เป็นตำนานบอยแบนด์ไทยยุค 2000 ที่อยู่ในใจแฟนๆ เสมอ สำหรับ D2B (ดีทูบี) ประกอบไปด้วย 3 สมาชิก บิ๊ก อภิเชษฐ์ (ปาณรวัฐ) กิตติกรเจริญ, แดน วรเวช ดานุวงศ์, บีม กวี ตันจรารักษ์ แม้ทั้ง 3 หนุ่มจะรวมตัวโลดแล่นในวงการบันเทิงด้วยกันในนามดีทูบีในเวลาไม่นานนัก แต่ก็เป็นศิลปินที่สร้างความประทับใจให้แฟนๆ ทุกครั้งที่ปรากฏตัว

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์เล่าย้อนความหลังถึงความฮอตของทั้ง 3 หนุ่ม รวมทั้งรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเสียสมาชิกอย่างบิ๊ก และเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 13 ปี การเสียชีวิตของบิ๊กด้วย

กว่าจะมาเป็น D2B

ก่อนที่ 3 หนุ่ม บิ๊ก-แดน-บีม จะมารวมตัวกันในนาม D2B หนึ่งในสมาชิกอย่างบีม กวี เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการถ่ายแบบและโฆษณา ก่อนจะเซ็นสัญญากับอาร์เอสตั้งแต่ปี 2542 และมีผลงานกับอาร์เอส อาทิ มิวสิกวิดีโอเพลงของอนัน อันวา (เพลง เล่นอะไรไม่รู้...บ้า และ “ไปโรงเรียนสาย”), โมเม นภัสสร (เพลง “เธอรักฉันรู้”), ภาพยนตร์ “9 พระคุ้มครอง”

...

จากนั้นในปี 2543 บิ๊กและแดนเข้าประกวดร้องเพลงในโครงการ "พานาโซนิค สตาร์ ชาเลนจ์" ซึ่งในเวทีนี้แดนสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 มาได้ และทั้งคู่ก็ได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดอาร์เอส โดยแดนได้ไปร้องเพลงโฆษณาน้ำอัดลมเป๊ปซี่กับโดม ปกรณ์ ลัม ส่วนบิ๊กมีงานถ่ายแบบและถ่ายโฆษณา

ซึ่งในช่วงเวลานั้นอาร์เอสกำลังหานักร้องมาฟอร์มทีมเป็นบอยแบนด์กลุ่มใหม่ ทำให้บิ๊กและแดนได้เข้ามารวมตัวกับบีมซึ่งเรียนร้องเพลงและมีผลงานการแสดงกับอาร์เอสอยู่ก่อนแล้ว กลายเป็น 3 หนุ่มบอยแบนด์วง D2B ซึ่งที่มาของชื่อวงมาจากการนำตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกของทั้ง 3 คน มารวมกัน คือ Big Dan Beam

บอยแบนด์ฮอตยุค 2000

ทันทีที่ดีทูบีออกอัลบั้มชุดแรกเมื่อเดือน ธ.ค. 2544 ก็เกิดกระแสฟีเวอร์อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะมีเพลงดังฮอตฮิต อาทิ ต่อหน้าฉัน (เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร), ซ่าส์ (สั่นๆ), คนใจอ่อน (อ่อนใจ), อยากเป็นคนนั้น (ในใจเธอ), ไม่เปลี่ยนใจ (เธอคนเดียว) ฯลฯ ด้วยความหล่อใสน่ารัก บุคลิกเฟรนด์ลี่ขี้เล่นของทั้ง 3 หนุ่ม จึงทำให้ดีทูบีกลายเป็นบอยแบนด์ที่ฮอตมากๆ ในวงการเพลงยุค 2000

และจากกระแสฟีเวอร์ของดีทูบี ทำให้มีอัลบั้มพิเศษ “D2B Summer” ตามมาในเดือน เม.ย. 2545 โดยมีเพลงดัง “ไม่มีเธอวันนั้น ไม่มีฉันวันนี้” ที่แต่งขึ้นมาเพื่อขอบคุณแฟนเพลง รวมไปถึงเพลงอื่นๆ อาทิ แค่หนึ่งนาที, คิดถึงตามระเบียบ (เรียบร้อย ร.ร.เธอ), ซ่าส์...ปอด ปอด, ขาดผู้คุม ฯลฯ ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับที่ดีเช่นกัน รวมไปถึงงานละคร ภาพยนตร์ พรีเซ็นเตอร์โฆษณา งานคอนเสิร์ตต่างๆ หลั่งไหลเข้ามามากมาย

...

อีกทั้งยังได้รับรางวัลเกี่ยวกับวงการเพลงหลายรางวัล อาทิ รางวัลพระพิฆเนศทองพระราชทาน ประจำปี 2545 สาขานักร้องกลุ่มยอดเยี่ยม, รางวัลนักร้องกลุ่มยอดนิยมประจำปี 2002 และ 2003 จากเวทีท็อปอวอร์ดส์ ของนิตยสารทีวีพูล, รางวัลศิลปินยอดนิยมจาก MTV Asia Awards 2003 ที่ประเทศสิงคโปร์, รางวัลศิลปินไทยกลุ่มยอดนิยม จาก Channel V Thailand 2003

เหตุการณ์สุดเศร้าของบิ๊ก

ในเดือน มี.ค. 2546 ดีทูบีออกอัลบั้ม Type II ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 2 มีเพลงดังหลายเพลง อาทิ จะโกหกกันไปถึงไหน, อยากให้เธอกัด, หึง, ที่ดูว่าผมหยิ่ง ที่จริงน่ะผมอาย ฯลฯ ซึ่งยังคงได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงมากมาย อีกทั้งยังมีงานคอนเสิร์ต รวมถึงการทำเพลงร่วมกับศิลปินคนอื่นๆ ในอัลบั้มพิเศษและคอนเสิร์ตครั้งพิเศษของอาร์เอสอีกด้วย

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่เหมือนเป็นฝันร้ายของทุกคน เมื่อบิ๊กประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์ส่วนตัวตกคูน้ำเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2546 เวลา 02.45 น. โดยบิ๊กอยู่ในสภาพไม่ได้สติ เพราะสำลักน้ำจนต้องผายปอดปฐมพยาบาล มีอาการน้ำคร่ำท่วมปอด และถูกนำตัวส่ง รพ.วชิรปราการ รักษาตัวที่ห้องไอซียู 9 วัน ก่อนจะย้ายมารักษาต่อที่ห้องไอซียู รพ.วิชัยยุทธ ในวันที่ 31 ก.ค. 2546 การรักษาเป็นไปด้วยดี บิ๊กรู้สึกตัวและทักทายทุกคนได้

...

แต่หลังจากนั้นในวันที่ 4 ส.ค. 2546 บิ๊กมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง และช็อกหมดสติในวันที่ 6 ส.ค. 2546 โดยแพทย์ตรวจพบฝีในสมองของบิ๊กจึงผ่าตัดดูดออกและนำไปเพาะเชื้อ พบว่าเป็นเชื้อรา Pseudallescheria boydii ซึ่งเป็นเชื้อราในวงศ์ Scedosporium และเชื้อราดังกล่าวเข้ากระแสเลือดผ่านปอด เข้าไปกัดกินเส้นเลือดในสมอง จนสมองซีกขวาถูกทำลายเกือบหมด ส่วนสมองซีกซ้ายค่อยๆ ถูกทำลาย ซึ่งแพทย์ประเมินว่าบิ๊กมีโอกาสรอดชีวิต 0.01% เท่านั้น

เมื่อบิ๊กต้องจากโลกไป

หลังจากนั้นบิ๊กมีอาการทรงและทรุด และพ่อแม่เปลี่ยนชื่อของบิ๊กเป็น “ปาณรวัฐ” ก่อนจะย้ายมารักษาตัวต่อที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า เมื่อปลายเดือน พ.ค. 2547 อีกทั้งได้รับการบำบัดทางสมองจนอาการดีขึ้นและกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้

ซึ่งในปี 2548 แพทย์เปิดเผยว่าบิ๊กเป็นเจ้าชายนิทรา เพราะสมองส่วนสำคัญและก้านสมองถูกเชื้อราทำลาย แต่ระบบประสาทพื้นฐานของการดำรงชีวิตยังคงทำงาน จึงทำให้บิ๊กยังลืมตา กะพริบตา หายใจ อ้าปากได้ และอาจอยู่ได้ถึง 10-30 ปี ถ้ายังดูแลร่างกายดีและไม่มีโรคแทรกซ้อน และเพราะพ่อแม่ของบิ๊กดูแลทุกด้านเป็นอย่างดี อีกทั้งมีนักกายภาพบำบัดมาช่วยรักษาที่บ้าน

...

แต่แล้วในวันที่ 30 พ.ย. 2550 บิ๊กถูกนำตัวส่ง รพ.ศิริราช เนื่องจากมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงในปอด โดยแพทย์ได้ให้ยาปฏิชีวนะและยาแก้อักเสบ และนำตัวเข้าห้องไอซียู แต่อาการติดเชื้อรุนแรงมาก และลุกลามเข้ากระแสเลือด จนทำให้เสียชีวิตในที่สุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2550 สิริอายุ 25 ปี รวมระยะเวลาในการรักษานานกว่า 4 ปี

โดยทางครอบครัวได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่วัดหนามแดง จ.สมุทรปราการ เป็นเวลา 7 วัน และบรรจุศพเก็บไว้ 100 วัน จากนั้นจึงมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 20 มี.ค. 2551 โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ซึ่งในเวลานั้นยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งในเวลานั้นยังทรงเป็น พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จแทนพระองค์มาพระราชทานเพลิงศพ

แดน-บีม ในวันที่ไม่มีบิ๊ก

เมื่อย้อนไปในช่วงที่บิ๊กยังคงรักษาตัวที่ รพ. ดีทูบีทำอัลบั้มส่งท้าย D2B The Neverending Album Tribute To BIG D2B ในเดือน ก.พ. 2547 ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อมอบรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายให้กับบิ๊ก

โดยมีเพลง “นายเจ็บ ฉันเจ็บ” ที่แดนแต่งขึ้นให้กับบิ๊ก และเพลงพิเศษหลายเพลงในอัลบั้ม อาทิ นับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ, ฉันจะจับมือเธอเอาไว้, หายใจอีกครั้ง ฯลฯ อีกทั้งมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ D2B THE NEVERENDING CONCERT TRIBUTE TO BIG D2B ในเดือน มี.ค. 2547

จากนั้น แดน-บีม จึงออกอัลบั้มดูโอในนาม Dan & Beam ในปี 2548 โดยออกอัลบั้มคู่กัน 3 อัลบั้ม ก่อนจะทำอัลบั้มพิเศษ DB2B (Dan & Beam To Big) เพื่อระลึกถึงบิ๊ก และมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้แก่ครอบครัวกิตติกรเจริญ ในเดือน ต.ค. 2550 ก่อนที่ แดน-บีม จะประกาศยุบวงในวันที่ 25 ต.ค. 2550

ด้านแดนหลังหมดสัญญากับอาร์เอสในช่วงปลายปี 2551 จึงย้ายมาเป็นศิลปินเดี่ยวในสังกัดโซนี่ มิวสิก เป็นเวลา 5 ปี และก่อนหมดสัญญาในปี 2556 แดนพักงานในวงการบันเทิงด้วยการไปเรียนภาษาอังกฤษและดนตรีที่ประเทศอังกฤษ 6 เดือน

ส่วนบีมหลังจากออกอัลบั้มเดี่ยวกับอาร์เอสในปี 2551 และหมดสัญญากับอาร์เอสในปี 2553 ก็ผันตัวไปทำธุรกิจส่วนตัวนานเกือบ 2 ปี ก่อนจะกลับมารับงานบันเทิงอีกครั้งช่วงปลายปี 2554

คอนเสิร์ตรำลึก D2B

แต่ถึงแม้แดนและบีมจะไม่ได้ทำงานเพลงด้วยกันต่อ ทั้งคู่ก็ยังมีผลงานภาพยนตร์ร่วมกันให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง และจากกระแสเรียกร้องของแฟนๆ ที่มีต่อวงดีทูบี จึงทำให้เกิดคอนเสิร์ตรำลึกถึงวงดีทูบี “คิดถึง D2B LIVE CONCERT 2014” ในวันที่ 2 พ.ย. 2557 ซึ่งเป็นการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ของดีทูบีในรอบ 10 ปี

และจากกระแสตอบรับที่ดีมาก ทำให้เกิดคอนเสิร์ตขึ้นอีกครั้ง “มหัศจรรย์...ความคิดถึง D2B ENCORE CONCERT 2015” เมื่อ 4 เม.ย. 2558 ก่อนจะห่างหายการจัดคอนเสิร์ตใหญ่นานเกือบ 5 ปี จึงเกิดคอนเสิร์ต “D2B INFINITY CONCERT 2019” เมื่อ 16 พ.ย. 2562 และคอนเสิร์ต “D2B Infinity Fun+ 2020” เมื่อ 16 ก.พ. 2563

แม้จะเป็นคอนเสิร์ตที่ขาดสมาชิกอย่างบิ๊กที่ล่วงลับไปแล้ว แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า คอนเสิร์ตดังกล่าวจึงใช้เทคนิคพิเศษต่างๆ โดยในคอนเสิร์ตล่าสุดได้ใช้เทคนิคป้อนข้อมูลให้โปรแกรม AI เพื่อทำการ Generate เป็นภาพ 3D และใช้กำลังคนแก้ไขภาพเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบ รวมไปถึงการกำหนดเค้าโครงหน้าของบิ๊กในวัย 37 ปี วิเคราะห์เสื้อผ้าที่บิ๊กเคยใส่และนำไปเทียบเคียงกับแฟชั่นปัจจุบัน

อีกทั้งยังใช้โปรแกรม Face Tracking ทาบลงบนใบหน้านักแสดงแทน ก่อนจะยิงภาพโฮโลแกรมผ่านจอ LED ซึ่งนำมาติดตั้งอยู่บนพื้นเวที จนทำให้เหมือนหนุ่มบิ๊กมาอยู่ในคอนเสิร์ตนี้จริงๆ แถมท้ายยังทำเพลงใหม่ของดีทูบี “ยังคิดถึงกัน (หรือเปล่า)” ซึ่งใช้เทคนิคนำ Data เพลงที่บิ๊กเคยร้องมาตัดคำในแต่ละประโยคและนำมาประกอบร่างใหม่

เรียกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เพื่อความสุขของคนรักดีทูบี และไม่ว่ากี่ปีจะผ่านไป ตำนานบอยแบนด์ไทยวงนี้ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ ไปอีกนาน.

ผู้เขียน : Penguin บินได้
ภาพ :  นสพ.ไทยรัฐ, อาร์เอส, อินเทอร์เน็ต
กราฟิก : Phantira Thongcherd