หลังจากมีปัญหากันมานานกว่า 8 ปี จนได้ฉายา เมียหลวงลวงสังหาร และส่าหรีลี้รัก สำหรับสาวธัญญ่า ธัญญาเรศ กับ พิงกี้ สาวิกา ล่าสุดทั้งคู่ก็ได้มีโอกาสโคจรกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในโครงการของ ททท.
ซึ่งงานนี้ทำเอาทุกคนฮือฮาหนักมาก เพราะยังจำได้ดีเมื่อครั้งที่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงผ่านหน้าสื่อ แต่เวลาจะเยียวยาทุกสิ่งจริงๆ มาในตอนนี้ทั้งสองกลับมาร่วมงานและเจอกันได้อย่างสนิทใจ แต่หลายคนก็ยังไม่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง ต่างมองว่ามันเป็นการเฟกซะงั้น ล่าสุดในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มีหนิง ปณิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร ธัญญ่าก็ได้มาในฐานะแขกรับเชิญคู่กับพิงกี้ ทั้งคู่ก็ได้พูดถึงความรู้สึกเหล่านี้ให้ฟัง
ความรู้สึกจากกระแสการออกงานคู่กันรู้สึกยังไง?
พิงกี้ “มันเป็นเหมือนประวัติศาสตร์ ตั้งแต่วันถ่ายโปสเตอร์แล้วทุกคนที่นั่นบอกว่า ขอเก็บภาพก่อนเพราะมันคือภาพประวัติศาสตร์ และงานในวันนั้นมันอบอวลไปด้วยพี่ๆ นักข่าว และหลายๆ สิ่งอย่างความรู้สึก เอาเป็นว่าวันนี้มันจบลงด้วยดีมาก แล้วก็มีพลังงานที่เกิดขึ้นดีๆ ตอนนี้กี้รู้สึกแฮปปี้มากและดีมากจริงๆ ค่ะ”
ธัญญ่า “ต้องบอกก่อนว่าตื่นเต้น เราก็มีอดีตมาด้วยกันนะ แล้วก็ไม่ได้เจอกันเลยและไม่ได้เคลียร์กันมาแบบดีๆ เลย ก่อนหน้างานนั้นเราได้เจอกันมา 3 วันเนอะ วันแรกคือวันประชุม ต้องบอกว่าความตื่นเต้นตั้งแต่วันแรกมันตื่นเต้นมาก เราไม่ได้คุยกันเลย นั่งตรงข้าม
มีเหลือบมองนิดหน่อย ยอมรับว่าเขินมาก วันที่สองก็ถ่ายโปสเตอร์ ก็จัดห้องแต่งตัวคนละห้องกัน แต่ตอนที่มาเจอกันคือทำงานเลย ตอนนั้นคือวินาทีที่ตื่นเต้นที่สุด แล้วตอนที่ถ่ายเดี่ยวยังไม่มีคนมายืนดูเลย แต่พอถ่ายคู่คนมามุงดูเยอะมาก เชื่อว่าทุกคนก็ตื่นเต้นแบบเรา อยากเห็นว่าภาพจะเป็นยังไง”
...
พี่เป๊กอยู่ด้วยตลอด อยากรู้ว่าเค้าทำหน้ายังไง?
ธัญญ่า “จริงๆ พี่เป๊กเค้าก็อยู่ด้วยตั้งแต่วันประชุมแล้วแหละ จริงๆ เค้าก็ตื่นเต้นเพราะว่าเค้าก็เป็นคนที่ต้องตื่นเต้นที่สุดอยู่แล้ว ซึ่งวันประชุมก็แกล้งเค้าก่อนที่กี้จะมา ก็แกล้งพูดใส่เค้าว่า แหม ดูมีความสุขจังเลยนะ แล้วถ้าธัญญ่าอาละวาดขึ้นมา พี่จะทำยังไง”
หลังจากร่วมงานกันก็วิจารณ์กันเยอะมาก?
พิงกี้ “เค้าก็คิดว่าเราเล่นละครกัน คือมันไม่ได้อะ เพราะมันเป็นชีวิตจริง และความรู้สึกจริงๆ ค่ะ”
วันแรกที่เจอหน้าพี่ญ่า เป็นยังไง?
พิงกี้ “ก็เดินมาสวัสดีพี่ญ่า แล้วก็โอ้โหตื่นเต้นอะ ณ ตอนนี้เราไม่เคยเห็นเค้าแบบนี้ เราก็แอบมองเค้า พอครั้งที่สองก็ไปกินข้าวก็เริ่มเขิน เราก็เข้าไปกอดพี่ธัญญ่าก่อนเลยค่ะ แรกๆ มันก็เขินๆ พอถ่ายไปเรื่อยๆ มันก็โอเคแล้วอะ”
วันที่พี่เป๊กบอกว่าร่วมงานกับน้อง พี่ญ่าว่าไง?
ธัญญ่า “คือก่อนหน้านี้มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ว่าร่วมงานกับน้องได้มั้ย เราก็บอกว่าได้ ซึ่งเราก็ไม่คิดว่ารวดเร็วขนาดนั้น พี่เป๊กก็มาถามว่าถ้าให้ร่วมงานกับพิงกี้ได้มั้ย ตามที่สัมภาษณ์ เราก็คิดไป 3 วินาที ว่าเราจะร่วมงานได้จริงตามที่พูดมั้ย
เราก็ตอบว่าก็ได้นะ เพราะว่าระยะเวลาที่เราทะเลาะกันมาก็ 8 ปีแล้ว แล้วช่วงนั้นกี้เค้าก็ผ่านการแต่งงานมา เจอเรื่องนั้นนี้มา เราก็รับรู้ตลอด เราก็มานั่งคิดว่ายังโกรธเค้ามั้ย ไม่นะ ก็ไม่โกรธอะ แต่กับพี่เป๊กที่จะเข้ามาถาม คงคิดมาแล้วหลายอาทิตย์”
พิงกี้ “สำหรับหนูถ้าเป็นพี่เป๊กติดต่อมาเองหนูไม่รับแน่นอนค่ะ เพราะว่าอะไรที่เป็นพี่เป๊กหนูไม่รับแน่นอน คนที่ติดต่อมาคือพี่ทีมงานค่ะ แรกๆ เราก็คิดว่าฟังผิดรึเปล่า เราก็ถามกลับว่าใครคิดอะโครงการนี้ เค้าก็บอกว่าผู้ใหญ่คิด พอเราฟังประมาณ 4-5 รอบ เราก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงเลือกเรา”
แม่ว่ายังไงบ้าง?
พิงกี้ “แม่บอกว่าต้องสะสมเงินเพื่ออนาคตนะลูก คือเราไม่สนใจอะไรค่ะ นอกจากเราได้ทำงานและได้เลี้ยงครอบครัวตัวเอง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดี ถ้าเราได้ทำงานแล้วได้เจอสิ่งที่ดี มันก็เป็นสิ่งพิเศษนะคะ”
ธัญญ่า “ขอถามอะไรหน่อย กลัวพี่มั้ย เพราะเรามันมีรังสีอำมหิตอยู่”
พิงกี้ “ไม่เลยค่ะ”
...
แม่รู้สึกยังไงบ้างกับเหตุการณ์ครั้งนี้?
แม่อ้อย “โดยปกติแม่เป็นคนใจดี มีธรรมะในใจที่ธัญญ่ากับกี้มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน คนเราถ้าเอาชนะใจตัวเอง ไม่โกรธไม่เกลียดแล้วก็มีความเมตตาจิตต่อกัน มันเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด แม่สบายใจร้องไห้เลยนะ แต่ว่ากี้ไม่รู้ อย่างน้อยก็ได้เคลียร์ตัวเอง และเป็นเยี่ยงอย่างให้คนเห็นว่าไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้ รักกันดีกว่าเกลียดกัน”
ถ้าไม่ใช่โปรเจกต์ของพี่เป๊กจะทำงานด้วยกันมั้ย?
ธัญญ่า “เอาเป็นว่าจะมีใครมากล้าขอให้เราทำงานบ้างดีกว่า 8 ปีผ่านมาไม่เคยมีใครติดต่อเราให้ทำงานด้วยกันเลย แต่ตัวธัญญ่าถ้าไม่โอเค เราก็จะไม่รับทำแม้ว่าจะจ้างด้วยเงินเท่าไรก็ตามที มันคือความรู้สึกไง ในเมื่อความรู้สึกเรามันผ่านไปแล้วไง”
คนมองว่าเราเฟก ทำเพื่อเงิน?
ธัญญ่า “โครงการที่พี่เป๊กทำเป็นโครงการของ ททท. ซึ่งถ้าจะมาถามว่าเราได้เงินเยอะมั้ย เราได้ไม่เยอะค่ะ เพราะมันมาจาก ททท. ถ้าอยากได้เยอะต้องไปขอจากพี่เป๊กค่ะ ที่ต้องเอาเงินส่วนตัวมาให้”
วันที่ไปถ่ายแบบ พี่เป๊กกับคุณแม่พิงกี้ได้คุยกันมั้ย?
พิงกี้ “แยกห้องกันนะคะ เพราะห้องกี้จะมีช่างแต่งหน้ากับแม่ แล้วพี่เป๊กไม่ได้เดินมาห้องเราเลยค่ะ”
...
8 ปีที่ผ่านมาเคยอยากจะนัดเจอกันเพื่อเคลียร์มั้ย?
พิงกี้ “มันก็เคยเจอกันตามงาน ตอนนั้นพี่ญ่าก็มีรังสีอำมหิตอยู่นะคะ แต่ตอนนี้เค้าน่ารักค่ะ คือด้วยวัยด้วยแล้วกี้ก็ผ่านเรื่องราวประสบการณ์ในชีวิตมาด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ทำให้เรากลับมามองตัวเองและแก้ไขต่างๆ ให้ดีขึ้นค่ะ คงเข้าใจคือมองหน้าก็เหมือนผ่านอะไรมาเยอะ อยากให้ความรู้สึกนี้มีมาตลอดค่ะ”
ที่เราเข้าไปตอบคอมเมนต์ “เมียกับกิ๊กมาเจอกัน”?
พิงกี้ “คือเราก็ทำยังไงอะ ไม่รู้จะพูดยังไง ที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นเยอะ แล้วเราก็เข้าใจ รู้สึกว่าเราโตพอ เป็นคนที่แบบมองทุกอย่างแล้วเข้าใจ การที่เราวิจารณ์ใครก็จะกลับมามองตัวเอง ถ้าเราวิจารณ์ใครแล้วไม่มองตัวเอง เราก็จะไม่ได้รู้ตัวเรา”
คนมองว่าธัญญ่าใจกว้าง?
ธัญญ่า “มันไม่ใช่ความใจกว้างนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคนจะรู้ว่า เมียหลวงลวงสังหาร เป็นคนที่ขี้หึง แต่มันผ่านมาแล้วอะ เรามีประสบการณ์ชีวิตเยอะขึ้น เราจะมานั่งหึงหวงหรือทะเลาะทำไม มันผ่านมาแล้วอะ 8 ปีนั้นมันนานนะ ต้องบอกว่าตัวเองเป็นคนที่โกรธและพร้อมจะพังทลาย แต่เอาจริงเราเป็นคนที่ลืมง่าย ถ้ามันไม่เกิดขึ้นซ้ำ”
คิดยังไงกับบทเรียนชีวิต?
พิงกี้ “กี้คิดว่าพอเราได้มาแต่งงาน มารู้ความรู้สึกเราจะรู้สึกแบบเค้า พอเรามีครอบครัวแล้วเจอแบบพี่ญ่าเหมือนกัน เราก็เข้าใจอะค่ะ คือก็ต้องถอยออกมาอะค่ะ มาตั้งหลักกับชีวิต เราคิดว่าอะไรที่ไม่สามารถเราไปทำอะไรได้ เราก็ปล่อยไปแล้วกันค่ะ”
...
การที่กลับมาคืนดีกันได้เพราะพี่เป๊กเป็นกาวใจมั้ย?
ธัญญ่า “ไม่เรียกเป็นกาวใจแต่เรียกว่ามีโครงการดีๆ ที่มาทำให้เราสองคนมาเจอกัน ร่วมงานกัน”
พิงกี้ “ขอบคุณพี่เป๊กด้วยค่ะที่ทำให้เรากับพี่ญ่าได้มาเจอกัน”
แล้วพิงกี้กับพี่เป๊กเคลียร์กันรึยัง?
พิงกี้ “คือไม่มีอะไรต้องเคลียร์ค่ะ เพราะว่าเวลามันผ่านมา ทำให้รู้เองว่าอะไรคืออะไร ถือว่าเป็นพี่อะค่ะ”
เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด พี่ธัญญ่าอโหสิกรรมให้น้องได้จริงมั้ย?
ธัญญ่า “ถ้าไม่อโหสิกรรมคงไม่มาเจอมาทำงานแบบนี้หรอก คนเราถ้าเกลียดใครมันเฟกไม่ได้หรอกนะ เพราะฉะนั้นลืมไปเลยเรื่องอดีตที่ผ่านมา มองไปข้างหน้าดีกว่า ถามว่าเป็นคนสนิทกันมั้ย เราก็ไม่ได้สนิทกันมาก่อนนะ แต่แค่เราเคยผ่านเรื่องราวแย่ๆ มาด้วยกัน ก็เลยทำให้เรามองตาแล้วคุยอะไรที่เข้าใจและไปเร็วกว่าคนอื่น”
อยากจะบอกพี่ญ่าว่าอะไร?
พิงกี้ “ก็เข้าใจทุกอย่าง ต้องบอกว่าคนเรามีเรื่องราวในชีวิต ไม่มีใครเพอร์เฟกต์ และตัวกี้มันเรียนรู้เรื่องราวในชีวิตจริงๆ แล้วบอกเลยว่าทุกเรื่องในชีวิตเรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องแก้ไข บางครั้งเราอาจจะต้องมามองตัวเอง มันเป็นสิ่งที่วันเวลา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันมีผลกระทบต่อคนเยอะมาก แต่จะบอกว่าต้องขอบคุณใจพี่ญ่าและตัวพี่ญ่าที่เปิดรับกี้เข้ามาค่ะ ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้จริงๆ”
ธัญญ่า “เดี๋ยวเราก็ต้องทำงานด้วยกันเนอะ ก็ต้องเจอกันเยอะกว่านี้ ไม่ว่าเราผ่านอะไรมาก็ช่างมัน เดี๋ยวเริ่มต้นใหม่ ตั้งแต่วันนี้เราก้าวไปด้วยกันเนอะ”
คุณแม่อ้อย ณ วันนี้เรื่องราวมันผ่านมาแล้ว คุณแม่อโหสิกรรมให้พี่รึยัง?
แม่อ้อย “อย่าใช้คำว่าอโหสิกรรมเลยดีกว่า แม่ยังบอกกี้ว่าชีวิตคนเรามันผิดพลาด คำว่าขอโทษที่มันออกจากปากไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าละอายเลย เป็นสิ่งที่คนจะต้องทำ
ยิ่งพี่ญ่าไม่ได้ถือสาเราเลย เราก็ต้องยิ่งรักเค้า ยิ่งต้องให้ใจเค้าเพื่อพี่สาวคนนี้ คนอาจจะคิดว่างั้นนี้ให้เราไม่มีกำลังใจ แต่เราอย่าไปสนใจ ถ้าพูดความจริงพูดตรงไหนก็ได้ แม่ไม่เคยคิดร้ายหรือเป็นศัตรูกันเลย เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป”
พิงกี้แทรกมาว่า “ไหนๆ ก็เกริ่นมาแล้ว พี่ญ่าคะ น้องอยากจะบอกว่า น้องขอโทษนะคะ (เข้ากอดกัน)”
ส่วนธัญญ่าบอกว่า “ไหนๆ กี้ก็ขอโทษแล้ว แม่คะ หนูขอโทษแม่เหมือนกัน”
แม่อ้อย “ไม่เป็นไรๆ”.