ดารานักร้องสาวมากความสามารถ หญิง รฐา โพธิ์งาม มาเปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW ทาง Facebook: Woody, YouTube: Woody กับเรื่องราวสุดซาบซึ้งที่ได้เป็นตัวแม่ของเหล่า LGBTQ+ ขอบคุณทุกแรงสนับสนุนวง “2002 ราตรี” เป็นกระแสโด่งดังและคนยังจดจำจนถึงวันนี้ บอกจะเต้นจน 80 ก็ยังไหว แต่ในชีวิตคู่คงไม่คิดจะมีทายาท เพราะมีความสุขอยู่กับตรงนี้แล้ว

เมื่อ วู้ดดี้ วุฒิธร พิธีกร ถามว่า ด้วยการที่เป็นตัวแม่ของกลุ่ม LGBTQ+ มีหลายเหตุการณ์มากที่พวกเขาจะชื่นชอบในตัวคุณ อยากให้เล่าเหตุการณ์ที่ประทับใจให้ฟัง งานนี้ หญิง รฐา ตอบว่า เราก็ทำงานเป็นนักร้อง จากเพลง “จินนี่จ๋า” ก็เกือบ 20 กว่าปีแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะเห็นการเติบโตของน้องๆ กลุ่มนี้ที่เติบโตไปกับเรา จะเห็นเขาตั้งแต่เรียน รด. ใส่ชุดมาแล้วมาขอลายเซ็น วิ่งตามรถเรา

จนวันหนึ่งเขาก็เติบโต ทำรายการอยู่ในแกรมมี่ เห็นเขาเดินอยู่ในตึกแกรมมี่ เป็นโปรดิวเซอร์รายการทีวี จากแฟนคลับกลายเป็นน้องคนหนึ่งที่เราสนิทเพราะว่าเหมือนเราเติบโตมาด้วยกัน แล้วก็ไปเที่ยวด้วยกัน ทำรายการออนไลน์ด้วยกัน ได้เพื่อนเพิ่มขึ้นมาคนหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าเป็นมากกว่าแค่แฟนคลับ จนทุกวันนี้ก็จะไปเที่ยวดิสนีย์ ชอบดิสนีย์เหมือนกัน

...

และที่รู้สึกประทับใจ ส่วนใหญ่ก็จะมีเดินเข้ามาแล้วก็น้ำตาคลอ ตัวสั่นแล้วก็จับเรา พูดว่าแม่ทำให้หนูรู้จักตัวเอง เป็นโมเมนต์ที่เรารู้สึกว่าอาชีพนี้มันจะทำให้คนๆ หนึ่งได้รู้จักตัวเอง คำว่ารู้จักตัวเองมันใหญ่มากสำหรับหญิง การที่เราได้ Come Out กับทุกๆ คนรวมถึงตัวเราเอง ยอมรับในสิ่งที่เราเป็นแล้วก็ให้ครอบครัวรู้ แล้ววันหนึ่งเขาก้าวมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคม มีอาชีพที่ดีในสังคม เลยรู้สึกว่ามันก็เท่ดี การที่เราเป็น 2002 ราตรี เป็นอะไรที่สร้างแรงบันดาลใจให้คน

เมื่อถามว่า พอได้รับการสนับสนุนการครอบครัวด้วยก็จะเป็นอะไรที่ผลักดันให้เขายิ่งมีพลังมากขึ้น นักร้องสาวตอบว่า ใช่ สำหรับหญิง รู้สึกว่าไม่ใช่แค่เขา เราก็ด้วย ถ้าไม่มีพวกเขาสนับสนุน เชื่อว่า “จินนี่จ๋า” หรือตัวหญิง ตัวพี่แคท เพื่อนๆ ในวง 2002 ราตรี ก็จะไม่ได้เดินทางกันมานานขนาดนี้ เพลงมันทำงานได้มาเป็น 20 ปี เพราะพวกเขา แล้วเราก็ได้มีคอนเสิร์ตก็เพราะพวกเขาเหมือนกัน มันก็เป็นความภูมิใจของพวกเรา พอโดนแซวว่า ก็โตกันไปถึง 80 ปี หญิง รฐา ตอบขำๆ ก็ยังเต้นไหว และหัวเราะ

แต่เมื่อถามว่า พูดถึงการเป็นตัวแม่แล้วในชีวิตจริงความเป็นตัวมัมจะเกิดขึ้นไหม หญิง รฐา ตอบชัดเจนว่า “ไม่ค่ะ คุยกับตุลย์ (ตุลยเทพ เอื้อวิทยา) แล้วค่ะ คุยกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานเลย ช่วงเวลาที่เราคบกันจะคุยกันถึงอนาคตอยู่แล้ว เขาก็จะบอกว่ามองไม่เห็นว่าเราจะมีอนาคตในรูปแบบของการเป็นครอบครัวใหญ่หรือมีลูกหญิงคิดยังไง

คือจริงๆ ถ้าหญิงแต่งงานเร็วกว่านี้ ประมาณ 30 ต้นๆ คงคิดว่าหญิงอาจจะมี แต่พอหญิงแต่งเกือบ 40 แล้ว ก็เลยเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเราไม่เหนื่อยดีกว่า ก็คิดเหมือนกัน แล้วก็ไลฟ์สไตล์ด้วยแหละที่เรายังชอบจะเดินทางใช้ชีวิต หลายๆ ครั้งที่เราเจอเพื่อนๆ ที่มีครอบครัว เขาก็จะบอกว่าไม่มีดีแล้ว (หัวเราะ)

เราก็เลยโอเค เลี้ยงลูกเพื่อนค่ะ ชอบสปอยล์ลูกเพื่อน ในการเกิดเป็นมนุษย์บางทีเราไม่ต้องทำทุกอย่าง ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้ รู้ในแบบที่เราอยากรู้พอ หรืออาจจะเป็นสิ่งที่เขากำหนดมาให้เราอยากเป็นก็ได้ จริงๆ การมีลูกมันคงไม่ใช่ทุกข์อย่างเดียว มันมีสุขด้วย เพียงแต่เราอาจจะสุขอยู่กับตรงนี้และเราโอเคแล้ว".

...

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม