล่า ยังไม่ทันจะติดเลย โทษนะคะ มันจะวายวอดตั้งแต่ยังไม่ได้ถูกตัดสินเลยค่ะ ข้าวแกงข้างโรงเรียนก็ไม่กล้าไปซื้อกิน เดี๋ยวหาว่าร้านนี้อาจารย์ยิ่งศักดิ์มาซื้อ เดี๋ยวเขาเจ๊งเพราะฉันจะทำยังไง
ตลาดสดก็ไม่กล้าไป พนักงานของฉันคนหนึ่งมีลูก ลูกก็เอามาให้เขาเลี้ยงไม่ได้ เพราะบอกว่าแม่ทำงานกับอาจารย์ยิ่งศักดิ์ แล้วก็ต้องพากันไปตรวจทั้งบ้าน 4-5 คน หมดไปหมื่นกว่าบาท ขอโทษนะคะผลกระทบของคนรอบข้างมันทำให้อาจารย์ยิ่งศักดิ์ต้องเสียหายมากเลยค่ะ"
อาจารย์เล่าต่อว่า "ตอนนี้ไม่โกรธใครหรอกค่ะ แต่อาจารย์อยากฝากบอกผ่านรายการนี้นะคะ เพราะมีคนดูเยอะค่อนประเทศ เป็นรายการที่มีเหตุมีผล ฉันชอบดูมากค่ะ เพราะเป็นรายการที่มีสาระมากกว่าบางรายการอีกค่ะที่แอบเชียร์แอบอวยกันเอง บอกให้ฟังเลยนะคะ คือสังคมไทยบางส่วนป่วยค่ะ
โรคโควิดมันมาถึงเมืองไทย มันมาเพื่อให้คนไทยแสดงความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม โรคโควิดไม่มีใครอยากเป็น มันไม่ใช่โรคร้ายแรงค่ะ แต่มันเป็นโรคที่มนุษย์ศึกษาและป้องกันได้ แต่ไม่ใช่มาใส่ดราม่า จิตสำนึกมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถบังคับให้เกิดได้ต้องเกิดจากตนเอง ถ้าเราแก้ไขคนอื่นไม่ได้เราก็ต้องแก้ไขที่ตนเองด้วยการดูแลตัวเองค่ะ"
"สาเหตุของการติดโควิด ไม่ได้เกิดจากการทำงานแบบฉัน หรือไม่ได้เกิดจากคนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่เจตนาเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับ แต่ ณ วันนี้เรามารู้ว่า ที่เป็นโควิดมันเกิดจากพฤติกรรมส่วนบุคคล อันนี้ขอโทษนะคะ เราคงไม่สามารถไปพูดได้ เพราะว่าเขาอายุน้อยกว่าฉัน เพราะว่าเขาคงยังอายุน้อย เป็นเด็กก็ต้องมีโอกาสพลาด อยู่ในวัยที่กำลังคึกคะนองแล้วก็สุ่มเสี่ยง
ฉันยอมรับว่าเขาเป็นคนเอาโรคมาใส่คนโน้นคนนั้นคนนี้ แต่ฉันไม่สามารถกล่าวล่วงได้ว่า ทำไมคุณยังจัดปาร์ตี้ ทำไมคุณเป็นโควิด ทำไมคุณยังไม่รู้สึกว่าจะมีจิตสำนึก และรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคม ฉันพูดไม่ได้อันนี้เป็นเรื่องของเขา"
"เรื่องจิตสำนึกสอนกันไม่ได้ค่ะ เลยอยากจะพูดให้สังคมไทยฟังนะคะ อย่าตื่นเต้น อย่าตกใจจากโรคโควิด เอาสติมาใส่ตัวและดูแลตัวเอง อย่าเป็นแบบคนอื่นที่สามารถสนุกสนานได้ ฉันคิดว่าถ้าเที่ยวนี้ยังคิดเองไม่เป็นจัดปาร์ตี้กันอีกก็เอาไปตัดแล้วเขวี้ยงทิ้งให้เป็ดกินไปเลยค่ะ ไม่ต้องใช้กันแล้ว
อาจารย์อายุจะ 70 แล้ว ไม่เคยคิดเลย ว่าการทำงานใช้ชีวิตในวงการมานานอาจารย์จะต้องมาเดือดร้อนได้รับผลกระทบขนาดนี้ อาจารย์ไม่ได้พูดอะไรเลยอยู่เงียบๆ คิดว่าไม่สมวัยนะคะ อยากจะพูดซักคำนะคะว่า ต่อไปนี้ให้รับผิดชอบต่อตนเองและสังคมบ้าง
...
ทำอะไรให้คิดให้รอบคอบอย่าเห็นแก่ความสนุกเพื่อความสุขส่วนตัว แล้วทำให้คนอื่นเค้าลำบากเสียหายระดับประเทศ อย่าลืมว่าปลาเน่าตัวเดียวมันเหม็นทั้งห้องเลยนะคะ
อาจารย์อยากให้กรณีของอาจารย์ เป็นกรณีศึกษาค่ะ ไม่อยากมานั่งพูดหรือโทษว่าใครเป็นคนไปเอาโรคโควิดมาค่ะ มันไม่มีประโยชน์เลยกลับต้องเสียเวลามานั่งพูด อาจารย์คิดว่าเราช่วยกันพูดให้เห็นถึงคำว่าจิตสำนึกและตัวเองต้องรับผิดชอบตัวเองและสังคม
บอกได้คำเดียวว่าถ้าคุณรับผิดชอบตัวเองและสังคม ประเทศก็จะเต็มไปด้วยความสังคมที่มีรับผิดชอบ แต่ถ้าคุณไม่เอากฎไม่เอาระเบียบของสังคมอะไรเลย แต่ขอโทษคุณอย่าลืมนะคะมันมีกฎแห่งกรรมค่ะ ใครทำอะไรไว้กับสังคมให้คนทุกข์ยาก กรรมเวรจะเป็นของคุณ".