เจ้าของเพลงดัง ช่างไม่รู้เลย อย่าง ตั้ม สมประสงค์ สิงหวนวัฒน์ ได้ประกาศลาออกจากวงการบันเทิงหลังอยู่มานาน 35 ปี ที่งาน Be My Guest The Alzheimer Comedy Concert โดยมีเหตุผลว่า ไม่ได้เป็นคนสำคัญของวงการ
มีข่าวออกมาว่าเราเตรียมจะอำลาวงการแล้วจริงมั้ย?
“พี่คิดว่าถึงเวลาของพี่แล้ว จริงๆ ก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้มานานแล้วนะครับ นานๆ จะขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่สักที เราก็รับแต่คอนเสิร์ตใหญ่อย่างเดียวเลย ส่วนละคร ภาพยนตร์ก็นานมากแล้ว คือเราไม่ได้มีส่วนร่วมตรงนี้อยู่แล้วไงครับ
ตอนหลังๆ ภาระการงานที่เชียงใหม่ค่อนข้างเยอะมาก มันไม่สะดวก และเหมือนจะเป็นภาระกับพวกน้องๆ เช่น งานนี้ตอนแรกพี่จะไม่มาอยู่แล้ว เราคิดว่าจะหายไปเฉยๆ ครับ แต่ก็คุยไปคุยมา ไหนๆ ก็ครั้งสุดท้ายเลยขอทำให้เต็มที่”
ตัดสินใจนานมั้ยที่จะออกจากวงการไปเลย?
“ตัดสินใจมาแล้วครับ เป็นปีแล้ว เคยคุยกับเพื่อนๆ หลายคน และน้องๆ ที่ติดต่องานมา คือก่อนหน้านี้เราขอเวลานั่งดูเด็กที่มีฝีมือบ้างดีกว่า”
เพื่อนๆ หลายคนก็ยังไม่อยากให้ออก ซึ่งบางคนก็ไม่เชื่อเลย?
“นี่คือเรื่องจริง ตัดสินใจแล้วคือไม่เลย ไม่เอาแล้ว”
...
นอกจากเรื่องงานแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้อยากออกจากวงการอีกมั้ย?
“ไม่มีแล้วครับ เพราะพี่คิดว่าถึงเวลาแล้วนะ อีกอย่างพี่ก็อายุเยอะมากแล้ว ใกล้จะแซยิดมากแล้ว”
ใช้คำว่าอิ่มตัวแล้วได้มั้ย?
“ไม่อิ่มหรอกครับ มันเป็นเรื่องภาระหน้าที่จริงๆ เราไม่สามารถที่จะขึ้นๆ ลงๆ ได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะพี่อยู่เชียงใหม่ถาวรอยู่แล้วครับ 3 ปีแล้ว”
หรือเพราะเราเบื่อการดำเนินชีวิตในเมืองหลวง?
“ใช่ จริงๆ ก็คือเบื่อกรุงเทพฯ ที่สุดเลย พี่นั่งเครื่องจากเชียงใหม่มา 1 ชั่วโมง พี่ต้องเดินทางเข้าบ้านอีก 3 ชั่วโมง พี่ไม่ชินแล้วอะ ที่เชียงใหม่ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ใช้เวลาเดินทางแค่ครึ่งชั่วโมงเอง อีกอย่างพี่ก็ไม่ใช่คนสำคัญของวงการอยู่แล้ว”
ทำงานในวงการมากี่ปีแล้ว?
“35 ปีแล้วครับ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2525 มันก็นานมากแล้ว หนูๆ ยังไม่เกิดกันเลยมั้ง”
มีแอบใจหายบ้างมั้ย?
“เอ่อ... ใจหายไหม คือไม่นะครับ เพราะมันไม่ได้มีส่วนร่วมตรงนี้มานานมากแล้วไง มันเลยไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ แต่ตรงนู้นยิ่งอยู่ก็ยิ่งมีอะไรให้ทำเยอะแยะ สนุก ไว้มารอดูพี่ทำเมืองเชียงใหม่ให้สนุกสนานกว่านี้ดีกว่า”
แสดงว่าเรามีโปรเจกต์อะไรไว้แล้ว?
“ครับ ใจของพี่คือหากไปอยู่เมืองไหนก็ต้องทำความเจริญให้เมืองนั้น ตอนนี้โปรเจกต์หลายๆ อันที่เข้ามาทิ้งไม่ได้แล้ว”
เป็นธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมหรือเปล่า?
“ไม่ใช่โรงแรมครับ มีทั้งคอนโดมิเนียม สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดนัด เยอะแยะไปหมดเลย ออกแนวสถานที่ท่องเที่ยว มีหน่วยงานราชการและเอกชนที่เข้ามาร่วมด้วย เป็นโปรเจกต์ใหญ่เลยครับ รอฟังได้เลย หากทุกอย่างเบ็ดเสร็จเดี๋ยวจะแถลงให้ทราบ ตอนนี้เลยอยากจะโฟกัสตรงนั้นมากกว่า พี่อยากจะให้ตรงนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ไปเจอกันตรงนั้นดีกว่า”
ข่าวออกมาประจวบเหมาะกับคอนเสิร์ตพอดี หลายคนเลยคิดว่าเป็นการโปรโมตหรือเปล่า?
“(หัวเราะ) ไม่ๆ พี่บอกกอล์ฟก่อนแล้วว่าจะไม่ขึ้นมาร้องด้วยซ้ำ แต่เขาก็ขอ พี่เลยประกาศซะเลย เพราะก็มีคนติดต่อมาค่อนข้างเยอะเหมือนกัน จึงประกาศเลยว่าไม่ร้องแล้วอะ เพราะเราไม่ได้เป็นคนสำคัญของวงการแล้วไง พี่จะอยู่ จะไป ก็ไม่มีความสำคัญอยู่แล้ว”
พูดแบบนี้ไม่ได้น้อยใจใช่มั้ย?
“ไม่ๆ ไม่เลย พี่ไม่เคยน้อยใจอะไรอยู่แล้วนะ จากสันดานพี่คืออะไรก็ได้ แต่พี่คิดว่าพี่อยู่ตรงนี้มานานมากแล้ว อยากจะทำอย่างอื่นแล้ว”
ถามถึงเรื่องของ โอ วรุฒ ได้มีการพูดคุยเรื่องกับนีโน่มั้ยว่าจะดูแลครอบครัวของโอต่อไปอย่างไร?
“คุยกันตลอดครับ จากงานของโอ เงินที่ผ่านบัญชีของโน่ ของผม แล้วก็ของน้องๆ ทุกคน รวบรวมได้ประมาณ 2 ล้านบาทนะครับ ตอนนี้ก็โอนให้กับคุณพ่อคุณแม่ไปแล้วบางส่วน แล้วก็จะมีงานทำบุญครบรอบ 50 วัน แล้วงาน 100 วัน วันที่ 23 ธันวาคม พระราชทานเพลิงศพ”
เรื่องพิพิธภัณฑ์คุยกันว่าอย่างไรบ้าง?
“เรื่องพิพิธภัณฑ์ได้คุยกับกลุ่มน้องที่ทำงานในวงการ เขาก็อยากทำบ้านโอให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นบ้านโกโบริ เหมือนกับบ้านของ เอลวิส เพรสลีย์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องคุยกับคุณพ่อคุณแม่ก่อน ว่าไหวไหม เพราะท่านก็อายุมากแล้ว 85 แล้ว
ตอนนี้ที่คุยกันคือเราเป็นห่วงว่าคุณพ่อคุณแม่จะดูแลไหวหรือเปล่า เพราะท่านอยู่กันสองคน ทั้งบ้านแก่หมดแล้ว อายุน้อยที่สุดน่าจะ 70 นะ แล้วพวกเราก็คงไม่สามารถที่จะไปดูแลได้ตลอดเวลา แต่ก็ได้ไปดูบ้าง แล้วเรื่องที่ไว้ร่างโอ เราก็แวะไปบ่อย เพราะเป็นสถานที่ที่เราไปบ่อยๆ อยู่แล้วครับ”
...
งานทำบุญครบรอบ 50 วัน ก็จะเป็นการรวมตัวเพื่อนๆ อีกครั้งหนึ่งใช่มั้ย?
“ใช่ๆ ทำบุญ 50 วัน ก็จะเลี้ยงพระเพล ทำบุญตามปกติของศาสนา แล้วก็ทำบุญ 100 วัน แล้วก็เผา พระราชทานเพลิงศพ”