นานา เปิดเผยจุดเริ่มต้นรักกับ เวย์ ไทยเทเนี่ยม ใน รายการคลับ ฟายเดย์ โชว์ ช่อง GMM25 เพื่อนๆ แก๊งนางฟ้าไม่เห็นด้วยเพราะเป็นแบดบอย ถึงขนาด เจนี่ เอ่ยปาก มึงเอาไม่อยู่หรอก แต่ตัว นานา ยิ่งคุยกับเวย์ ยิ่งรู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ใครมอง เพื่อนก็บอกว่าหลง
ด้านแม่ก็ไม่ชอบ จน เวย์ ขอให้พาไปเจอแม่และฝ่าด่านได้สำเร็จเมื่อแม่มองว่า เวย์ ไม่เหมือนภาพที่เห็น แต่นานา ก็ต้องมาเจอ เหตุการณ์หนึ่ง
"มีแม่ผู้หญิงคนนึงโทรหานานา ซึ่งเราไม่รู้จักเลย โทรมาบอกด้วยน้ำเสียงที่น่ารักมากและเป็นห่วง เขาติดตามนานามานาน และเขาก็รู้สึกว่านานาไม่ใช่ผู้หญิงที่จะไปกับเวย์แน่นอน เวย์ทำให้ลูกสาวเขาเสียใจ อะไรหลายๆ อย่าง แม่เป็นห่วงนะลูก ด้วยความหวังดี จะคิดว่าแม่ไม่รู้จักแล้วโทรมาทำไม แต่แม่โทรมาด้วยความหวังดี ให้เอาไปคิดนิดนึง
แล้วเย็นนั้นนัดกินข้าวกับเวย์ นานาก็บอกเลย คือนานาแอบช็อก ว่าเขาต้องมีใครที่เคลียร์ไม่จบ เดี๋ยวเพื่อนต้องถล่มฉันแน่เลย ก็ตัดสินใจว่าต้องไปและถ้าจะเคลียร์ต้องให้จบวันนี้
...
แล้วเวย์ก็ตอบแบบ I'm a bad boy ไอไม่ได้เพอร์เฟกต์ ไอทำผู้หญิงเสียใจมาเยอะ แต่ยูจะเอาอดีตมาตัดสินไอหรือจะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ยูต้องเข้าใจนะว่าการที่เราคุยกับใครเขาต้องมีข้อเสียข้อดี อยู่ที่ยูจะเลือก
ก็พักกันไป 2 เดือนได้มั้ง แล้ว นานา รู้สึกไปมากกับเขาละ จนมีทริปกัน เขามานั่งคุยกับนานา มองตากันเลย เขาบอกว่าชอบเราแล้ว ไม่เจอยูไอคิดถึง นานาเลยบอกเขาว่าต้องจริงจัง เอาตรงๆ นะ นานา บอกว่าถ้ามาคิด For Fun ก็จะ Fun กันไป จะเอายังไง ถ้าจะคบกันไปต้องจริงจังถึงจะแต่งงาน จะไปถึงไม่ถึงไม่รู้ แต่ต้องจริงจังและมองไปที่ตรงนั้น
เขาก็นิ่งคิดอยู่นานมาก แล้วก็พยักหน้า ไอคิดว่าเราน่าจะไปถึงวันนั้นได้ เวย์บอกว่าขอบคุณที่ถามคำถามนี้กับเขา จะได้เคลียร์ๆ กันไปแล้วเดินหน้ากันต่อไป
แล้วเขาก็พูดชัดๆ ว่ายูมีอะไรจะบอก ไอต้องไปเคลียร์ก่อนนะ (หัวเราะ) เราก็เหมือนกัน ก็นั่นละค่ะจนมาถึงวันนี้"
เพื่อนไม่ชอบแฟน เราจะบริหารจัดการยังไง?
“พอหลังจากนั้น พอเราได้คำตอบจากเค้า อย่างที่บอกว่านานาก็ต้องกลับมาแล้วว่าต้องมาให้เค้าเจอเพื่อน แต่ก่อนที่นานาจะให้เค้าเจอเพื่อน นานากับเวย์ก็ได้ใชัชีวิตกันพอสมควร อย่างที่ดาด้าบอกว่าไม่ได้บอกใคร ก็ปิดๆ มาเรื่อยๆ ไม่บอกใครเลย บอกแม่เพราะว่าเค้าต้องไปส่งที่บ้าน แม่ก็จะเห็น (หัวเราะ)
ไม่ได้บอกใคร จนวันหนึ่งที่เราเห็นตัวตนเขามาขึ้น เห็นอะไรเค้ามากขึ้น นานากล้าที่จะเริ่มแนะนำกับเพื่อนอย่างเต็มปากแล้ว เพราะนานามั่นใจว่า หนึ่ง...เรารู้จักเพื่อนเราดีว่าเพื่อนเราเป็นยังไง สอง...วันนี้เราเริ่มรู้จักเค้าดีแล้ว ประมาณนึงแล้วว่า คนคนนี้เพื่อนเราต้องรัก เราก็เลยกล้าที่จะแนะนำ”
เช็กประวัติมั้ยตอนที่คบ เราเช็กก่อนหรือหลังหรือไม่เช็ก?
“ไม่เช็กเลยค่ะ เพราะว่าเวย์บอกว่าอย่าเช็ก (หัวเราะ) เวย์บอกไม่ต้องเช็กหรอก มันก็อยู่ที่คุณจะเลือกอดีตหรือปัจจุบัน ก็อย่าเช็กเลย เอาตรงนี้ก็รู้ว่าไปกันได้เราโอเคแล้วที่จะไปด้วยกันต่อ เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้เช็ก”
ตอนเค้ามาเจอเพื่อนๆ เป็นยังไงบ้าง?
“คือบังเอิญว่าวัยใกล้ๆ กัน และทุกคนก็ชอบไปดูคอนเสิร์ตในช่วงที่คุยกันตอนนั้นต้องปิดบังทั้งนักข่าว ทั้งอะไรด้วยนะคะ ตอนนั้นมันหลายองค์ประกอบ
ตอนหลังก็เริ่มเอาเพื่อนมาดูคอนเสิร์ต เพื่อนก็เริ่มอ้าวเหรอ ดาด้าเริ่มเจอเริ่มเห็น เวย์น่ารักอะไรอย่างงี้ค่ะ ก็เริ่มมีฟีดแบ็กที่ดีๆ กลับมา เพื่อนเอาแล้วเราก็ต้องเอาด้วยแล้วแหละ”
นานขนาดไหนกว่าจะตัดสินใจแต่งงานกัน?
“2 ปีกว่าๆ ค่ะ คือเรา 2 คนมีเป้าหมายเดียวกันว่า เราไม่ได้อยากมีครอบครัวช้า อย่างคนแรกมันก็ไม่เหมือน คนที่ 2 มันก็ไม่เหมือน มันไม่คลิก แต่เวย์มาแล้วมันตรงกันหลายๆ อย่าง อยากมีลูกเร็ว อยากสร้างครอบครัวตั้งแต่เด็ก
อยากจะสร้างครอบครัวด้วยมือเราเอง หลายๆ อย่างในมุมมองชีวิตที่มองไปตรงข้างหน้ามันคล้ายกัน เวย์ก็แบบ ถ้าอยากมีลูกเร็วก็ต้องแต่งงานสิ ก็เลยเป็นการแต่งงาน”
สิ่งที่เราประทับใจที่สุด?
“มีอยู่ครั้งนึงเขาบอกว่าไอเจอแม่ยูแล้วน่ะ ยูต้องไปเจอแม่ไอ ยูต้องบินไปอเมริกา ไออยากให้แม่เจอยูก็เลยไปอเมริกากัน คือความรู้สึกที่เค้าเป็นกับเรากับสิ่งที่เราเห็นในหน้าจอเค้าเนี่ย มันต่างกันเวลาเค้าเทกแคร์เรา นานาอธิบายเป็นคำพูดยากจังเลย แต่นานาจะบอกว่า มันเหมือนกับเราจับมือคนคนนึงกับเราจับมือคนอีกคน ความรู้สึกมันต่างกัน
...
ความรู้สึกที่เราจับมือเค้ามันเหมือนกับว่า...คุณก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงน่ะ ไม่ว่าคุณจะเก่งมาจากไหนหรือเป็นใครก็ตามเราต้องดูแล สิ่งที่เวย์ให้นานามันคือประมาณนั้น แล้วเค้าก็พยายามจะพูดกับเราว่าไม่ต้องเก่งทุกอย่างหรอก เหลือไว้ให้ผู้ชายดูแลบ้าง (หัวเราะ)”
อะไรที่ทำให้จากวันที่แค่รู้สึกดีแล้วหลัง 2 ปีที่สุดท้ายจริงจังมากจนถึงแต่งงานกัน?
“น่าจะเป็นเรื่องของเป้าหมายเดียวกัน เราอยากมีครอบครัวเร็วอยากสร้างครอบครัวแล้วและอยากมีลูก ที่สำคัญคือเวย์บอกว่าเราคบกันน่ะกฎสำคัญของเราคือ เราสองคนต้องมี better life ไอต้องเป็น better man จริงๆ เค้าเคยพูดครั้งนึงบอกว่า
ไอเจอยูวันนั้น ไอรู้สึก... ผู้หญิงอะไรมีบ้านแล้ว ดูแลแม่แล้ว แต่ไอยังกินเหล้าทุกวันไปเที่ยวใช้เงินเท่าไรก็หมด เค้ายังไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะเค้าไม่ได้คิดว่าเค้าจะใช้ชีวิตที่นี่ คือเหมือนมาทำงาน มาสนุก ไม่ได้คิดว่าจะมาแต่งงาน มามีครอบครัว แต่พอเค้าเห็นเรา ดูแลแม่ตัวแค่นี้ อันนี้ที่เค้าพูด
เค้าก็รู้สึกว่าเค้าต้องเป็น better man เค้าต้องดีขึ้นบ้าง เหมือนกับเป็นแรงบันดาลใจให้กับเค้า พอมาเรื่อยๆ ก็เลยคุยกันอีกว่า อยากแต่งงาน อยากมีครอบครัว อยากเลี้ยงลูกแบบไหน อยากใช้ชีวิตแบบไหน ก็เลยลงเอยที่แต่งงาน”
...
ไปหาแม่เค้าที่โน้นเป็นไงบ้าง?
“จากที่เราคิดว่าลูกออกมาเป็นฝรั่งฮิปฮอปมาก เจอคุณแม่นี่คือคุณแม่แบบว่า ประมาณคุณครู เพราะคุณแม่เคยเป็นคุณครูสอนอยู่ที่ ร.ร.อัสสัมชัญศรีราชา ตอนที่คุณแม่กลับมาเมืองไทยคาแรกเตอร์เป็นคุณครูที่ดูแลลูกชายแสบๆ แล้วเอาลูกชายอยู่เป็นแบบนั้นเลย
แม่ถามคำแรกมั่นใจแล้วน่ะ เอามาคืนไม่ได้นะลูกชายแม่เนี่ย เราก็แบบค่ะ ตอนนั้นรักมากเลย แม่ก็ งั้นห้ามเอามาคืนแม่นะ สุขด้วยกัน เราอย่าลืมว่าต้องไปทุกข์ด้วยกันด้วย แล้วดูว่าพอทุกข์ด้วยกันแล้วเป็นยังไง”
นานาเคยพูดว่าเป็นแฟนเวย์ต้องอดทน?
“เราต้องเป็นคนที่เข้าใจเค้าเยอะๆ เปลี่ยนเวย์นี่เปลี่ยนยากมาก เค้าก็จะเข้าใจยากนิดนึง เราพยายามมากในการให้เค้าเข้าใจ เราต้องใช้ทั้งความรักความเอ็นดู คือนานาเป็นสายแบบว่า สมมติเราจะมีปัญหากันเยอะมากที่สุด เพราะว่าเราทำงานด้วยกันนี่แหละเราทำทุกอย่างด้วยกันเอง
เราเปิด NEVER SAY CUTZ ด้วยกัน เราทำทุกอย่างด้วยกันหมด แล้วเรามีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกันเพราะว่าเค้าเป็นศิลปิน คิดทุกอย่างเป็นศิลปิน อยากทำไอเดียต่างๆ งานครีเอทีฟคือเค้าเลย แต่พอมันลงมาในงานบริหารจัดการบางสิ่งบางอย่างมันไม่สามารถที่จะทำได้อย่างนั้น
...
เราก็พยายามจะให้มันไปกันได้ นั่นคือความยากมากมันคือศิลปะของคู่เรามาก เวลาจะพูดกับเวย์นานาจะต้องนอนคิดพยายามคิดว่าจะพูดกับเวย์ยังไงดี เพื่อให้เค้าเข้าใจ”
ทะเลาะกันมั้ย?
“มากค่ะ ทะเลาะเป็นเรื่องแบบที่ลูกน้องเห็นกันเป็นประจำมาก (หัวเราะ) เจ้านาย 2 คนก็จะตีกันเถียงในออฟฟิศเป็นเรื่องราวเหมือนคนเกลียดกันเลยน่ะ เพราะว่าเราก็มีของ เค้าก็มีของ แต่สุดท้ายคนที่อยู่นานๆ ก็จะเข้าใจ เดี๋ยวเค้ากลับบ้าน เค้าก็ไปกอดลูก เดี๋ยวเค้าก็ดีกันแล้ว งัดกันจนแบบ ฉันไม่ยอมเธอก็ไม่ยอม ส่วนมากจะเป็นเรื่องงาน”
อีกปัญหาที่เจอหลังแต่งงานกันไป เค้าเป็นคนที่ติดเพื่อนมาก?
“เค้าใช้คำว่า เพื่อนคือครอบครัวของเค้า ตั้งแต่แรกที่เค้าเคยบอก เพราะว่าเหมือนเค้าโตมา อายุ 16 ก็ออกจากบ้านมาทำงานและเพื่อนก็ซัพพอร์ต จะทำงานอะไร เพื่อนก็ให้โอกาส เหมือนเค้ามีอีกหนึ่งครอบครัว คือเพื่อน ใครที่เข้ามาในชีวิตเค้าต้องเข้าใจว่าเค้ามีสิ่งนี้
แต่พอวันนึงถ้าเราโอเคเข้ากับเพื่อนเค้าได้ แต่ถ้าวันไหนเรารู้สึกว่าคนนี้เริ่มจะเอาเปรียบสามีเราแต่สามีเราไม่เห็น โอ้โห นั่นงานเข้ามากเลยนะ เค้าจะมองว่าเราไม่โอเคกับเพื่อนเค้า เราต้องหาวิธีพูด พอสุดท้ายมองย้อนกลับมาจริงๆ แล้ว เค้าจะรู้ว่าไม่มีใครที่จะหวังดีไปมากกว่าตรงนี้ แต่ในตอนนั้นไม่รู้”
วิธีการเลี้ยงลูกของคุณพ่อกับคุณแม่?
“เค้าก็โตมาแบบปล่อยๆ หน่อย เลี้ยงมาแบบอเมริกัน เราก็โตมากับบ้าน แต่เรามีความรู้สึกว่าการดุของแม่เรา เรารู้สึกกลัวจนขาดความมั่นใจ
จริงๆ นานาไม่ได้เปนคนที่เกิดมาแล้วมีความมั่นใจ ความมั่นใจของนานาต่ำมาก แล้วพอเรามีลูกเราก็รู้สึกว่า เราต้องให้กำลังใจเค้าสิ พอเค้าทำอะไรได้หน่อย เราก็ลูกทำให้แม่ดีใจมากเลยนะคะ เวย์ก็มาแล้ว แค่นี้อะนะ โอ้โห ชมกันใหญ่ ลูกจะได้มีกำลังใจสู้ต่อทำต่อ เค้าทำดีก็ชมเค้า”
มีครั้งหนึ่งนานาถึงขั้นเอากระดาษขึ้นมาเขียนข้อดี-ข้อเสียของเวย์เลย?
“มันมีช่วงหนึ่งเมื่อสัก 3 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยบอกใครเลยนะ มันเป็นช่วงที่แบบว่า จะซ้ายจะขวาเลยอะ มันไม่ถึงขั้นว่ามันจะเลิกหรือไม่เลิกแต่กำลังตัดสินใจว่า มันใช่มั้ยกับการที่อยู่กันทุกวันนี้มันมีความสุขหรือเปล่า อยู่เพราะทนหรือเพราะอะไร แล้วเอากระดาษออกมากาง เขียนๆ ออกมาแล้วเนี่ย ข้อดีของเค้าที่สำคัญมาก
คือเค้าเป็นพ่อที่ดีมาก นานาไม่ได้เปรียบเทียบกับใครในโลกนี้ สำหรับที่นานารู้จักเวย์มาตั้งแต่วันแรกจนมาถึงวันนี้ เค้าให้นานาได้มากกว่าที่นานาคิด ในหน้าที่ของคำว่าพ่อ เค้ามีความรับผิดชอบสูงมากกับคำว่าพ่อ หลายคนไม่ทราบ อันนี้เป็นข้อหลัก ไม่ได้ เราทำอย่างไรดี เราต้องเดินต่อ จะเดินยังไงล่ะ
อ๋อ ใช่แล้ว เราเอาชีวิตเราไปอยู่กับลูกมากเกินไปทุกอย่างคือลูก ไม่เคยวันไหนห่างจากเค้า ถ้าออกไปข้างนอกดูกล้องตลอดเวลา อยู่อย่างงั้นเลยอะไม่ได้ดูแลเค้า พอไม่ได้ดูแลเค้าไม่มีเวลาของเรา 2 คน เขาก็ไปสตูดิโอ เข้ารู้สึกว่าเค้าเริ่มเหงา เราเองก็เริ่มไม่มีเค้าก็ได้ เพราะว่าเติมเต็มเหลือเกินเพราะมีลูก
อยากบอกไปถึงทุกคนเลยว่า อันนี้ไม่ดีเลย เพราะวันหนึ่งบีน่ากับบรู๊คลินคงหันกลับมาแล้วถ้าพ่อแม่ยังนั่งกอดกันเค้าคงดีใจเนอะ แต่ถ้ามันไม่มีพ่อแม่อยู่ตรงนี้ ตอนเด็กเราให้เวลาเค้าเยอะ แต่เราลืมให้เวลาพ่อเค้าก็คงไม่แฮปปี้ นานาก็เลยเปลี่ยนใหม่ ก็เริ่มคิดว่าใช่แล้วแหละแก้ที่ตัวเราก่อน”
ถึงวันนี้อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวเราแข็งแรง?
“เวย์ชอบพูดว่า มาหาเรื่องรักกัน มาหาเรื่องสนุกกัน มาหาเรื่องมีความสุขกัน เพราะบางทีเค้าพูดบางอย่างออกมาโดยที่บางทีเค้าให้อะไรเราโดยที่เหมือนเค้าพูดแล้วเราก็ทิ้งไป แต่สิ่งที่เค้าพูดมันจริง เขาก็พูดตลอดว่า Happy wife happy life.”
มีแต่งเพลงให้กันด้วย
“พอหลังจากที่เรามีปัญหากันมากในช่วงนั้นเค้าไม่เคยเขียนเพลงถึงเรามาสักพัก เค้าก็เลยเขียนเพลงนี้ขึ้นมา No way without you ร้องไห้ปี่แตก”
เค้าโรแมนติกมั้ย?
“เค้าว่าไม่นะ แต่นานาว่าความตรงจริงใจของเค้าคือความโรแมนติก”
นานาล่ะโรแมนติกมั้ย?
“นานาก็มีนะ เพราะนานาว่ามันเป็นกาวใจมันเป็นน้ำจิ้มบางคนอาจจะบอกว่าเลี่ยน แต่จริงๆ มันดีสำหรับคู่ใครคู่มัน มันเวิร์กสำหรับคู่แต่ละคนคู่นี้อาจจะหวานขนาดนี้ ใครจะว่าอะไรไม่สนใจ ถ้าเราแฮปปี้ นานาก็ขยันเริ่มกลับมาทำ เพราะนานาคือเจ้าแม่เซอร์ไพรส์มาตลอด เพื่อนจะมาขอไอเดีย แล้วตอนหลังมันเริ่มหายไป ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาเป็นนานา”
ลูกทั้ง 2 คนมีความเหมือนคุณพ่อหรือคุณแม่มากว่า?
“เมื่อคืนเพิ่งจะคุยกันเรื่องลูกว่าลูกเราเป็นยังไง บรู๊คลินได้ความเป็นศิลปินเลือดพ่อมาเต็มที่มากแต่มีความขี้น้อยใจเหมือนแม่ แต่บีน่าเนี่ยได้ความเจ้ากี้เจ้าการ เหมือนเราเลย
เฮ้ย นี่มันฉันและก็เป็นคนที่ไม่ขี้น้อยใจเหมือนแม่ ได้มาจากพ่อ เป็นคนที่มีความสุขเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่มีความทุกข์กับอะไร แต่น้องบรู๊คลินพูดไปนิดเดียว เสียใจ”
ผู้หญิงคนนี้อยากจะขออะไรจากสามี?
“ก็อย่างที่คุณบอกว่าเราเป็นทีมเดียวกัน อย่างที่เค้าบอกเสมอว่า เราคือทีมเดียวกันไม่มีคุณ ไม่มีฉัน และก็ไม่มีบีน่า บรู๊คลิน เบื้องบนเค้าส่งเรามาให้เพอร์เฟกต์ที่สุดแล้วดีที่สุดแล้ว มันจะดีที่สุดต่อเมื่อเรารู้สึกว่าพอใจที่สุด แต่วันนี้อยากขอยูอย่างเดียวในสิ่งที่จะขอได้ตอนนี้
คือถ้าอะไรก็ตามที่จะเข้ามาในชีวิตอนาคตข้างหน้าเนี่ย ขอให้ยูรู้ว่าไออยู่ทีมเดียวกับยูเสมอ อย่าได้แม้จะคิดว่าไอไม่ซัพพอร์ต ไอไม่เข้าข้างหรือใดๆ ก็ตาม ถ้าไอจะเป็นคนที่พาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ยูได้ ไอจะเป็นคนนั้น”
10 ปีที่ผ่านจะนิยามความรักของ นานา ไรบีนา ว่าอะไร?
“ความรักของเราคือความเข้าใจซึ่งกันและกันและก็รักที่จะร่วมทั้งสุขและรักที่จะร่วมทั้งทุกข์ด้วยกัน สนุกไปด้วยกันกับสิ่งนี้”.