ปิงปอง สะแกวัลย์ เผยสาเหตุที่ถูกผู้ใหญ่ตัดหางปล่อยวัด เพราะเป็นนักแสดงที่ไร้ระเบียบวินัย ให้ผู้ใหญ่เอือม และเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ประสบอุบัติเหตุปางตาย แต่รอดมาได้ มีชีวิตเหมือนคนพิการ เลยตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตาย แต่มีคนมาช่วยไว้ได้ ตอนนี้วอนผู้ใหญ่ให้โอกาสตนได้กลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้งนึง
ปิงปอง สะแกวัลย์ ชื่อนี้คงจะคุ้นหูของใครหลายๆ คนอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็หายไปจากวงการบันเทิงมาหลายสิบปี และในวันนี้ ปิงปองจะมาเปิดหมดใจถึงสาเหตุของการหายหน้าไปจากวงการบันเทิงของตัวเองในรายการ คุยเช้า Show ทางช่อง ONE ซึ่งเธอเล่าหมดเปลือถึงชีวิตที่ตกต่ำ หลังถูกปลดจากละครหลายเรื่อง ไม่มีงาน แถมยังประสบอุบัติเหตุจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดว่า
“ปิงปองออกจากวงการไปประมาณ 6 ปี ก่อนหน้านี้ก็อยู่ช่องนี้แหละ เกือบประมาณ 10 กว่าปี เกือบ 20 ปี เป็นรุ่นบุกเบิกรุ่นแรกๆ และรักในตัวทีมงานและเจ้าของบริษัทมาก ไม่รับงานช่องอื่นเลย
ปลายปี 54 ประสบอุบัติเหตุ ตอนนั้นเริ่มกลับมาเล่นละครอีกครั้ง หลังจากที่โดนผู้ใหญ่ที่เอ็นดูเราเขาดัดนิสัยเราจนไม่รู้จะดัดอย่างไรแล้ว ด้วยการแบนเรา 10 ปีที่ห่างหายไปจากวงการ ก็ไปทำอะไรเรื่อยเปื่อยของตัวเอง
...
จนมีผู้ใหญ่ท่านนึงให้โอกาสให้กลับมาเล่นละครเรื่องรอยไหม พอกลับมาก็มีละคร 4-5 เรื่องเลย แต่เปิดกล้องวันแรกก็เจออุบัติเหตุ เราเป็นคนขับ แต่คุณลุงที่เป็นคนขับรถนั่งไปด้วย แกเสียชีวิต คือแกขับช้า ก็เลยขับเอง ยอมรับนะว่าเป็นคนขับรถเร็ว แต่วันที่เกิดอุบัติเหตุ ขับแค่ 40 เอง มันเป็นสวนยาง สวนปาล์ม มีหลุม ขับเร็วไม่ได้
คือรถคันนี้มันเป็นรถแก๊สซึ่งเราไม่รู้ แต่พอรู้ว่ามันเป็นรถแก๊ส ก็เริ่มกังวล ระหว่างที่ขับเห็นมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างวิ่งหลบหลุม เราขับตามเห็นเขาหลบหลุมก็หลบตาม และจังหวะนั้นมันเป็นตอนขึ้นเนินเลยชนกับรถที่สวนมา
หลังจากชนก็พยายามปลุกลุงหลังจากที่เรารู้สึกตัว แต่ตัวเองฝั่งด้านขวาแหลกไปหมดเลย เพราะว่ารถมันบี้ด้านนี้ เปิดไม่ได้ คิดว่าไม่มีแรง หันไปหาลุง เจอลุงเลือดอาบตัว ก็พยายามปลุก แต่ลุงยังนิ่ง ก็เลยทุบกระจกด้วยมือซ้ายที่ยังใช้ได้อยู่ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนว่ายังมีคนมีชีวิตอยู่ เขาก็มาช่วย และก็มีคนเอากระเป๋าของเราไปด้วย
ตอนนั้นสลบไป 3 วัน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตื่นมาก็ยังเบลอ แตกทั้งตัว เลือดท่วมปอด 2 ข้าง กระดูกซี่โครงหัก 5 ซี่ ตับม้ามช้ำ ไตฉีก เชิงกรานแตกละเอียด เบ้าสะโพก แขนขวาหลุด ก้นกบแตก คือไม่น่ารอด
แต่ข่าวที่ออกมาบอกว่าปิงปองเมาบ้าง หรือว่าขับรถเร็ว เพราะว่าเป็นนักแข่งรถมาก่อน ประมาท ห้าว เวลาบ่าย 3 ใครจะดื่ม เพราะต้องมาถ่ายละครต่อ แต่การประสบอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปเลย ต้องนั่งวีลแชร์เลยค่ะ
หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุ ชีวิตตอนนั้นมันแย่มาก ออกจากโรงพยาบาลมา จากคนที่เคยทำอะไรได้ เป็นคนแอ็กทีฟ แต่พอป่วย ทำอะไรไม่ได้ แค่เอามาม่าเข้าเวฟ แต่แขนไม่มีแรง ทำชามตกแตก รู้สึกว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไม อยู่ไปก็รกโลก ก็เลยกินยาฆ่าตัวตาย
แต่ก่อนกินก็ทำพินัยกรรม สั่งลาเพื่อนๆ บอกว่าจะกินยาฆ่าตัวตาย เพื่อนก็ไม่สนใจ เพราะคิดว่าพูดเล่น นึกว่าพูดแล้วไม่ทำจริง กินไปแล้วก็รู้สึกเริ่มชา แต่คิดว่าตายตรงนี้เดี๋ยวศพไม่สวย ก็กระดึ้บมาที่เตียง เหมือนจะน่าสงสารนะ ตอนนั้นจะไปแล้ว จะหลับแล้ว คือน้ำลายไม่ได้ฟูมปากเหมือนในหนังนะ แต่มันจะน้ำลายยืดๆ ไหลออกมา แต่สุดท้ายร่วมกตัญญูมาช่วยไว้ เพื่อนโทรบอกให้มาดู อีกนิดเดียวจะไม่มีปิงปอง สแกวัลย์อีกแล้ว”
ไปอยู่ต่างประเทศ ไปแต่งงาน?
"ที่ไปเมืองนอก ไม่ได้แต่งงานนะ แต่ไปกับเด็กขนกระเป๋า ไปอยู่ 6 เดือนเอง ตอนแรกกะไปใช้ชีวิตที่นู่น ไปอยู่แอลเอ ที่กลับมาเพราะว่าพี่นีโน่ตามให้มาเล่นละคร ก็เลยกลับมา แต่ก็ขอฝากตัวกับเจ้าของช่องด้วยนะคะ เพราะอย่างน้อยเราเคยรักกันนะคะพี่
ตอนที่ไปอยู่แอลเอก็กะไปใช้ชีวิตอยู่กับเด็กขนกระเป๋า แต่พอถึงเวลามันก็ไม่ใช่ก็เลยปล่อยไป หาใหม่ ไปค้นพบความรู้สึกตัวเองที่นู่นว่าไม่ใช่ มันมีหลายอย่าง พอเจอความลำบาก เพราะเราไม่เคยเจอความลำบาก ตอนป่วยเจอความลำบากจริง แต่หิวข้าวเดินไปหาคนแล้วบอกว่าหิวข้าว เขาก็หาข้าวให้กิน แต่ไปที่นู่นทุกอย่างต้องดูแลตัวเอง
...
ถามว่าไปอยู่ที่นู่นลำบากแค่ไหน ลำบากค่ะ ไปลองใช้ชีวิตเด็กเสิร์ฟ ทำงานกับเด็กยกกระเป๋า ไปดูว่าจะทำอย่างไรดี ยังไม่เปิดร้าน แค่ไปดูว่าจะไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่นู่นต้องทำอย่างไร ละครรอมา 6-7 ปีไม่มีเข้ามาก็แย่ เศรษฐกิจก็แย่ เลยลองไปทำงานที่นู่นดู
ถามว่าแต่งงานกับเด็กยกกระเป๋ามั้ย ใช้คำว่าทำงานอีเวนต์ดีกว่า ตอนกลับมาเมืองไทยก็รู้สึกแล้วว่ากับคนนี้คงไปไม่รอด รู้สึกได้เลย กลับมาไทยด้วยกัน แต่ไม่อยากจะพูดถึงเขา เดี๋ยวเขาจะฟ้องรายการเอานะ ถามว่าจะรีเทิร์นกันมั้ย ไม่รีเทิร์น เพราะจบไม่สวย อีเวนต์นี้ล่ม แม้ตอนนี้ชีวิตจะไม่มีเขาก็ยังจะกลับไปทำงานที่เมืองนอกค่ะ
ตอนนี้ที่อ้วนขึ้นเพราะหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ เพราะเราออกกำลังกายไม่ได้ แต่ตอนนี้เพิ่งจะรู้ว่าออกได้แล้ว หลังจากที่ไปทำงานที่อเมริกามา และเพิ่งรู้ว่าตัวเองเดินได้เป็นกิโลเลย คุณหมอบอกว่าเราเดินไม่ได้ เอาจริงๆ หมอบอกว่าไม่น่าจะรอดมาได้ด้วยซ้ำ หรือถ้าเดินได้ ก็น่าจะเดินแบบขาไม่เท่ากัน
พอกลับมาอยู่ที่ไทย ตอนนี้ก็มีรายการ โชคดีมีเพื่อนๆ และเพื่อนดีใจมากที่บอกเพื่อนว่างานอีเวนต์ล่มแล้ว (หัวเราะ) เพื่อนดีใจ เพื่อนไม่เชียร์อีเวนต์นี้ตั้งแต่แรก แต่ไม่เชื่อเพื่อน เพราะอยากจะใส่ชุดอีเวนต์กับเขา โก้ ธีรศักดิ์ และพี่บดินทร์ ดุ๊ก ที่เปิดโรงเรียนสอนการแสดง ให้เราไปเป็นครู ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่รอดนะ ไม่รู้จะสอนรู้เรื่องหรือเปล่า
...
เมื่อก่อนมีละครเยอะมาก ปีนึงมีประมาณ 4 เรื่องที่ผู้ใหญ่คนนี้ป้อนให้เรา แต่สุดท้ายเพราะว่าเราเกเรมาก คือไม่มากองเลย ปิดเครื่องหนีเลย หรือไม่ก็มาสาย ทำหลายครั้งมาก คือพี่ผู้ใหญ่คนนี้ให้โอกาสเรามาหลายครั้งต่อหลายครั้งมาก จนเขาส่ายหัวว่าไม่ไหวแล้ว เขาไม่ได้พูด แต่ตัดบททิ้งเลย
สมัยก่อนสนิทกับพี่เขามาก ไปนอนกินเล่นที่บ้านเขาเลย เรียกว่าเป็นลูกรักได้เลย สิ่งที่เราทำหนักหนามาก แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ แต่ก็ไม่ได้เด็กแล้วนะ โตแต่ตัว คือเป็นคนรักสนุก เฮฮา รักเพื่อน ถ้าติดเพื่อนคนไหนก็จะอยู่แต่กับคนนั้น ไม่สนใจเรื่องงาน เพราะคิดว่าตัวเองไม่ใช่ดารา เคยใช้ชีวิตแบบไหนก็ใช้แบบนั้น
พอถึงวันนึงก็โดนตัดหางปล่อยวัด เบื้องบนบอกว่าไม่ต้องมาอีกแล้วนะ เพราะว่าเราหายไปก่อน เราไม่ดีก่อน ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไร เพราะว่ายังมีเงินอยู่ มีเพื่อนคบ ไม่สนใจ มีละครช่องอื่นประปราย ไม่ได้สนใจอะไร ถามว่ามาสายรู้สึกอะไรมั้ย รู้สึกบ้าง แต่ก็แล้วไง ก็ทำไปแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเกือบ 10 ปีแล้วค่ะ คิดถึงที่นี่มาก
ตอนที่จะไปแอลเอยอมรับว่าคิดถึงวงการบันเทิงมาก เวลาเห็นละครรีรันทำไมไม่ได้ตังค์ (หัวเราะ) พูดเล่นนะ ดูเด็กรุ่นใหม่เล่นก็รู้สึกว่าทำไมเล่นได้แค่นี้ ถ้าเป็นเรา เราเล่นได้ดีกว่านี้ เวลาเห็นเด็กเล่นแล้วพูดไม่ชัด ร.เรือ ล.ลิง อยากจะต่อยหน้าว่าทำไมพูดไม่ชัด
...
พอไม่มีงานเงินก็หาย เงินก็หมด ยิ่งตอนรถชนเงินหมดเลยนะ ตอนนั้นแย่จริงๆ ดีนะได้เพื่อนๆ ช่วยไว้ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดของชีวิต โดนตัดจากละคร และวงการมันปากต่อปาก วงการนี้มันแคบ ตัวทีมงานระอา ใครจะอยากทำงานกับคนที่ไม่มีวินัย และค่อยมาประสบอุบัติเหตุ มันมาไล่ๆ กันเลย
มีเคยโทรไปหาผู้ใหญ่คนนี้ ก็บอกว่าเขาว่า พี่คะ ตอนนี้หนูเป็นเด็กดีแล้วนะ ตื่นเช้า ทำงานออฟฟิศ แล้วแกก็ตอบกลับมาว่า ก็ทำงานออฟฟิศต่อไปสิดีแล้ว คือพี่คนนี้เป็นคนที่พูดจาได้แบบ...รู้ใช่มั้ย"
อยากจะพูดอะไรกับพี่บอย?
“พี่บอย สวัสดีอีกครั้งนะคะ พยายามหาพี่หลายครั้งมาก ไม่รู้จะไปหาพี่อย่างไร กว่าจะผ่านด่านไปหาพี่ได้ ณ ตอนนี้มันยากมาก ผิดกับสมัยก่อนที่เราเจอกับพี่บอยมันง่ายมาก ถ้าพี่บอยได้ดูและนึกถึงน้องสาวคนนี้นะคะ ก็อยากจะกลับมาเล่นละคร น้องอยากจะกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้เหมือนเดิม
ถ้าได้โอกาสจากผู้ใหญ่อีกครั้ง จะไม่มีคำว่ามาสายค่ะ จะเล่นเต็มที่ แต่คงไม่กล้าสอนใคร เพราะพี่นก สินจัย สอนไว้ว่า อย่าไปเที่ยวสอนใคร เพราะบางทีเราเองก็ยังไม่ได้เก่งพอ บางทีถ้าเราไปสอนเขา เดี๋ยวเขาจะหาว่าเรารู้มาก บางทีเขาอาจจะไม่ได้อยากจะรับจากเรา แต่ถ้าเราเล่นแล้วส่งพลังไป เขาจะรับหรือไม่รับก็แล้วแต่เขา”.