• จากวันวานอดีตนักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติ สู่นักร้องเจ้าของเพลงฮิตร้อยล้านวิว
  • ที่มาที่ไปของเพลง "วาฬเกยตื้น" ฝีมือการแต่งเพลงของคนเพิ่งหัดเล่นกีตาร์และร้องเพลง
  • ชีวิตการเป็นศิลปินอินดี้ที่ไม่ง่ายอย่างที่คิด

เอ่ยชื่อ กัญจน์กันต์ ปรีชาวุฒิคุณ ที่มีชื่อเล่นน่ารักๆ ว่า เพนกวิน หลายคนอาจจะยังงงๆ ว่าเขาคือใคร แต่หากบอกว่าเขาคนนี้คือ กันกัน (GUNGUN) เจ้าของเพลงอินดี้สุดฮิต "วาฬเกยตื้น" การันตีด้วยยอดวิวในยูทูบกว่า 186 ล้านวิว เชื่อว่าหลายคนร้องอ๋อทันที แต่กว่าที่เพนกวิน หรือกันกัน จะมาเป็นศิลปินเจ้าของเพลงดังในโลกโซเชียล หนุ่มคนนี้เคยประสบความสำเร็จในฐานะนักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติมาแล้ว

แต่อะไรที่ทำให้กันกันตัดสินใจเดินบนถนนแห่งเสียงเพลงอย่างจริงจัง ทั้งที่เพิ่งเริ่มหัดเล่นกีตาร์และร้องเพลงมาได้ไม่นาน แต่กลับประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และล่าสุดคว้ารางวัล "เพลงไทยแห่งปี" จากการโหวต "Thairath ที่สุดแห่งปี 2020" มาแล้ว บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ชวนหนุ่มคนนี้มาพูดคุยเปิดใจแบบเต็มๆ

GUNGUN กับที่มา "วาฬเกยตื้น" จากนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติสู่เจ้าของเพลงฮิต

อดีตนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติไทย

กันกันเผยถึงวันวานในการแข่งขันว่ายน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักร้องหนุ่มชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก และทำได้ดีมากจนกระทั่งกลายเป็นนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติไทยมาแล้ว แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ก็ต้องแลกกับการซ้อมอย่างหนักหน่วง

"ตอนเด็กๆ ผมก็เป็นนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติ จริงจังกับการว่ายน้ำมาก เพราะว่าผมซ้อมเช้า-เย็น เอาจริงๆ ไม่เคยหยุดว่ายน้ำเกิน 1 เดือนนะ ถ้าเกิดว่าไม่สบายจริงๆ ทั้งชีวิตผมเลย เพราะว่าซ้อมจริงจังมาก ซ้อมเช้าซ้อมเย็น ถามว่าซ้อมหนักขนาดไหน ซ้อมหนักเลยครับ ถ้ารวมซ้อมทั้งหมดที่ไม่ใช่ในน้ำ เพราะปกติผมมีซ้อมทั้งในน้ำ ทั้งบนบกด้วยก็น่าจะเกินวันละ 6 ชั่วโมงครับ เพราะว่าบางทีก็มีออกกำลังกายบนบกด้วย เวทเทรนนิ่งด้วย"

GUNGUN กับที่มา "วาฬเกยตื้น" จากนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติสู่เจ้าของเพลงฮิต

เมื่อถามว่าสิ่งที่ทำมาตลอดตั้งแต่เด็กดูจะห่างไกลจากการเป็นนักร้องนักดนตรีมาก นักร้องหนุ่มตอบว่า “ใช่ครับ แต่จริงๆ แล้วผมว่าดนตรีกับกีฬามันคู่กันอยู่แล้วนะครับ ผมสังเกตว่าการออกกำลังกายส่วนใหญ่เขาจะเปิดเพลงฟัง มันค่อนข้างจะใกล้กัน แต่มันดูห่างกันไปนิดนึง แต่จริงๆ แล้วมันใกล้กันมาก มันก็ค่อยๆ ซึมซับไป”

อดีตนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติเผยว่า เคยคิดอยากเอาดีด้านการว่ายน้ำ เพราะสถิติการว่ายน้ำไปได้ไกลถึงขั้นได้อันดับที่ 3 ของประเทศ แต่ไม่ผ่านไปถึงการเป็นทีมชาติไทยไปแข่งในระดับซีเกมส์ ทำให้เจ้าตัวอดเสียดายไม่ได้ 

GUNGUN กับที่มา "วาฬเกยตื้น" จากนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติสู่เจ้าของเพลงฮิต

"เคยคิดว่าจะไปทางด้านกีฬา สถิติผมก็โหดอยู่ (หัวเราะ) ผมเคยขึ้นอันดับที่ 3 ของประเทศ แต่ว่าผมไม่ได้ไปซีเกมส์ เพราะว่าผมไม่ผ่านคุณสมบัติข้อที่หนึ่ง ตอนนั้นลงแข่งในรุ่นทั่วไปครับ คือถ้าจะได้ไปซีเกมส์ต้องเป็นที่ 1 และก็ต้องเกณฑ์เวลาผ่านด้วยครับ รู้สึกว่าเกณฑ์เวลาผมผ่าน แต่ผมไม่ได้ที่ 1 มันเป็นเงื่อนไขของเขาครับ ก็เลยไม่ได้ไป ก็เสียดายอยู่ครับ จริงๆ มันผ่านมาไม่นานด้วยนะ ประมาณ 3 ปีที่แล้ว"

วาฬเกยตื้น

เมื่อเราถามถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเบนเข็มจากกีฬาว่ายน้ำที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก มาสู่การร้องเพลงเล่นกีตาร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน กันกันเผยว่า ตอนนั้นเดินตลาดและอ้อนแม่ซื้อกีตาร์ให้เพราะแค่อยากฝึกเล่นๆ เท่านั้น แต่ไม่นึกว่าจะมาไกลถึงขั้นเป็นศิลปิน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเรียนดนตรี หรือการร้องเพลงมาก่อนด้วยซ้ำ

"ตอนนั้นแค่อยากเล่น เพราะว่าไปเดินเล่นที่ตลาดกับแม่และเห็นกีตาร์ เลยบอกแม่ว่า "แม่ๆ ซื้อกีตาร์ให้หน่อยสิ" เป็นกีตาร์โปร่งครับ ราคาสองพันเองมั้ง ตอนนั้นก็ไม่รู้อะไรมาดลใจ แล้วแม่ก็ซื้อให้ บอกว่าซื้อมาต้องเล่นนะ 

แต่ว่าเล่นไปเล่นมาแล้วก็รู้สึกว่า ผมอยากฟังเพลงอะไรสักเพลงที่ไม่มีใครทำในประเทศไทย ผมก็เลยลองแต่งเพลงดู เพลงแรกที่ผมแต่ง ผมยังเล่นกีตาร์ไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ "วาฬเกยตื้น" เป็นเพลงที่ผมแต่งเป็นเพลงที่ 3 ถามว่าสองเพลงแรกคือเพลงอะไร ผมจำไม่ได้แล้ว มันนานแล้ว รู้แต่ว่ามันไม่เพราะอ่ะครับ" กันกันหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

GUNGUN กับที่มา "วาฬเกยตื้น" จากนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติสู่เจ้าของเพลงฮิต

เมื่อถามถึงที่มาของเพลง "วาฬเกยตื้น" กันกันบอกว่ามาจากรุ่นพี่ที่แนะนำไอเดีย แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเพลงดังขนาดนี้

"ตอนนั้นรุ่นพี่แนะนำครับ มันปิ๊งตรงที่ผมก็งงๆ เหมือนกัน ผมก็คิดว่าพี่เขากวนตีนผมด้วยนะ ผมคิดว่าพี่เขาพูดเล่นๆ คงไม่คิดว่าผมจะเอาไปแต่งจริง แต่ผมดันปิ๊ง มันฟังแล้วดูน่าสนใจดี เพราะว่าผมบอกโจทย์พี่เขาไปว่าขอชื่อเพลงอะไรก็ได้ที่มันไม่เคยมีใครแต่งในประเทศไทย พี่เขาก็เลยพูดออกมาเหมือนไม่จริงจัง แล้ววาฬเกยตื้นมันก็ไม่น่าจะมาเป็นชื่อเพลงได้

เนื้อหามันออกน่ารักกุ๊งกิ๊งนิดนึง ผมชอบฟังเพลงชิลอยู่แล้วด้วยครับ ก็เลยจะออกมาค่อนข้างชิลทุกเพลงเลย คือถ้าไม่ฟังเนื้อหาก็สามารถฟังทำนองได้ เนื้อหาเพลงนี้ไม่ใช่เรื่องจริงในชีวิตผม

แต่ว่าตอนแต่งน่าจะโดนหลายคนอยู่ เพราะผมเป็นคนที่แต่งเพลงได้โดยที่เรื่องพวกนั้นไม่จำเป็นต้องเกิดกับผม ผมสามารถเอามาเล่าต่อได้ ตอนที่แต่งเพลงนี้ก็ไม่เคยไปเรียนด้านดนตรีมาเลย ร้องเพลงผมเพิ่งสมัครเรียนไปเมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2563 ผมเพิ่งลองเรียนดู (หัวเราะ)

วันแรกที่ลงคลิปเพลงไปยอดวิวหลักร้อยครับ ประมาณ 300-400 ได้มั้งครับ แต่หลังจากนั้นมันเป็นไวรัล ตอน 2-3 เดือนแรกก็พุ่งวันละล้านเลยครับ ผมว่ามันน่าจะมาจากโซเชียลต่างๆ เพราะว่าตอนนี้โซเชียลมันแชร์กันเร็วมาก บางคนยอด Follower 1-2 แสนแล้วมาแชร์ของผม ก็มีคนฟังอีกแสนคนอย่างงี้ แสนคนนั้นอาจจะชอบสัก 2 พันคน แล้ว 2 พันคนก็ไปแชร์ต่อ

ก็ไม่เคยคิดเลยครับว่าจะมาได้ขนาดนี้ ตอนแรกผมจะทำคู่กันกับการว่ายน้ำ แต่พอได้ปล่อยเพลงแล้วสักพักหนึ่ง เพลงมันมีกระแสมาก ก็เลยคิดว่าลองดูสิ ลองหันไปทำดนตรีอย่างจริงจังดูครับ ผมคิดว่าว่ายน้ำมันไปได้เรื่อยๆ นะ เพราะว่าดูจากร่างกายของผมมันยังพัฒนาได้มากกว่านี้ แต่ตอนนี้ผมอยากทำดนตรี เพราะว่าผมชอบดนตรีอยู่แล้ว และเพิ่งมีโอกาสได้ทำ”

เพลงดังแต่คนไม่รู้จักนักร้อง

แม้เพลงนี้จะมียอดคนดูในยูทูบพุ่งหลักร้อยล้านวิวในเวลาอันรวดเร็ว แต่คนกลับไม่รู้จักนักร้องอย่างกันกันสักเท่าไหร่ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่เพลงนี้ไม่ได้ทำมิวสิกวิดีโอเหมือนนักร้องคนอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นหนุ่มคนนี้ก็มีงานติดต่อเข้ามาเยอะมาก

"คนไม่ค่อยรู้จักครับ เพราะว่าผมไม่ได้ทำเอ็มวี คนเลยไม่ค่อยรู้จักผม เวลาไปโชว์ตามงาน คนก็ไม่รู้ครับ แต่คนจะนึกออกตอนที่ผมร้องคำแรก เพราะมันเป็นที่เสียงผมครับ ด้วยน้ำเสียงผมก็จะมีเอกลักษณ์หน่อยครับ คนก็เลยจะจำเสียงเอา เพราะว่ามันไม่มีเอ็มวี

GUNGUN กับที่มา "วาฬเกยตื้น" จากนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติสู่เจ้าของเพลงฮิต

ถามว่าเคยคิดจะทำเอ็มวีจริงจังมั้ย ก็เคยคิดครับ แต่ตอนนั้นเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ผมไม่ค่อยมีงบทำด้วยครับ (หัวเราะ) ผมก็เลยปล่อยแค่แบบนี้พอ เพลงผมดังในช่วงโควิด ก็จะมีแค่งานที่มันเป็นไลฟ์ออนไลน์เข้ามาครับ

พอโควิดเริ่มปลดล็อกดาวน์ ผับเริ่มเปิดได้ก็มีงาน ช่วงเดือนแรกก็ 20 กว่างานเลยครับ จริงๆ มันเต็มเดือนเลยครับ แต่ผู้จัดการผมบอกว่าถ้ารับหมดก็ร้องไม่ไหวครับ (หัวเราะ)"

อีกหนึ่งปัญหาที่ต้องเจอคือการที่กันกันไม่ถนัดเรื่องการขึ้นโชว์ รวมถึงการพูดบนเวที เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่ก็สามารถปรับตัวได้ไม่ยาก "ถ้าเกิดเป็นเรื่องโชว์ ผมก็ไม่ถนัดเลย เพราะว่าเหมือนผมไม่เคยขึ้นเวทีมาก่อน ก็ต้องฝึกพูดบนเวที ฝึกร้องด้วย เพราะว่าบางทีมันเป็นการร้องหลายชั่วโมงติดต่อกันครับ ถ้าร้องเพลงเดียวหรือ 2-3 เพลงมันสบายอยู่แล้วครับ แต่อันนี้มันต้องร้องเยอะ

ถามว่าชีวิตต่างจากการเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมากแค่ไหน ถ้าเป็นเรื่องฝึกซ้อมมันก็คล้ายกันครับ มันก็มีระเบียบวินัยในตัวของมัน แต่แตกต่างกันตรงพอมาร้องเพลงมันก็ทำให้ผมนอนดึกไปอีก จากที่นอนเร็วๆ เพราะนักกีฬาต้องนอนเร็วตลอดครับ ถามว่าปรับตัวยากมั้ย ไม่นะครับ ไม่เสียสมดุลนะผมว่า ปรับตัวก็ไม่ได้ใช้เวลานานเท่าไหร่ พอทำแล้วชอบครับ สนุกดี เจอคนหลากหลายดีครับ ผมก็ว่าผมทำได้ดีในระดับหนึ่ง"

วิธีแต่งเพลงแบบ GUNGUN

เมื่อถามถึงการทำงานเพลงของกันกันว่ามีเคล็ดลับในการแต่งเพลงอย่างไร หนุ่มคนนี้บอกว่าก่อนจะแต่งเพลงต้องฟังเพลงเยอะๆ เสียก่อน อีกทั้งยังชอบวิเคราะห์ถึงเพลงต่างๆ ว่าทำไมถึงดังด้วย

"ผมว่าจะแต่งเพลงได้ มันต้องฟังเพลงเยอะๆ ก่อน แล้วเราก็ค่อยจับไต๋เขาว่าเขาแต่งเพลงกันยังไง เขาใช้สูตรไหน ก็คือเพลงมันจะมี Verse มีท่อนฮุก เขาใช้วิธีไหนในการแต่ง ทำไมเพลงนี้ถึงดัง ผมเป็นคนชอบวิเคราะห์ด้วยครับ แต่จริงๆ มันไม่มีอะไรตายตัวที่จะทำให้รู้ว่าเพลงนั้นดังหรือไม่ดังครับ ถ้าเกิดบอกได้เพลงอื่นๆ ของผมก็จะดังร้อยล้านวิวหมด มันไม่สามารถบอกได้ มันแค่รู้ว่าเพลงนั้นมันต้องมีอะไรจำแค่นั้นแหละ ถ้าไม่เป็นที่เนื้อร้องก็เป็นที่ดนตรี

อย่างเปรียบเทียบง่ายๆ ถ้าเป็นที่ดนตรีคือ เดอะทอยส์ เดอะทอยส์ทำดนตรีแมตช์เนื้อร้องของเขาที่ไม่ได้เยอะมาก แต่ว่าคนจำได้เยอะมาก เพราะว่าเพลงเขามีอะไรให้จำ จริงๆ ไม่มีอะไรบอกได้ตายตัวว่าเพลงไหนจำเพลงไหนไม่จำครับ สำหรับผม เวลาทำเพลงแล้วปล่อยเพลงไป ผมจะเลือกเพลงที่ผมชอบก่อน ถ้าเพลงไหนที่ผมไม่ชอบ ผมก็จะไม่ให้คนอื่นฟัง (หัวเราะ)

GUNGUN กับที่มา "วาฬเกยตื้น" จากนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติสู่เจ้าของเพลงฮิต

เหมือนเป็นผลงานศิลปะครับ เวลาวาดรูปออกมา คนวาดชอบแล้ว วาดสวยแล้ว เขาก็พร้อมที่จะโชว์ผลงานนี้ให้กับทุกๆ คนดูว่าผลงานนี้น่าสนใจนะ ถ้าเกิดคนที่ดูไม่ชอบ ก็แล้วแต่ความคิดเห็นส่วนตัวของคนคนนั้น การทำผลงานให้ทุกๆ คนชอบ มันเป็นเรื่องที่ยากมาก พูดง่ายๆ มีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบ"

เมื่อถามถึงเวลาเจอคอมเมนต์ด้านลบที่ไม่ชอบเพลงที่ตนเองแต่ง กันกันไม่ซีเรียสกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเข้าใจถึงความแตกต่างของคน แถมชอบเข้าไปอ่านด้วยซ้ำ "ไม่เคยเจอดราม่าที่ไม่โอเคนะครับ ผมชอบอ่านพวกนี้อยู่เหมือนกัน ผมเห็นว่าคนเรามีนิสัยแตกต่างกัน ผมเจอล่าสุดแล้วผมขำ ประมาณว่าบูลลี่ชาวประมงเหรอ ชาวประมงเขาโง่เหรอ ผมนึกในใจว่าไม่ใช่ (หัวเราะ) เพราะว่าทุกอย่างที่แต่งในเนื้อเรื่องมันคือตัวละครหนึ่งที่นำมาเปรียบเทียบเท่านั้นครับ

แต่ผมก็ไม่ได้ออกไปแสดงตัวอะไร ผมเห็นว่าเรื่องที่คนต่างเข้าใจคนละแบบ โตมาคนละแบบ ถูกสอนมาคนละแบบ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเข้าใจอะไรที่แตกต่างกันครับ ถ้าเกิดเป็นคอมเมนต์เชิงติว่า ดนตรีมันเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ ทำไมร้องอย่างนู้นอย่างนี้ ผมก็จะนำมาคิด แล้วก็อะไรที่ปรับปรุงได้ก็จะปรับปรุง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องเป็นตัวเองไว้ก่อนครับ"

โอกาสดีๆ ในชีวิต

เราถามถึงผลงานเพลง "ตายเปล่า" ที่กันกันได้รับโอกาสดีๆ มาร่วมงานกับรุ่นพี่ในวงการเพลงอย่างวง Labanoon (ลาบานูน) ซึ่งกันกันรับหน้าที่แต่งเนื้อร้องด้วย กันกันเล่าว่า "เพลงนี้เป็นโปรเจกต์ของ JOOX ครับ 100X100 เขาจะนำศิลปินร้อยล้านวิวมาร้องด้วยกัน ทำโปรเจกต์ด้วยกัน ผมรับหน้าที่แต่งเนื้อเพลงทั้งหมดเลยครับ เรื่องดนตรีจะเป็นฝั่งพี่ลาบานูนทำครับ ตื่นเต้นครับ เพราะว่าเราเป็นแค่ไอ้ตัวกะเปี๊ยกตัวนึงไปฟีดกับรุ่นใหญ่มาก

ยอมรับว่ามีเกร็ง เพราะว่าตอนอัดร้องผมก็ร้องไม่ถนัด เพราะมันเป็นแบบสำเนียงพี่เมธีเขา ตอนนั้นเขาให้ไกด์ร้องมาก็ยากเหมือนกัน ผมร้องไม่ถนัดเลยเพลงนี้ แต่ผมได้แต่งเนื้อก็โอเคแล้วครับ ถามว่าพี่ๆ แนะนำยังไงบ้าง แทบไม่ได้คุยกันเท่าไหร่เลยครับ พี่เขาก็แบบกันกัน เพลงนี้ลองแต่งมั้ย ผมก็บอกเอาครับ ลองๆ ดู เขาเรียกว่าโยนไกด์ที่ร้องของเขามา ผมส่งไปปุ๊บเขาบอกชอบ เอา เขาพูดแค่เนี้ย (หัวเราะ) อีกวันหนึ่งเจอกันก็วันอัดร้องเลยครับ ทำให้ได้เห็นการทำงานในสตูฯ ก็รู้สึกว่าเป็นการทำงานที่เป็นมืออาชีพมากๆ ครับ

GUNGUN กับที่มา "วาฬเกยตื้น" จากนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติสู่เจ้าของเพลงฮิต

ถามว่านำมาปรับปรุงการทำงานยังไงบ้าง เรียกว่าได้มาเสริมดีกว่า การทำงานแต่ละคนแตกต่างกันครับ อย่างของผมเป็นศิลปินอินดี้ ผมก็ไม่มีสิทธิ์ที่ไปนั่งสตูใหญ่ๆ อย่างงั้นอยู่แล้ว ด้วยจากงบต่างๆ ผมไม่พออยู่แล้ว ผมนั่งทำงานในห้องนอนผม (หัวเราะ) ผมเป็นคนที่เริ่มงานแล้วก็จบงานเองครับ แต่อย่างพวกพี่เขาจะมีเป็นทีมของเขา เป็นทีมดนตรี ทีมคุมร้อง ทีมโปรดิวเซอร์ ผมทำคนเดียวหมด ผมเป็นทั้งโปรดิวเซอร์ เป็นทั้งคนเรียงเพลง เป็นทั้งคนโปรดิวซ์เพลง นั่งอัดเองด้วย เป็นศิลปินอินดี้จะไม่มีทีมให้ ผมต้องจ้างตัวเอง"

ส่วนงานเพลงตนเองล่าสุด "เด็ด" กันกันบอกว่ายังเป็นสไตล์ตนเองคือมีความชิลๆ แต่อยากลองแต่งเพลงที่ไม่เกี่ยวกับทะเลดูบ้าง "เพลงนี้อารมณ์ก็ยังเป็นแบบชิลๆ อยู่ครับ แต่ว่าเนื้อหาผมอยากลองแต่งที่ไม่ทะเลบ้าง ผมก็เลยไปแต่งกับดอกไม้ครับ ก็เลยเป็นการเปรียบเทียบเหมือนเดิม ถ้าเราเกิดเด็ดดอกมาดูแลแล้ว แล้วเราดูแลไม่ดีพอ ดอกไม้ก็จะเหี่ยวเฉาตายไป เปรียบเสมือนกับความรักแหละครับ ถ้าแบบเราเลือกที่จะดูแลเขาแล้ว แล้วเราดูแลไม่ดีพอ สักวันเขาก็จะจากเราไปครับ

ผมชอบตรงท่อนฮุกเพลงนี้ครับ ผมงงว่าผมแต่งได้ไง ผมจะนั่งชอบเพลงตัวเอง เหมือนที่ผมบอกถ้าผมไม่ชอบผมจะไม่อยากให้คนอื่นฟังเพลงผม เหมือนสร้างผลงานศิลปะมา ผมภูมิใจในชิ้นงานของผม ผมอยากให้คนอื่นได้ลองดูว่าทุกคนจะชอบมั้ย ชอบท่อนฮุกเพลงนี้เพราะว่าผมใช้คำตามที่ผมแต่ง ผมใช้คำค่อนข้างโบราณ"

ชีวิตศิลปินอินดี้

เราถามถึงชีวิตการเป็นศิลปินอินดี้ของกันกัน เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่าเหมือนเป็นการเปิดบริษัทสตาร์ทอัพ ต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง แต่ยังดีที่มีผู้จัดการส่วนตัวคอยช่วยเหลือ เปรียบเหมือนเป็นค่ายเพลง แม้จะเหนื่อย แต่ก็มีความสุข

"เหมือนทำบริษัทสตาร์ทอัพเองครับ เราต้องแพลนเองเลยครับว่าปีนี้เราจะทำอะไรบ้าง เพราะว่ามันไม่มีใครคอยมาไกด์เรา ด้วยสายงานพวกนี้มันไม่มีสูตรสำเร็จอยู่แล้ว ว่าทำแบบนี้แล้วจะประสบความสำเร็จครับ คือต้องดูตลาดเองด้วยนะ เพราะว่ามันต้องรู้ว่าขายอะไรแล้วคนจะซื้อ ผมก็จำเป็นต้องหาข้อมูลด้วยว่า ถ้าเกิดผมทำเพลงที่เป็นตัวผมแล้วคนฟังรึเปล่า หรือต้องทำแนวไหน ปรับตรงนู้นตรงนี้นิดนึง

ด้วยความที่เป็นศิลปินอินดี้ เหมือนเป็นค่ายด้วยตัวเอง แต่ก็ยังดีที่มีผู้จัดการคอยช่วย เหมือนเป็นค่ายให้ผมด้วย ผมลองปรึกษาว่าอยากลองทำอันนี้ อะไรที่พี่เขามีประสบการณ์เขาก็จะแนะนำ เพราะว่าเขาเคยอยู่ค่ายมา เขาก็พอจะรู้บ้างว่าค่ายทำแบบนี้แล้วจะเวิร์กรึเปล่า ถามว่ามีค่ายเพลงติดต่อมามั้ย เคยมีบ้างครับ แต่ว่าผมก็อยากลองทำก่อนเองด้วย มันก็สนุกไปอีกแบบนะครับ ทรมานใจดี (หัวเราะ) มันมีความเหนื่อย ความสุข ถ้าเราประสบความสำเร็จ เราก็จะมีความสุขมากครับ"

GUNGUN กับที่มา "วาฬเกยตื้น" จากนักว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติสู่เจ้าของเพลงฮิต

แม้สุดท้ายแล้วทำไปอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าเดิม แต่กันกันก็ยังคงยืนยันที่จะทำงานเพลงต่อไป ส่วนการว่ายน้ำก็ยังเป็นสิ่งที่ชอบ แต่กลายเป็นสิ่งรอง ทำได้เป็นงานอดิเรกที่ตัวเองรักแค่นั้น

"ก็อยากทำต่อนะครับ ผมเป็นคนที่เวลาสนใจอะไรจะทำจริงจัง ผมจะหาทุกวิถีทาง ถ้าเกิดมันไม่ได้จริงๆ ก็โอเค ถือว่าเราทำแล้วเรามีความสุข ไม่ได้ทำแล้วทุกข์อะไรหรือไปติดหนี้ใคร ถ้าทำได้ก็ดีครับ ไม่ใช่ว่าไม่อยากประสบความสำเร็จ (หัวเราะ) พยายามทำอยู่ครับ ให้มันเป็นไปได้ ถึงแม้มันจะไม่เท่าเดิมก็ตามครับ ยังอยากให้คนเห็นผลงานของผมเรื่อยๆ

เรื่องว่ายน้ำตอนนี้ก็เป็นสิ่งรองนะครับ พูดตรงๆ เลยคือว่ายน้ำเป็นอาชีพหลักไม่ได้ ด้วยเงินที่ได้มามันไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าฟุตบอล วอลเลย์บอล ที่เป็นกีฬาที่เป็นชื่อเสียงของประเทศไทย การได้รับเงินเดือนเท่านั้นไม่มีหวังเลยครับ ชนะแมตช์หนึ่งได้ไม่กี่บาทเอง แล้วซ้อมเพื่อเป็นทีมชาติ มันมีค่าลงทุน ค่าซ้อม ค่ากิน ค่ารักษาตนเอง ค่านู่นค่านี่ มันเยอะกว่าอยู่แล้ว ทำได้แค่เป็นงานอดิเรกที่ตัวเองรักแค่นั้นครับ"

ปิดท้ายการสนทนา กันกันขอบคุณทุกคะแนนโหวต จนทำให้เขาได้รางวัล "เพลงไทยแห่งปี" จากการประกาศรางวัล "Thairath ที่สุดแห่งปี 2020" ไว้ว่า "รู้สึกดีใจครับที่คนชอบผลงานผม จนทำให้ผมได้รับรางวัลอันนี้ครับ ขอบคุณทุกๆ คนครับ ถ้าทุกคนไม่กดโหวตผมก็ไม่ได้ด้วยครับ ขอบคุณทุกๆ คนครับที่ชื่นชอบผม".

ผู้เขียน : Penguin บินได้
กราฟิก : Theerapong Chaiyatep
ภาพ : อินสตาแกรม @guinn_gungun, อินเทอร์เน็ต