ยังเป็นประเด็นที่ไม่จบง่ายๆ สำหรับความสัมพันธ์ของนักแสดง-นางแบบสาว น้ำหวาน รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์ หรือ น้ำหวาน เดอะเฟซ และ ดร.ณัฐวุธ ม้าแก้ว หรือ ดร.นัท (ดร.ณัฐ) สามีของน้ำหวาน ที่ดูเหมือนจะจบแบบไม่สวย

ซึ่งหลังจากที่น้ำหวานโพสต์ว่ามีอะไรให้มาคุยกันสองคน ไม่ใช่ไปพูดกับแม่ตนจนแม่ร้องไห้ ก็มีคนที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของ ดร.นัท ก็ออกมาแฉว่าแม่ใครที่จะโวยวายเอาบ้าน ที่แม่ร้องไห้ เพราะตัวเองทำเองไหม ก่อนจะบอกว่าเพื่อนตนกำลังจะซื้อบ้านให้ ทำเรื่องกู้บ้านก่อนจับได้ว่ามีชู้ แต่เพื่อนตนก็ยังจะซื้อให้ จนเพื่อนๆ ด่าถึงยอมยกเลิกการกู้บ้านกับธนาคาร

ล่าสุด ดร.นัท ก็โพสต์ข้อความทำนองว่าน้ำหวานไม่ใช่ภรรยาของตนอีกต่อไป และเป็นคนนอกไปแล้ว โปรดอย่ามายุ่งและใช้ชีวิตที่ดีไป ชีวิตตนเริ่มต้นใหม่แล้ว อีกทั้งยังตอบคำถามสุดแซ่บกับชาวเน็ตที่คอมเมนต์เกี่ยวกับเรื่องน้ำหวานว่าจะขึ้นสวรรค์หรือขึ้นต้นงิ้วก็ให้คิดเอง บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ติดต่อกับ ดร.นัท อีกครั้งเพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว

ดร.ณัฐวุธ หรือ ดร.นัท ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก DrNut Nattawuth
ดร.ณัฐวุธ หรือ ดร.นัท ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก DrNut Nattawuth

...

เห็นคุณนัทโพสต์ข้อความภาษาอังกฤษว่าคุณไม่ใช่ภรรยาแล้ว สรุปคือแยกกันคนละทาง?
“ก็ประมาณนั้นละครับ เพราะผมกับเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันประมาณ 2 อาทิตย์แล้วครับ แต่รายละเอียดผมอยากให้คุยกับทางผู้หญิงมากกว่า เพราะเดี๋ยวผมพูดอะไรไปแล้วเขาจะไม่พอใจ อยากให้เขาเป็นคนพูดดีกว่าครับ”

ความรู้สึกของเราคือไปกันต่อไม่ได้แล้ว?
“ใช่ครับ จริงๆ วันนั้นที่ผมให้สัมภาษณ์ไปก็ชัดเจนว่าเขาคงไม่ได้กลับมาอยู่แล้ว แต่ผมก็พูดไม่เคลียร์เองแหละ ก็มีโอกาสอ่านในคอมเมนต์ และมีคนส่งมาให้ คือผมคงตอบไม่เคลียร์เอง ถามว่าอยากให้กลับมามั้ยก็อยากให้กลับมา แต่จะกลับมาได้มั้ยคงเป็นไปไม่ได้ เพราะสิ่งที่เขาทำมันเกินที่ผมจะให้กลับมาได้ ต่อให้กลับมาได้ มันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ผมเข้าใจว่าชีวิตคู่มันต้องเปลี่ยนทั้งคู่ แต่ในฝั่งของผม ผมว่าการเปลี่ยนแปลงสำหรับตัวผมมันน้อยมาก การเปลี่ยนแปลงของเขามันอยู่ที่ไลฟ์สไตล์ที่เขาเป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนเห็นในไอจีของเขา ตราบใดที่ยังใช้ชีวิตแบบนี้ ผมก็ให้กลับมาไม่ได้ แล้วผมรู้ว่าเขาเปลี่ยนไม่ได้แน่นอน

ผมก็อึดอัดในการใช้ชีวิตบางครั้ง ตัวเขาเองก็อึดอัด เพราะมันมีคนรอฟัง ผมเชื่อว่ามีทั้งคนเข้าข้างเขาและเข้าข้างผมรอฟังว่าเรื่องมันเป็นยังไง ผมเองก็อยากให้เขาพูดบ้าง”

น้ำหวาน เดอะเฟซ ขอบคุณภาพจากไอจี @namwan_raknapak
น้ำหวาน เดอะเฟซ ขอบคุณภาพจากไอจี @namwan_raknapak

เขาก็มีโต้ตอบเราผ่านทางไอจีสตอรี่?
"ไอจีสตอรี่ตรงนั้นผมไม่รู้ว่าเขาเข้าใจผิดว่าผมว่าเขารึเปล่า เพราะในไอจีเขาก็จะมีไอจีปลอมที่เข้าไปด่า ผมก็มีโอกาสเข้าไปอ่าน คือผมไม่ได้ส่องไอจีเขามาหลายวันแล้ว เพราะคิดว่าเราก็ตัดๆ ไปไม่ต้องไปยุ่ง

แต่พอมีคนแคปมาให้ดูก็เลยเข้าไปอ่านหน่อยว่าโดนด่าว่าอะไรบ้าง ก็ยังเป็นห่วงไม่ใช่ไม่ห่วง แต่ไม่ได้ห่วงแบบชู้สาว ผมกลัวว่าการที่เขาเจอผู้ชายคนนี้แล้วหลังจากที่เลิกไป เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ยังไง"

ฝ่ายน้ำหวานก็โพสต์ว่ามีอะไรให้มาคุยกับเขาสองคน อย่าลามไปถึงแม่?
“ผมไม่ได้ว่าแม่เขา วันนั้นผมไปเจอแม่เขาจริง ผมบอกเขาประมาณว่าจะไม่ได้เจอกันแล้วนะ แม่เขาก็ถามบางคำถาม ซึ่งก็เหมือนที่เพื่อนผมไปโพสต์ (เรื่องซื้อบ้านใหม่) คือมันก็เกี่ยวด้วย รวมถึงเรื่องรถ

ผมก็บอกว่าผมไม่สามารถให้รถคันนี้ไปใช้ได้ ถ้าเราเลิกกันเฉยๆ ต่อให้เขามีคนอื่น ถ้าไม่ใช่คนนี้ผมโอเคนะ ผมถือว่าถ้าเราต้องแยกย้ายกัน คุณต้องมีชีวิตใหม่ เราไม่สามารถบังคับให้เขาไม่คบกับใครได้ แต่ต้องไม่ใช่คนนี้

จริงๆ ตอนที่แม่เขาร้องไห้ผมรู้ เพราะตอนที่ผมไปยืนคุย แม่เขาก็ร้องไห้ ผมก็บอกว่าแม่ก็ต้องคุยกับลูกสาวแม่ว่าเรื่องนี้มันเริ่มต้นจากใคร มันไม่ได้เริ่มต้นจากผม การที่ผมตัดทุกสิ่งอย่างไม่ใช่มาจากผม มันมาจากเจ้าตัวเอง ผมเป็นคนถือเงิน การที่จะให้หรือไม่ให้มันอยู่ที่ผมน่ะใช่ แต่เรื่องมันเริ่มมาจากใครที่ทำให้ผมไม่ให้อะไรต่างๆ อย่ามาเรียกร้องกับผม

หลังจากนั้นก็คงโทรหาแล้วคงร้องไห้ ซึ่งเราไม่รู้ว่าร้องห่มร้องไห้ว่าอะไรบ้าง พอแม่เขาร้องไห้แล้วพูดบางประโยคที่ผมไม่สามารถพูดได้ ตัวเขาถึงถามผมว่าทำไมผมถึงพูดประโยคนี้กับแม่ มันทำให้หนูเสียนะ เขาก็เลยโพสต์ว่าทำไมไปยุ่งกับแม่เขา ผมไม่เคยลามปามผู้ใหญ่เลย

...

ฝั่งคุณนัทก็โพสต์ว่ามูฟออนแล้ว?
“ผมมูฟชีวิตไปแล้ว ครอบครัวผมดีมากนะ ไม่เคยเจอปัญหาเลย ครั้งนี้ผมว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้ว ในเมื่อมันเกิดแบบนี้ ผมไม่สามารถแบกรับอะไรตรงนี้ได้เลย มันก็ต้องตัด แต่ผมจะบอกว่าคนที่ขอร้องให้แยกย้ายไม่ใช่ผม แต่เป็นผู้หญิง

ตอนนี้เพื่อนทุกคนรู้ว่าเรากำลังเศร้า เขาก็อยากจะปลอบใจเรา ถ้าถามว่ามันอาจจะมีรูปถ่ายหลุดอะไรออกมารึเปล่า ผมบอกเลยผมไปเที่ยวกลางคืน ซึ่งปกติผมไม่ค่อยเที่ยวกับกินเหล้า แต่ช่วงนี้การที่ผมจะไปไหนกับใครถ่ายได้เลยเต็มที่ ผมก็ไปกับน้องๆ หลายคนที่มีตัวตนจริง และมีรุ่นพี่ที่สนิทกันมาก

เราเองก็เพิ่งอกหักมา เราก็อยากจะจีบผู้หญิงนะ แต่เราไม่รู้ว่าเขาอยากจะคบเราเป็นแฟนรึเปล่า เพราะตอนนี้เรามีข่าวไม่ดี แต่สิ่งที่ผมกลัวคือไม่ใช่กลัวจะโดนด่าหรอก แต่กลัวเขาจะโดนว่า ซึ่งคนที่ด่าก็ไม่ได้รู้ความจริง เราไม่อยากให้เขาโดนว่าอะไรเลย ผมเองก็ประกาศชัดเจนแล้วว่าน้ำหวานไม่ใช่ภรรยาผม ผมก็น่าจะมีสิทธิ์ครับ

ตอนนี้ผมไม่ได้โกรธอะไรเขานะ ที่จริงผมก็คุยกับน้ำหวานเกือบทุกวัน คือบอกเลยว่าอารมณ์ผมจะสวิงมาก และอารมณ์เขาก็สวิง สำหรับผมคือคนที่เรารักมากๆ คบกันมาเกือบ 10 ปีแล้ว วันหนึ่งเราต้องแยกย้ายจากเขา

...

บางทีเรายอมรับเลยนะว่าทำอารมณ์ไม่ถูกว่าตกลงเราอยากรักเขาต่อหรืออยากจะเกลียดเขาดี หรืออยากช่วยหรือทำอะไร บางทีก็มีอารมณ์คิดถึง ก็จะโทรถามเขาว่ากินข้าวรึยัง อยู่ที่ไหน บางทีก็อารมณ์โกรธ โทรกันตี 4 ตี 5 อันนี้คืออารมณ์ด่ากันแล้ว

แต่ถ้าพูดเรื่องของวุฒิภาวะ คนที่ด่าผมว่าเป็นด็อกเตอร์ การศึกษาสูง เรียนจบเมืองนอกมา ทำไมวุฒิภาวะไม่มี ผมบอกเลยว่าวุฒิภาวะผมสูงมาก ผมเป็นคนคุมอารมณ์ดีมาก ใจเย็นมาก ผมอยากให้ลองไปเสิร์ชกูเกิลก่อนว่าคำว่าวุฒิภาวะคืออะไร ผมควบคุมอารมณ์ก่อนจะโพสต์แต่ละครั้ง

ผมรู้ผลที่ตามมาคืออะไร ผมรู้ว่าถ้าโพสต์แล้วใครจะโดนด่าบ้าง ผมคำนวณแล้ว ผมคิดดีแล้วก่อนจะทำ ผมไม่สามารถตกเป็นเหยื่อของสังคมและสื่อได้ เพราะผมมีครอบครัวที่ดูแล และผมไม่สามารถให้คนในครอบครัวโดนตราหน้า โดนด่าว่าพ่อแม่อบรมมาไม่ดีรึเปล่า มันยอมไม่ได้ที่จะถูกด่าอยู่ฝ่ายเดียว

คุณนัทบอกว่ายังคิดถึง ยังคุยกับน้ำหวานอยู่เกือบทุกวัน มันจะไม่ได้มูฟออนจริงๆ รึเปล่า?
“มันไม่ใช่ในแบบชู้สาว ไม่ใช่แบบสามีภรรยาแล้ว แต่ผมเชื่อนะความรู้สึกลึกๆ เรายังมีทั้งโกรธและเป็นห่วง ผมถึงบอกว่าสวิง วันที่เราห่วงก็โทรถามว่าเขาอยู่ไหน ทำอะไร อย่านอนดึกมาก ก็ยังเป็นห่วง แต่ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่จะกลับมาบ้าน ขออย่างเดียวเลยอย่ากลับมา

...

ขอให้เขาพ้นจากตรงนี้ สถานการณ์นี้ ขอให้พ้นจากคนคนนี้ แล้วไปเจอคนอื่นหรือใครก็ได้จะดีใจด้วยมากๆ แล้วถึงเวลานั้นถ้าอยากมาขอความช่วยเหลืออะไรผมยินดีมากครับ แต่ต้องไม่ใช่กับคนคนนี้ แล้วก็ต้องดูแฟนใหม่เขาด้วยนะ ถ้าแฟนใหม่เขาไม่สบายใจที่ผมจะไปช่วยก็ไม่เป็นไร ผมก็ไม่ช่วยครับ”

น้ำหวานก็โดนทัวร์ลงไอจีค่อนข้างเยอะมาก?
ทัวร์ต้องลงอยู่แล้ว ถ้าทัวร์ไม่ลงน่ะผิด แสดงว่าสังคมส่วนใหญ่ของประเทศไทยมันมองผิดเป็นถูกได้ มันไม่ถูกต้อง"

ถามถึงเรื่องที่คุณนัทโพสต์ตอบชาวเน็ตเรื่องน้ำหวานว่าจะขึ้นสวรรค์หรือขึ้นต้นงิ้วก็ให้คิดเอาเอง?
“บางคนก็บอกว่าแรง บางคนก็บอกว่าไม่แรง สำหรับผม ผมว่าไม่ได้แรงนะ ถ้าเราไม่ได้ทำน่ะแรง ปรักปรำ ไปด่าโดยที่เขาไม่ได้ทำน่ะแรง แต่สำหรับผมเคสนี้ถือว่าไม่แรงครับ ถามว่ามีฟีดแบ็กกลับมายังไงบ้าง ถ้าคนที่ทักผมมา มีแต่คนให้กำลังใจผม แต่ถ้าคนที่ไม่ได้ทักมาแสดงว่าคนนั้นด่าเรา

จริงๆ ผมอยากให้เขาออกมาแถลงด้วยซ้ำว่าเรื่องมันเป็นยังไง ถ้าพูดถึงดีก็โอเค ถ้าพูดถึงผมไม่ดีก็ต้องมาว่ากันอีกทีว่าไม่ดีแบบไหน เราเป็นผู้ชาย ยอมได้คือยอมอยู่แล้ว ผมยอมเขามาตลอดชีวิต แต่ครั้งนี้มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะยอมได้รึเปล่า ก็แล้วแต่ว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำกับเราครับ

โอกาสที่จะกลับมาเหมือนเดิมก็คงไม่มีแล้ว?
“ใช่ครับ ไม่มีทางครับ ก่อนหน้านี้ก็อยากให้กลับมา ภาวนาว่าที่เกิดขึ้นมันฝันใช่มั้ย บังเอิญใช่มั้ย เราเข้าใจผิดใช่มั้ย แต่มันเข้าใจผิดไม่ได้ เพราะเพื่อนเราเพื่อนเขาคอนเฟิร์มกันมาทุกทาง คือผมไม่ได้ดังนะ แต่ผมเป็นคนในสังคม แล้วสังคมของเรามันตามกันจนเจอ”

ทำให้ความรักครั้งต่อไปต้องระวังหรือเผื่อใจไว้มากขึ้นมั้ย?
“จริงๆ ผมก็ไม่ได้ระวังนะ ก็มีคนแนะนำให้รู้จักคนใหม่ๆ เราก็บอกว่าถ้าน้องนิสัยดีถ้าได้ก็ดี แต่ถ้าแบบเดิมน่ะไม่เอา อะไรที่ฉาบฉวยไม่อยากได้ สิ่งที่ง่ายที่สุดอาจจะเป็นคนธรรมดาก็ได้ ใช้ชีวิตปกติไม่หรูหรา ไม่ต้องแบรนด์เนม เที่ยวเมืองนอก เราเลี้ยงดูเขาได้ ปัญหาคือดีรึเปล่าเท่านั้นเอง”

แต่ไม่เข็ดกับคนในวงการ?
“ไม่ครับ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเข็ดกับอะไรเลย เพราะผมเชื่อว่าทุกอย่างมันจะไปเหมือนกับทุกคนทุกครั้งไม่ได้หรอก ตอนนี้โอเพ่น ใครเข้ามาแล้วดีๆ ก็โอเคครับ ก็ค่อยๆ ดูกันไป”

อยากฝากอะไรถึงคนที่ติดตามข่าว?
“มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็อยากให้ฟังผู้หญิงเขาพูดด้วย อย่าฟังผมคนเดียว เพราะว่าเวลาฟังผมคนเดียวมันก็เป็นความข้างเดียว เปิดใจให้กว้างๆ แล้วนึกถึงเรื่องความจริงกันดีกว่า อย่าเข้าข้างเพราะว่าคนหนึ่งเป็นดารา อีกคนเป็นนักธุรกิจ คนนี้รวยหรือไม่รวย อย่าเข้าข้างเพราะว่าคนที่ต้องเป็นแบบนี้จะต้องเป็นคนดี อยากให้รู้ความจริง ถ้าไม่รู้ความจริงอย่าพูดเยอะ ระวังเงิบนะครับ”.