ปังต่อไม่รอแล้ว! หลังซีรีส์ “เพราะเราคู่กัน 2gether The Series” สร้างปรากฏการณ์โด่งดังทั่วโลก แจ้งเกิดนักแสดงนำ “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี” ผู้รับบท สารวัตร และ “วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” ผู้รับบท ไทน์ ขึ้นแท่นคู่จิ้นฟินหยุดโลก กอบโกยความรักจากแฟนๆ ไปล้นหลามแบบฮอตฮิตติดเทรนด์โซเชียล

ล่าสุด จีเอ็มเอ็ม-ทีวีสานต่อความสำเร็จด้วย “เพราะเรา (ยัง) คู่กัน Still 2gether” ตอนพิเศษ ทุกวันศุกร์ เวลา 21.30 น. ทางช่อง GMM25 และ 23.00 น. บน LINE TV ที่ตัวละครเติบโตและฟินกว่าเดิม แถมเรียกว่า 2 หนุ่มช่วงนี้เป็น “คู่กัน” ของจริง เพราะลุยงานเจอกันทุกวันต่อเนื่องมากว่า 6 เดือนแล้ว เลยได้โอกาสคว้า “ไบร์ท-วิน” มาอัปเดต...

ความรู้สึกตอนถ่ายทำภาคแรกกับตอนพิเศษต่างกันยังไง?

วิน “ตอนพิเศษความรู้สึกแรกของผมคือดีใจที่ได้กลับมาเล่นอีกครั้ง ตอนถ่ายของผมรู้สึกกดดันกว่าเดิมเพราะเรามีชื่อเสียงมีคนรู้จักแล้ว คุณภาพของเราก็ต้องดีกว่าเดิม”

ไบร์ท “สำหรับผมไม่ต่างกันครับ ก็ตั้งใจทำงานและใส่เต็มเท่าเดิม ผมก็นั่งคุยกับผู้กำกับก่อนว่ากลับมาอยู่กองก็อยากให้เซตใหม่ คิดว่าเราเป็นนักแสดงใหม่มาเล่น มันก็เวิร์ก เหมือนล้างใหม่ และบรรยากาศเปลี่ยน ภาคนี้สนิทกันเฮฮากัน สนิทใจกันมากขึ้น”

...

เริ่มตอนพิเศษนี้เข้มข้นมาเลย?

วิน “ใช่ครับ เพราะเล่าถึงตอนที่สารวัตรกับไทน์เป็นแฟนกันแล้ว คนเป็นแฟนกันเค้าทำอะไรกันบ้าง เป็นความรู้สึกที่โตขึ้นใน 1 ปีของตัวละคร มีหลายสิ่งที่ไม่เคยเห็นในตอนแรกก็จะได้เห็นตอนพิเศษนี้”

สิ่งที่เรารักในตัวละครคืออะไร?

วิน “ผมว่าไทน์เป็นคนซื่อสัตย์ซื่อตรง เชื่อใจไว้ใจได้ ตอนพิเศษจะเห็นไทน์เป็นผู้นำมากขึ้น ถ้าถามว่ามีส่วนร่วมในตัวละครมั้ย เราก็ได้ลองเล่นให้ผู้กำกับดู พี่ไบร์ทเค้าจะชอบอิมโพรไวส์บทเอง เหมือนเราสองคนรู้กันแล้วว่าเค้าจะมาแบบไหน คุณไปผมไปได้ รู้ทางกัน ตอนแรกๆผมใหม่มากก็มีงงบ้างแต่ก็เรียนรู้ไป”

ไบร์ท “สารวัตรเค้าไม่พูดเยอะ แต่เค้าทำ เค้ารักไทน์ก็ทำให้เห็น แต่เค้าทำเค้าดูแลไทน์ให้ดีที่สุด ไม่ได้ต้องมาบอกใครแต่รักจริงๆคือผมจะไม่ค่อยท่องจำบท จำว่าต้องทำอะไรและลองเข้าไปเล่นดูแต่ละซีนผมก็เลยพูดสับไปสับมา น้องก็ต้องอยู่กับผมและเล่นไปด้วยกัน น้องเก่งครับเราเล่นแล้วคอยฟังว่าเราพูดอะไร”

แปลว่าหลายฉากที่ออกมาคือรับส่งอารมณ์กันสดๆ ตรงนั้น?

ไบร์ท “ใช่ครับ เยอะมาก จริงๆแทบจะไม่มีซีนไหนที่ผมพูดตรงตามบท (ยิ้ม)”

ไบร์ท “ส่วนความเข้มข้นของตัวละครที่มากขึ้น สำหรับผมมันง่ายขึ้นนะเพราะภาคแรกสารวัตรจะขรึมๆ พูดน้อย มันยากตรงที่เราต้องอยู่ในคาแรกเตอร์แต่ต้องแสดงให้เห็นว่ามีอารมณ์นะ เล่นยาก สารวัตรซีซันแรกถือเป็นบทที่ยากที่สุดในชีวิตผม แต่พอตอนพิเศษ โตขึ้นมา 1 ปี สารวัตร ป๊อปปูลาร์เจอคนเยอะ พออยู่กับไทน์ได้รับสิ่งดีๆ ร่าเริงขึ้น โตขึ้น”

ที่พูดมาเหมือนตัวจริงเรามั้ย?

ไบร์ท “เวลาผมเล่นเรื่องไหน ผมจะเป็นแบบนั้นพักนึง แรกๆตอนเป็นสารวัตร ผมจะเงียบๆ พอหลุดสารวัตรมาผมก็กลับมาเป็นผม”

ตอนพิเศษนี้แสดงออกความรักกันมากขึ้นด้วย?

ไบร์ท “ก็เหมือนคนคบกันนาน ใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ไทน์ก็เริ่มรู้ทันไม่ได้เขินอย่างเดียวแล้ว ต่างฝ่ายต่างแสดงความรักกัน”

เวลาเล่นเราเขินมากขึ้นมั้ย?

ไบร์ท “ไม่นะ แต่มันมีความสุขมากขึ้น เหมือนคนคบกันนาน”

เหมือนตัวละครเข้ามาอยู่ในตัวเรา?

“ภาคแรกเป็นครับ ผมพูดน้อยลงเลย ส่วนภาคพิเศษนี้ ผมว่าสารวัตรคนนี้คล้ายผมนะ บางทีก็แยกไม่ค่อยออก (ยิ้ม) เหมือนโตไปด้วยกัน”

ความดังของซีรีส์นำพาทำให้เราได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำในชีวิตบ้าง?

ไบร์ท “ก็เช่นรับเลี้ยงสัตว์ที่แฟนคลับเอามาให้เลี้ยง การได้ทำเพลง กลายเป็นว่าเส้นทางนักแสดงของผมย้อนกลับไปทำให้ผมได้เป็นนักร้องในวันที่ผมอยากเป็น”

...

จะมีงานอะไรคู่กันต่อมั้ย?

ไบร์ท “มีนะครับ ต้องรอติดตาม”

ถ้าได้เล่นกับวินอีกในเรื่องอื่นๆ อยากเล่นในพล็อตเรื่องแบบไหน?

ไบร์ท “อยากเล่นเป็นเพื่อนสนิทเป็นแก๊งๆ ผมอยากเห็นน้องผมฟีลแบบเป็นคาสโนวา จีบผู้หญิงเพราะน้องยังไม่เคยเล่นกับผู้หญิง เล่นแต่กับผมอย่างเดียวเลย อยากให้น้องได้ลองแพรวพราวกับผู้หญิง (หัวเราะ)”

วิน “อยากเล่นเป็นแก๊งสเตอร์เหมือนกัน อยากเห็นพี่เค้าเล่นแนวโหดๆ บ้านรวยเอาแต่ใจ บวกเค้าไปทั่ว ไม่สนโลก โชว์มุมดาร์ก (หัวเราะ) แล้วเราก็ไปด้วย”

มาถึงตอนนี้สิ่งที่ยากที่สุดของเราในการอยู่ตรงนี้คืออะไร?

ไบร์ท “คงเป็นการแบ่งเวลา พวกผมมีชื่อเสียงเร็วแต่เวลาในการพัฒนาตัวเองมันไม่ค่อยมี อยากแบ่งเวลาทำงาน พักผ่อน พัฒนาตนเอง”

วิน “การพัฒนาตัวเองเหมือนกันครับ ด้วยชื่อเสียงที่ขึ้นสูงเราก็ควรรีบพัฒนาตัวเองตามไปด้วย”

...

แล้วสิ่งที่ดีที่สุดล่ะ?

วิน “ผมว่าคงเป็นการที่เราได้ทำงานที่ชอบในแต่ละวัน”

ไบร์ท “ของผมคงดีที่สุดคือเลี้ยงที่บ้านได้ ดูแลครอบครัวได้”

เราสองคนผ่านช่วงบ่มเพาะประสบการณ์ทั้งความผิดหวัง การรอคอยกว่าจะมาถึงวันนี้ ได้เรียนรู้อะไรบ้าง?

ไบร์ท “ผมทำงานมาแต่เด็ก ตอนเด็กๆผมอาจจะไม่ค่อยใส่ใจมันเท่าไหร่ ให้ทำอะไรก็ทำเพื่อได้เงิน พอเราเห็นผลงานสุดท้ายมันไม่ได้ดีอย่างที่เราคาดหวัง เราผิดหวังกับตัวเองบ่อยๆจนวันนึงเราเลยคิดได้ว่า ต่อจากนี้เราจะทำทุกงานให้เต็มที่ คงเป็นบทเรียนที่สำคัญ”

วิน “ผมได้เรียนรู้เรื่องความคาดหวังว่าอะไรมันไม่ได้ได้มาทุกอย่าง ทำให้เราเรียนรู้ที่จะไม่คาดหวัง แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ตั้งใจนะ ผมยังตั้งใจแต่ไม่รู้ผลว่ามันเป็นยังไง แค่ทำให้มันดี”

สำหรับเรามองว่าการเข้ากันได้ดีของเราสองคนจะเรียกว่าที่มาจิ้น “คู่กัน” กันได้ “ถูกคู่” ได้มั้ย?

ไบร์ท “ผมว่าเราเป็นคนนิสัยคล้ายๆกัน เราเป็นคนง่ายๆกันทั้งคู่ เลยอยู่กันชิลๆเป็นเพื่อนที่สนิทกันเลยครับ”

ต้องปรับอะไรให้มีจุดบาลานซ์กันมั้ย?

วิน “ด้วยการทำงานกันมาเรื่อยๆทำให้รู้ว่าคนนี้ชอบอะไรไม่ชอบอะไร ควรทำไม่ควรทำอะไรตอนไหน ค่อยๆเรียนรู้กันเวลาต้องอยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกันก็ทำให้ยิ่งสนิทกันมากขึ้น”

คำว่า “คู่กัน” คนที่จะมาคู่กับ “ไบร์ท-วิน” ในชีวิตจริงต้องเป็นแบบไหน?

ไบร์ท “สมมติเราเป็นวงกลมคนที่เข้ามามีส่วนซ้อนกับเราได้แต่ส่วนที่เป็นของผมก็ต้องเป็นของผม”

...

วิน “สำหรับผมคงเป็นคนที่เข้ากันได้ อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขมากขึ้นครับ”.