สร้างเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี เมื่อนักแสดง-ผู้กำกับ หนุ่ม อรรถพร ธีมากร มาร่วมรายการ “เสือ สิงห์ กระทิง แซ่บ” ทางช่อง 3 คู่กับศรีภรรยา ฝ้าย อริญรดา งานนี้เจ้าตัวได้เล่าถึงชีวิตความรักกับฝ้ายที่อายุห่างกันถึง 12 ปีให้กับ 3 พิธีกร ดีเจนุ้ย, ตุ้ย เกียรติกมล และหนูเล็ก ก่อนบ่ายฯ ให้ฟังแบบเต็มๆ
โดยหนุ่มเล่าย้อนไปถึงนาทีที่ขอฝ้ายแต่งงานว่า “ยืนมองหน้านิ่งๆ สักแป๊บนึง เราก็ถามเขาไปตรงๆ ว่าแต่งงานกับผมมั้ย”
ฝ้ายเสริมว่า “ไม่หรอก จริงๆ พี่หนุ่มเขาก็คุยเรื่อยเปื่อย แต่ก่อนหน้านี้เรามีคุยว่างานแต่งงานอยากให้เป็นแบบนี้แบบนั้น แล้วพี่หนุ่มก็ถามว่าเออ แต่งงานกันมั้ย ฝ้ายก็ตอบว่าอืม ก็ได้ ก็แค่นี้ค่ะ ที่ยอมแต่งงานเพราะพี่หนุ่มเป็นผู้ใหญ่กว่าฝ้าย ห่างกัน 12 ปี แต่พี่หนุ่มใส่ใจและดูแลฝ้ายดีมากค่ะ มีอะไรก็คุยได้ ปรึกษาได้ตลอดเวลา”
ซึ่งเมื่อก่อนที่จะแต่งงาน หนุ่มบอกว่าเป็นผู้ชายเจ้าชู้ “ก็เป็นผู้ชายเจ้าชู้ปกติ แต่ไม่ถึงกับหน้าหม้อ มีแฟนมาแล้วหลายคน แต่ก็เป็นชิ้นเป็นอันไป ไม่ได้สะเปะสะปะครับ ส่วนเรื่องปิดบังแฟนไม่มีนะ” ก่อนที่ฝ้ายเสริมว่า “มีเรื่องเดียวคือเช่าพระ เราก็รู้อยู่แล้วแหละ แต่ก็มีถามว่าเช่ามาเท่าไหร่ยังไง”
...
ก่อนที่ฝ้ายจะเล่าถึงวีรกรรมความขี้หึงของหนุ่ม “เป็นคนขี้หึงมากๆๆๆ เลย ก็มีเหตุการณ์ทักเพื่อนไป และเพื่อนมีลูกแล้ว เราเรียกเขาว่าคุณพ่อ แต่เขาไม่รู้ที่มาที่ไปก็โกรธ พอเขาโกรธก็จะเงียบๆ นิ่งๆ ค่ะ
ถามว่าเคยรำคาญนิสัยขี้หึงของเขามั้ย เคยค่ะ ตอนนี้เขาก็ยังมีหึงบ้างเป็นระยะๆ คือทุกครั้งที่เกิดเรื่องก็เคลียร์กันหมดตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่บางทีมันไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น ไม่ต้องหึงต้องหวง เมียสวยมาก ทุกวันนี้อ้วนมากขนาดนี้ (ยิ้ม)”
และเมื่อทั้งคู่แต่งงานจนมีลูกชาย 2 คนคือ น้องอันดา กับ น้องอดัม ก็เลือกที่จะอยู่กับครอบครัว ไม่เที่ยวปาร์ตี้หรือเข้าสังคมเหมือนเมื่อก่อนด้วย
โดยหนุ่มให้เหตุผลว่า “มันใช้ความรู้สึกสัญชาตญาณที่รู้สึกว่าถึงเวลาที่อะไรมันควรไม่ควร โดยธรรมชาติเมื่อวันนึงเราโตขึ้นถึงจุดนึง ธรรมชาติจะบอกเราเองว่าอันไหนควรทำไม่ควรทำ”
นอกจากนี้หนุ่มยอมรับหวงลูกมาก ถึงขั้นบอกว่าอย่าจับมือลูก เพราะมือคนจับไม่รู้ว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ล้างมือมารึยัง แล้วเด็กชอบเอามือเข้าปาก ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย
ส่วนฝ้ายเองเผยถึงชีวิตที่พลิกผันเมื่อต้องมีครอบครัวว่า “อาจจะเป็นเพราะเป็นคนติดเพื่อน ตัวฝ้ายเองเวลาไปไหนกับเพื่อนก็ไปกันเยอะ พอมีครอบครัวเราก็ต้องเลือกครอบครัวเรามาก่อนอันดับ 1
เพื่อนต้องใช้ความคิดเอาเองว่าถ้าจะมาหาเราเนี่ยคือต้องมาที่บ้าน หรือถ้าจะพาเราไปกินข้าวต้องไปกินแถวบ้านเท่านั้น เพื่อนก็จะเข้าใจ ถามว่าคิดว่าแต่งงานเร็วไปมั้ยไม่เคยคิด เรารู้สึกว่ามีลูกแล้วลูกจะได้โตเร็วๆ ดูแลเราได้ รู้สึกดีมากกว่า”
กับเรื่องบริหารเสน่ห์เพื่อไม่ให้สามีเบื่อ ฝ้ายบอกว่า “ไม่เคย ถามว่าเคยใส่สายเดี่ยวมั้ยไม่มี ยิ่งนับวันยิ่งแต่งตัวแย่ลงด้วย ไม่ค่อยแต่งตัวด้วยซ้ำทุกวันนี้ค่ะ”
หนุ่มเสริมว่า “ผมห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่าเพราะฝ้ายเป็นความดัน เรื่องความอ้วนมันมีผลกับระบบความดัน ถ้าน้ำหนักลดแล้วร่างกายดีขึ้นเขาจะได้ไม่มึนหัว ผมห่วงเรื่องนั้นมากกว่า”
แน่นอนว่าชีวิตคู่ย่อมมีปัญหาระหว่างคนสองคนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งหนุ่มเผยถึงเวลาที่ฝ้ายของขึ้นว่า “เริ่มนิ่ง ไม่พูดหรือพูดสั้นๆ ถ้าเลเวลสุดคือบอกว่ามานั่งคุยหน่อยสิ
...
ผมว่าชีวิตคู่เป็นเรื่องคนสองคนที่มาเจอกันและต่างคนต่างพ่อแม่ ในความพยายามจะทำให้สมบูรณ์แบบบางทีมันเกิดเรื่องไม่สมบูรณ์แบบขึ้นในระหว่างทาง บางทีมันก็เลยต้องปรับความเข้าใจ”
เมื่อถามถึงเทคนิคที่ทำให้ความรักยังหวาน หนุ่มบอกว่า “เวลาที่มีครอบครัว เป้าหมายในชีวิตมันใหญ่ขึ้น สิ่งที่ผมมองไปข้างหน้าอย่างเดียวคือคำว่าครอบครัว”
ด้านฝ้ายบอกว่า “ด้วยความที่เราสองคนคุยกันเยอะมากกว่า มีอะไรก็จะคุยกันตลอดเวลา อะไรที่ไม่ถูกใจหรือขัดใจก็จะพูดจะคุยแล้ว จุดมุ่งหมายของเราสองคนคือลูก”
วิธีกระชับรักของทั้งคู่ หนุ่มบอกว่า “ใช้ชีวิตด้วยกันเยอะๆ ไปกินไปเที่ยว ดูแลครอบครัวทุกอย่าง ถามว่าชุดคอสเพลย์จำเป็นมั้ยไม่จำเป็นนะ ปกติเวลานอนฝ้ายจะใส่ชุดนอนธรรมดา ส่วนที่ผมชอบที่สุดคือแววตาของเขา จังหวะแรกที่เจอเขาและหลงรักเขาคือแววตาของเขาครับ”
และเมื่อพิธีกรถามฝ้ายว่าหากจับได้ว่าแฟนซุกอีหนูจะทำยังไง ฝ้ายบอกว่า “ก็เฉยๆ ค่ะ แค่พุดคุยกันว่าจริงหรือเปล่า ถ้าจริงก็โอเค จบ เลิกเลย คนที่มีครอบครัวแล้วมันเรื่องใหญ่ แต่เราต้องคุยกันก่อนว่ามันเกิดจากอะไร”
ด้านหนุ่มบอกว่าเรื่องที่เซ้นซิทีฟมากจนรับไม่ได้คือเรื่องมือที่ 3 “ผมว่าเป็นเรื่องคนที่ 3 แหละ ถ้าครอบครัวนึงที่แข็งแรงดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีมือที่ 3 ของฝ่ายใดฝ่ายนึงเข้ามา นั่นแหละคือเรื่องที่น่ากลัวที่สุด”.
...