เรียกว่าเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่อย่างดี สำหรับนางเอกผลไม้ซุป’ตาร์สาว ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ที่ล่าสุดมาร่วมรายการ “เติ้ลรู้โลกรู้” ทางยูทูบแชนแนล นางแมวป่า ซึ่งในช่วงหนึ่ง ไตเติ้ล กิตติภัค ถาม ชมพู่ ถึงเรื่องที่พา ป้าเจี๊ยบ พี่เลี้ยงประจำบ้านที่คอยดูแลลูกๆ ไปเที่ยวออสเตรเลียด้วย ส่วนสาเหตุที่ ชมพู่ และ น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ สามี เลือกไปออสเตรเลีย เพราะอยากให้ ป้าเจี๊ยบ ได้ไปเจอลูกสาวที่ไปเรียนต่อด้านภาษาที่นั่น ทำเอาชมพู่มีอาการน้ำตาซึมเล็กน้อยหลังถูกถามถึงเรื่องนี้

...

โดย ชมพู่ เล่าถึงเรื่องนี้ว่า “ย้อนกลับไปเมื่อปลายที่แล้ว ลูกสาวป้าเจี๊ยบเรียนจบ แล้วเขาบอกว่าอยากไปเรียนภาษาต่อที่ออสเตรเลีย คือไปอยู่ที่นั่นก็ทำงานพาร์ตไทม์ด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะอยู่ไม่ได้ ตอนนั้นเขาก็ offer มาเป็นเมืองไหนก็ไม่รู้ อีกอันเป็นเมลเบิร์น ซึ่งมันพอดีกับที่พ่อน็อตมีโรงงานซูชิอยู่ที่โน่น เพราะเขาเคยไปเรียนที่นั่นมา 10 กว่าปี ตั้งแต่เด็กจนจบปริญญาตรี แล้วมีธุรกิจที่ทำกับเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกัน ก็เลยบอกถ้างั้นอยู่เมลเบิร์นสิ จะได้ทำงานที่นี่ด้วย จะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายเรื่องหางานและมีคนคอยเป็นหูเป็นตา

ชมก็อะ อยากไปก็ส่งเงินให้ไป แล้วให้เขาไปจัดการชีวิตของเขาเอง ทางนั้นก็ได้แต่โทรศัพท์กับคุยไลน์กับลูกว่าความเป็นอยู่เป็นยังไง เราก็เข้าใจหัวอกแม่ เขาไปตั้งแต่ช่วง ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา ช่วงนั้นก็ประมาณ ก.ค. คิดว่าเขาคงอยากไปเห็นว่าชีวิตเป็นยังไง ทริปนี้ส่วนหนึ่งที่เลือกไปก็เพราะให้ป้าเจี๊ยบได้เจอลูกสาว

ไม่อย่างนั้นก็อาจไม่ได้คิดว่าไปออสเตรเลีย ถึงแม้ประเทศนี้จะเป็นประเทศที่พ่อน็อตพูดหลายครั้งว่าอยากพาไปเพราะเป็นเมืองที่พ่อโตมา แต่ตัวพ่อก็ยังขี้เกียจไปเลย ยิ่งเมลเบิร์นก็อาจไม่ค่อยมีอะไร แต่เอาจริงๆ ชมอะอยู่ได้ คือชมในเวอร์ชันนี้คือโคตรอยู่ได้ เพราะฉันสโลว์ลงมากๆ และสามารถชื่นชมกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็คิดว่าจะขายพ่อผ่านมั้ย แต่ทางพ่อก็ไม่ติดอะไร Happy wife, happy life”

ไตเติ้ล พูดอีกว่า ป้าเจี๊ยบ ร้องไห้และเล่าให้ฟังว่า ชมพู่-น็อต ทำทุกอย่าง ดูแลจัดการทุกอย่างให้ลูกสาวหมด ซึ่ง ชมพู่ เผยถึงเหตุผลที่ตั้งใจช่วยเหลือขนาดนี้ว่า “เบื้องหลังคือคือคนไทยที่ไม่ได้เป็นลูกคนมีพรีวิลเลจ ถ้าพูดกันตรงๆ เวลาเขาอยากไปเรียนหรือหาโอกาสไปต่างประเทศก็จะมีเอเย่นต์ ซึ่งบางทีพอมันไปถึง อะไรๆ มันไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิดไว้

...

เราเป็นแม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเรารู้ว่าหัวอกคนเป็นแม่จะเป็นห่วงเรื่องอะไร แล้วก็มีไปตามพวกร้านของคนไทย ชมก็ไปแนะนำตัวกับเจ้าของร้าน (เพื่อจะช่วย?) ใช่ แต่ปกติเราก็ไม่ค่อยทำอะไรแบบนี้ ชมก็จะซื้อเครดิตที่ร้านไว้แบบจ่ายเงินล่วงหน้าไปก่อน และฝากฝังคนไทยที่นั่นให้เขาช่วยดูลูกป้าเจี๊ยบหน่อย ถ้าวันไหนเกิดเหตุฉุกเฉิน เราคิดแบบหัวอกคนเป็นแม่ พูดแล้วจะร้องไห้ (ยิ้ม) เพราะเราเข้าใจความทุกข์ของแม่ แต่เขาก็น่าจะสบายใจแล้วแหละ

เราออกจากเมืองมาโดยเอาความกังวลของเขาออกให้หมด ชมก็ซื้อการ์ดที่เป็นเครดิตของซุปเปอร์ฯ ไปก็ซื้อน้ำมัน น้ำปลา ข้าวสาร ซื้อทุกวันๆ แล้วแบกเข้าหอไปให้เขา แล้วก็อาหารแห้ง อยู่ได้อีกเป็นปีอะ จะพูดเลยว่าที่ฉันสามารถเป็นแม่แบบนี้ได้เพราะนาง (ป้าเจี๊ยบ) การที่คนเห็นเรากระเตงลูกไปได้ทุกที่ เพราะเรามีระบบซัพพอร์ตที่ดี ซึ่งก็คือเขา”.

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม