แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าความขยันในการปล่อยเพลงของเขา ก็คือเนื้อหาของเอ็มวีใหม่ที่เขาแอบแง้มว่าจะเกี่ยวข้องกับ ‘ช่วงชีวิตที่ต้องหลบซ่อนปิดบังตอนยังไม่กล้าบอกใครว่าเป็นเกย์’ ของเขาเอง ซึ่งก็ดูจะเป็นการขยายผลต่อยอดมาจากการเปิดตัวเป็นเกย์ของเขาหลังโด่งดังจากเพลงอันดับหนึ่งเพลงแรก และการที่แต่งเนื้อหา รวมถึงการนำเสนอเอ็มวีที่มีความล่อแหลมทางเพศ (และการเต้นยั่วยวนต่อหน้า ‘ซาตาน’ ของเขาที่ทำให้ผู้ชมฝั่งอนุรักษนิยมออกมาตำหนิติเตียนกันยกใหญ่) ในเพลงอันดับหนึ่งเพลงถัดมา
...
“ในเอ็มวีเพลง Sun Goes Down ผมจะกลับไปเยี่ยมตัวเองในตอนที่ยังเด็กกว่านี้ ที่ยังสับสนว้าวุ่น รังเกียจตัวเอง และไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป แล้วผมก็จะพยายามให้กำลังใจเขา” เขาเล่าถึงเนื้อหาของเอ็มวีผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ซึ่งบรรดาแฟนคลับก็ออกมาชื่นชมถึงความพยายามในการจะส่ง ‘สาร’ เพื่อปลอบประโลมและให้กำลังใจ LGBTQ+ วัยรุ่นจำนวนมหาศาลที่ยังมีปัญหากับตัวเอง, ครอบครัว และสังคมรอบข้าง ผ่านทั้งงานเพลง, มิวสิกวิดีโอ และโซเชียลมีเดียของเขา
อย่างไรก็ดี ด้วยความที่เขาเป็นศิลปินที่ชอบพูดเรื่องเพศสภาพและรสนิยมทางเพศของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ทั้งในผลงานและการสัมภาษณ์ผ่านสื่อ ก็ทำให้ก่อนหน้านี้มีคนกล่าวหาเขาว่าชอบใช้ ‘เรื่องเพศ’ มาหากินและสร้างกระแสให้คนสนใจมากเกินไป จนเขาต้องออกมาโต้กลับว่า ถ้าศิลปินเกย์ที่พูดเรื่องตัวเองสามารถประสบความสำเร็จได้ง่ายขนาดนั้น แต่ทำไมจึงแทบไม่มีศิลปินเกย์คนไหนที่ผู้คนจดจำได้ในรอบสิบปีที่ผ่านมานี้เลย ทั้งที่ศิลปินที่มีความหลากหลายทางเพศในรุ่นเขา พยายามสร้างผลงานในวงการดนตรีกันมาโดยตลอด
“ผมสังเกตเห็นเกย์หลายคนพยายามแซะว่า อีตา ลิล แนส มันกระแดะเอา ‘การเป็นเกย์’ มาทำเป็นงานศิลปะ แต่ลืมนึกไปหรือเปล่าศิลปินชายจริงหญิงแท้ที่คุณปลื้มๆ กันน่ะ เขาก็พล่ามเรื่องเพศกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วทีศิลปินเกย์ทำบ้าง กลับมีเป็นปัญหาซะงั้น”
แต่ก็ดูเหมือนคำนินทาว่าร้ายเหล่านั้นจะทำอะไรเขาไม่ได้มากนัก “ผมได้สร้างความมั่นใจให้ตัวเองไปอีกขั้นแล้ว” เขาว่า “ผมได้เรียนรู้อะไรมากกว่าเดิมเยอะเลย และผมก็พยายามฟังเสียงของจักรวาล (ภายในตัวเอง) ให้มากกว่าที่เคย”
มิวสิกวิดีโอ Sun Goes Down จะถูกปล่อยทางช่องยูทูบของเขาในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ก่อนที่อัลบั้มเต็มชุดแรกที่ชื่อ Montero จะตามมาในเร็ววัน.
อ้างอิง: LGBTQ Nation, Gay Times UK, GQ UK