กระแสแรงต่อเนื่องสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “วิมานหนาม” ที่นำแสดงโดย “อิงฟ้า วราหะ” และ “เจฟ ซาเตอร์” มีทั้งชื่นชมและบอกต่อ จนกวาดรายได้มุ่งสู่ 80 ล้าน ทำเอาอิงฟ้าสุดปลื้มฟีดแบ็กที่เกินคาดไปมาก สำหรับการประเดิมการแสดงหนังเรื่องแรกในชีวิต

อิงฟ้าเล่าว่า “วิมานหนาม ใกล้จะ 80 ล้านแล้วค่ะ ก็เกินคาด ตอนแรกแอบกังวลในช่วงโปรโมต ว่าจะโปรโมตไปในทิศทางไหน มันเป็นหนังเฉพาะหรือหนังแนวซีเรียสหรือเปล่า แต่ภาพรวมพอมันมีการพูดปากต่อปากหลังดูจบ เลยกลายเป็นว่าอยู่ๆมันก็เป็นกระแสขึ้นมา กลายเป็นใครไม่รู้ก็ตกเทรนด์ไปเลย แฮชแท็ก #วิมานหนาม ทุกแพลตฟอร์มในโซเชียล ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เรื่องนี้มันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ เราตีแผ่หลายอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องเพศสภาพ เรื่องความเท่าเทียมในสังคม แต่ยังรวมถึง ที่มีคนในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเค้าออกมาดีใจ เพราะว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีรายได้น้อยที่สุดในประเทศ ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมขึ้น เช่นในแม่ฮ่องสอนไม่มีโรง ภาพยนตร์ มันก็เลยทำให้ตีแผ่ได้หลายอย่างและหนูดีใจมาก เพราะหลายๆคนเค้าเปิดใจให้เรามากขึ้น กับคนที่เคยอคติกับเราก็มีนะ เค้ารีวิวว่าพอเห็นถึงความตั้งใจของเราก็รู้สึกชื่นชอบผลงานด้านการแสดงแล้วก็เปิดใจให้เรามากขึ้น รวมถึงหลายๆคนที่เป็นคอหนัง เค้าก็ให้คะแนนค่อนข้างเยอะ และพูดถึงการแสดงของเราค่อนข้างเยอะด้วย”

...

หายเหนื่อยเลยมั้ย?

“หายเหนื่อยค่ะ เรื่องนี้เหนื่อยมาก ทุกคนเหนื่อยกันมากๆ ด้วยสถานที่ อากาศ บทบาทที่เราได้เล่น พอฟีดแบ็กกันเกินคาด ก็ยิ่งทำให้อยากมีวิมานหนาม 2”

รู้สึกยังไงที่หลายคนบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าเป็นหนังเรื่องแรกของเราเพราะเล่นได้สุดมาก?

“ต้องขอบคุณนักแสดงทุกคนที่ส่งให้เราดีด้วย และพี่บอส ผู้กำกับที่เค้าช่วย เหมือนเค้าให้เราดีไซน์ ลองเล่นตามที่เราอยากเป็นก่อน เราก็ทำ ความเข้าใจตัวละคร แล้วเราก็สร้างมันขึ้นมาแล้ว ด้วยสถานที่ที่เราไปถ่าย บรรยากาศมันได้มากๆ ก็เลยทำให้เราสามารถสร้างอีกคาแรกเตอร์หนึ่งได้ร้อยเปอร์เซ็นต์”

หลายเพจและนักวิจารณ์บอกว่าเราสามารถเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงได้เลย?

“ต้องขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ ทำให้หนูหายเหนื่อย เรื่องนี้เวิร์กช็อปกันเดือนกว่า กว่าจะลงตัว แล้วพอถ่ายเรื่องนี้เสร็จ หนูก็ไปถ่ายบางกอกคณิกาต่อ มันค่อนข้างสวิตช์เหมือนกัน ช่วงนั้นก็อารมณ์สวิง เพราะคาแรกเตอร์ค่อนข้างต่างกัน”

คนดูบอกว่าในเรื่องเราไม่แต่งหน้าแต่ก็สวยอยู่ จริงๆ มีความกังวลมั้ย?

“ไม่เลย เต็มที่ มันเป็น เรื่องแรกของหนูด้วย หนูไม่อยากให้คนจำว่าเราคืออิงฟ้าด้วยซ้ำ อยากให้เค้าดูว่านี่คือ โหม๋จริงๆ ก็เต็มที่ ไม่ได้กังวลเรื่องมุมกล้อง ก็ปล่อยตามที่ เค้าอยากได้”

เห็นบอกว่าตอนถ่ายบางกอกคณิกากังวลเรื่องจมูก?

“ในเรื่องนั้นมันค่อนข้างต้องจัดแสงเยอะ พอเราทำจมูกมามันเห็นเงา อย่างในวิมานหนามด้วยความที่ตาเราค่อนข้างใหญ่ และเรื่องนี้ร้องไห้ทั้งเรื่อง ผ่านการร้องไห้มา 3-4 วัน มีความบวมก็ปล่อยเลย อยากให้คนเชื่อให้มากที่สุด ส่วนเรื่องการแก้ไขบนใบหน้า หนูก็ยังรักตัวเองในเวอร์ชันนี้ มันเป็นเรื่องของอนาคตถ้าจะต้องปรับปรุงแก้ไข น่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยมากกว่า จมูกนี่คือแก้แน่นอน เพราะเราห่วงในเรื่องของสุขภาพเราใน 2-3 ปีข้างหน้า รอนวัตกรรมใหม่ๆแต่ก็คงไม่ได้เปลี่ยนไปเยอะ เอาเค้าโครงเดิมให้ได้มากที่สุด”

...

ตอนเล่นหนังเรื่องนี้มีไปบนขอบ้างมั้ย?

“ไม่ได้บนเลย เพราะเชื่อมั่นในฝีมือนักแสดงทุกคนว่าเราต้องไปให้คนเห็นศักยภาพของพวกเราให้ได้มากที่สุด”

หลายคนบอกว่าอยากเป็นน้องสะใภ้โหม๋ เพราะจะได้คู่กับจิ่งนะ เก่ง–หฤษฎ์?

“ก็มีแบบว่าขอจิ่งนะให้หนูได้มั้ย คือน้องเก่ง-หฤษฎ์ เค้าเป็นคนที่น่าเอ็นดูมากๆ เวลาที่เราเข้าด้วยกัน เวลาอยู่ในกอง ทุกคนในเรื่องนี้คืออยู่เหมือนครอบครัว ดีค่ะ อบอุ่น จริงๆ ไม่น่าจะต้องขอหนู น่าจะต้องขอทองคำมากกว่า (หัวเราะ)”.