กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เมื่ออดีตนักร้องอาร์เอส เม จีระนันท์ กิจประสาน เดือดร้อนจากการทำศัลยกรรมหน้าอกที่ประเทศเกาหลี พร้อมทั้งเผยข้อมูลต่างๆ และเตรียมฟ้องร้องค่าเสียหายสูงถึง 60 ล้าน ล่าสุด อุ้ม รัสรินทร์ คู่กรณีที่อดีตนักร้องสาวได้พาดพิงถึงได้ออกมาชี้แจงในมุมของตัวเองบ้าง
ซึ่ง อุ้ม ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าวในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีใจความว่า “สวัสดีค่ะ อุ้มนะคะ ขอชี้แจ้งเนื่องจากกรณีข่าวการทำศัลยกรรมที่พาดพิงมาถึงตัวอุ้ม ในเรื่องของคุณเมที่มาทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลเกาหลีเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว อุ้มจะพูดความจริงในส่วนของอุ้มบ้าง
**ในการชี้แจงครั้งนี้ อุ้มจะไม่พูดถึงเรื่องการแพทย์ใดๆ เพราะทางโรงพยาบาลเกาหลีจะออกมาชี้แจงเองนะคะ**
ตัวอุ้มเองทำงานในนามบริษัทเกาหลี ที่นี่อยู่แล้ว
เริ่มต้นจากคุณเมติดต่อเข้ามาหาอุ้ม ว่าอยากเสริมหน้าอกในช่วงเดือนธันวาคม 2560 คุณเมได้เอ่ยถึงชื่อคุณหมอรีเเละแจ้งว่ามีเพื่อนของคุณเมมาแก้ไขหน้าอกกับคุณหมอและพอใจ
คุณเมจึงสนใจอยากทำ คุณหมอรีเป็นคุณหมอที่ถนัดทำศัลยกรรมหน้าอกอยู่แล้ว หน้าอกของอุ้มเองก็ทำกับหมอรี เพื่อนของอุ้ม, model, net idol และเคสอื่นๆ อีกมากมายก็ทำกับคุณหมอรีเช่นกัน

...
เริ่มต้นด้วยการเข้ารับการปรึกษาครั้งแรกกับคุณหมอเจ้าของโรงพยาบาล (วันที่ 19 ธันวาคม 2560)
โดยคุณเมได้สอบถามปัญหาที่ไม่พอใจในแต่ละส่วนกับคุณหมอเองซึ่งคุณหมอจะแนะนำว่าแก้ไขได้ไหม แก้อย่างไร และมีจุดไหนที่ทำแล้วสวยขึ้นบ้าง สุดท้ายคุณเมตัดสินใจเองที่จะเสริมหน้าอกและทำตา โดยไม่ได้มีการบังคับใดๆ ทั้งสิ้นจากอุ้ม
และคุณเม ได้จ่ายชำระเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดกับโรงพยาบาลโดยตรง ไม่ได้จ่ายผ่านอุ้ม หลังจากนั้นก็ ได้เข้ารับการผ่าตัดในวันที่ 21 ธันวาคม 2560
...ตั้งแต่ทราบว่าเกิดปัญหาเมื่อคุณเมกลับมาประเทศไทย อุ้มมีความเครียดเเละความกังวลอย่างมากที่สุด เพราะคุณเมต้อง admit โรงพยาบาล
โดยอุ้มเป็นคนสอบถามคุณแม่ของคุณเมว่าอยากย้ายไปทำการรักษาที่อื่นไหมเเละ รพ.เกาหลี จะออกค่าใช้จ่ายการรักษาของคุณเมให้ทั้งหมด
กล่าวย้อนไป..อุ้มติดตามอาการของคุณเมมาโดยตลอดและส่งเรื่องให้ทางโรงพยาบาลเกาหลีทุกครั้ง อุ้มไม่เคยทิ้งขว้าง ถ้าตอบช้าในบางครั้งก็เพราะต้องรอคำตอบกลับจากโรงพยาบาลเช่นกัน
โดยทุกคำตอบต้องได้รับการคอนเฟิร์มจากแพทย์เจ้าของเคสจึงจะตอบกลับไปได้ เมื่อเหตุการณ์มาถึงช่วงที่คุณเมต้องผ่าเอาซิลิโคนที่หน้าอกออก อุ้มเสียใจอย่างมากและอุ้มก็พยายามพูดคุยสอบถามอาการของคุณเมผ่านคุณแม่เกือบทุกวัน
เเละเเจ้งว่าหากไม่สบายใจตรงไหน อยากเปลี่ยนโรงพยาบาลก็สามารถบอกอุ้มได้เลยอุ้มจะคอยประสานงานให้ เเละยังให้คนไปเยี่ยมอาการ ทั้งที่โรงพยาบาลแรกและโรงพยาบาลที่สองอยู่เสมอ

คุณเมได้รับการรักษาจนมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ โดยคุณหมอแจ้งว่าปลอดภัยเเล้ว คุณแม่ของคุณเมจึงได้นัดทำการเจรจาเเละเดินทางมาด้วยตนเองที่สุวรรณภูมิ
และยังมีตัวแทนของอุ้มเข้าร่วมรับฟังการเจรจาในครั้งนั้นด้วย โดยในการเจรจานั้นฝ่ายคุณเมได้เรียกร้องค่าเสียหายรวมแล้วคือ จำนวนเงินทั้งหมด 60,000,000 บาท (หกสิบล้านบาทถ้วน) และยืนยันว่าต้องได้เงินจำนวนนี้
ซึ่งทางฝ่ายของคุณเมแจ้งว่าเป็นค่าสูญเสียรายได้จากการทำงานและค่าเสียหายในการทำธุรกิจที่ไม่สามารถทำงานได้เป็นเวลานาน รวมถึงค่าเยียวยาจิตใจ
เมื่อมีการเรียกร้องเงินจำนวน 60,000,000 บาท (หกสิบล้านบาทถ้วน) เกิดขึ้น ตัวแทนของโรงพยาบาลเกาหลีจึงต้องกลับไปประชุมหารือก่อนแล้วจะแจ้งกลับในภายหลัง
ซึ่งในระหว่างนั้นอุ้มก็ทำการต่อรองเเละขอเจรจากับทางโรงพยาบาลเกาหลีถึง 2 ครั้ง เพื่อขอให้ได้เงินตามที่คุณเมต้องการ
หลังจากนั้นไม่นานโรงพยาบาลเกาหลีก็แจ้งกลับไปทางคุณเมว่าไม่สามารถให้ค่าชดเชยได้ครบ 60,000,000 บาท (หกสิบล้านบาทถ้วน) ตามที่ขอมา แต่ขอชดใช้ใน 3 ประการ ดังนี้

...
1.คืนเงินค่าทำหน้าอก 14,700,000 วอน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 441,000 บาท (สี่เเสนสี่หมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน
2.จ่ายค่าเสียโอกาสในการทำงาน 40,000,000 วอน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,200,000 บาท (หนึ่งล้านสองแสนบาทถ้วน)
3.จ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคุณเม ทั้ง 2 โรงพยาบาลในไทย จำนวน 1,468,641 บาท (หนึ่งล้านสี่แสนหกหมื่นแปดพันหกร้อยสี่สิบเอ็ดบาทถ้วน) โดยได้ชำระกับโรงพยาบาลนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่โรงพยาบาลได้แจ้งคุณเมว่าจะจ่ายตาม 3 ข้อข้างต้น ทางคุณเมยืนยันขอเรียกร้อง 60,000,000 บาท (หกสิบล้านบาทถ้วน) ตามจำนวนเดิม โดยไม่ขอลดหย่อนใดๆ
ซึ่งอุ้มก็ยังกลับมาขอพบโรงพยาบาลด้วยตัวเองอีกเป็นครั้งที่สามเพื่อช่วยต่อรองให้คุณเมจงได้ แต่ทางโรงพยาบาลเกาหลีก็แจ้งกลับมาว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงมากเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถตกลงกันได้ จนท้ายที่สุดคุณแม่ของคุณเมแจ้งอุ้มว่าจะไม่ขอรับขอเสนอใดๆ อีกต่อไป
เมื่อไม่นานมานี้ คุณเมได้ให้ทนายส่งเอกสารเรียกร้องค่าเสียหายต่างๆ มายังอุ้มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เเละหลังจากนี้ทางอุ้มเอง ก็คงต้องขอให้เป็นเรื่องของทางกฎหมายดำเนินต่อไป

...
อุ้มทำงานนี้มาหลายปี มีคนมาให้อุ้มดูแลมากมาย ซึ่งเป็นคนที่ทำแล้วพอใจก็แนะนำบอกกันปากต่อปากเป็นส่วนใหญ่ อุ้มได้พยายามตั้งใจทำงานอย่างที่สุดและรับผิดชอบสุดความสามารถของอุ้มเสมอ
สุดท้ายนี้อุ้มก็ได้ชี้แจงความจริงในส่วนของอุ้มแล้ว อยากให้ทุกคนลองฟังอีกมุมหนึ่งเท่านั้น อุ้มเป็นคนไทยและรักประเทศไทยค่ะ
ตลอดหลายปีที่อยู่ที่นี่ ก็ไม่เคยคิดว่าจะไม่ช่วยเหลือคนไทยด้วยกันเลย แต่บางอย่างมันเกินกำลัง อุ้มก็พยายามเต็มที่ที่สุดแล้ว เพื่อรักษาสิทธิให้สาวๆ ในทุกกรณี
ขอขอบคุณสำนักข่าวทุกสำนักที่ให้ความสนใจและที่สำคัญที่สุดคือ กำลังใจจากกัลยาณมิตร เเละลูกค้าที่น่ารักทุกท่านที่คอยถามไถ่และให้กำลังใจกันเข้ามาตลอดนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
อุ้ม รัสรินทร์”.


...