สลัดลุคหวานเป็นสาวเปรี้ยวแซ่บ "แป้งร่ำ ศิวนารี" นักร้องลูกทุ่งสาวฟิวชัน ได้เวลาปล่อยของ โชว์พลังเสียงและสเต็ปแดนซ์ ผ่านซิงเกิล “One Life Stand # รักเดียวตลอดไป” อัลบั้มแรกในชีวิต ในสังกัดค่าย แกรมมี่โกลด์ แต่เส้นทางการเป็น “ศิลปิน-ดารา” ไม่ได้ง่าย ผ่านบททดสอบมามากมาย จนแทบถอดใจ โดนบูลลี่ “ถ้าดังคงดังนานแล้ว” เป็นประโยคที่ฟังทีไรก็เจ็บ จี๊ด จุก ไปถึงก้นบึ้ง แถมความรักก็โชค ไม่เข้าข้าง เจอแต่แนวหลอก ลวงชวนเป็น “เมียน้อย” ที่เจ้าตัวขอเซย์โนเพราะอยากเจอ “รักแท้ รักเดียว รักยาวๆ” มากกว่า

มาทำความรู้จัก แป้งร่ำ ศิวนารี ด้วยการชักชวนขึ้นปก “มาลัยไทยรัฐ” ครั้งแรก โดยช่างผม เจเจ วาซาบิ เนรมิตความปัง! ส่วนเสื้อผ้า ก็มากระตุกต่อมแซ่บซี้ด ให้ช่างภาพ สุรกิจ แก้วมรกต ลั่นชัตเตอร์ ที่งานนี้เจ้าตัวใส่อินเนอร์ “นางแบบ” สุดเฟี้ยว!!

ส่วนเส้นทางการเป็นนักร้องเสียงหวานที่รักการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก เพื่อเดินตามเส้นทางความฝันในการเป็นศิลปิน ผ่านเวทีประกวดร้องเพลงพระราชนิพนธ์ในงาน มหกรรมดนตรี เทิดไท้ คีตราชัน หลายปีก่อนก่อนถูกชักชวนมาเป็นศิลปินดาวรุ่ง ค่ายอาร์สยาม สร้างความดีอกดีใจสุดขีดที่ฝันเป็นจริง! แต่จู่ๆฝันถูกทำลาย ถูกยกเลิกสัญญาจนเจ้าตัวร้องไห้หนัก แต่โชคชะตา พลิกผันทำให้ก้าวสู่ค่ายแกรมมี่โกลด์ โดยเปิดตัวกับโปรเจกต์พิเศษ “มักกะลีผีเสื้อ 2019” ทำให้แจ้งเกิดในฐานะศิลปินสาวดาวรุ่ง จนเพิ่งมีโอกาสได้มีซิงเกิลแรกในชีวิตกับ “One Life Stand # รักเดียวตลอดไป” ถึงจะเป็นความยาก แปลกใหม่ได้ทำสิ่งที่ไม่ถนัดโดยเฉพาะการเต้น “ละติน” ยากไปอีก

...

แป้งร่ำ ศิวนารี เล่าถึงซิงเกิลแรกด้วยความปลาบปลื้มว่า “เพลงนี้มีความท้าทายความสามารถ มันยากตรงที่แป้งไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืนแล้วโหมดการแดนซ์ในผับ เราอาจจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องตรงนั้นต้องมีการทำการบ้าน ดู คลิปการเต้นเค้าทำยังไง เพลงนี้เต้นหนักที่สุดในชีวิตแล้วตั้งแต่ทำเพลงมา เป็นแนวละตินด้วย”

เพลงนี้แป้งร่ำเปลี่ยนลุคเป็นแซ่บแรงไปด้วย “ใช่ค่ะ โตเป็นสาวแล้ว เราก็คิดถ้าไม่โชว์ตอนนี้แล้วเราจะไปโชว์ตอนไหน อายุมากแล้ว (อายุ 27 ปี) เราเป็นสาวแล้ว เป็นช่วงเวลาเหมาะสม” หลังปล่อยเพลงฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง “ดีค่ะ คนให้การตอบรับดี จะมีคอมเมนต์เขียนว่าแป้งร่ำมีพัฒนาการที่ดีก้าวกระโดดมาก รู้สึกชื่นใจมาก เราก็รู้สึกพอผู้ใหญ่ให้โอกาสเราก็อยากเต็มที่ พอได้คำชมชื่นใจเหมือน มีแรงอยากทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่หนูทำไม่ได้แข่งขันกับใครเลย จะแข่งขันกับตัวเองมากกว่าว่าเราจะทำได้มั้ย ดึงศักยภาพของเราออกมาให้คนเห็นให้คนชื่นชมเรา”

จากลุคหวานๆ ค่อยๆเปลี่ยนไปแนวเซ็กซี่ขี้เล่นมากขึ้นจากตอนประกวด เจ้าตัวก็เล่าว่า “แป้งอาจจะไม่ใช่สายประกวดขนาดนั้นแต่เราได้รับโอกาสจากการประกวด เพลงพระราชนิพนธ์ใน งานคีตราชัน ตอนนั้นประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง ร้องเพลงพระราชนิพนธ์ เพลง ‘แก้วตาขวัญใจ’ ตรงนั้นเป็นเหมือนใบเบิกทาง จากนั้นมาอยู่อาร์สยาม ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้มีเพลงเป็นของตัวเอง เรายังไม่ได้โอกาส อาจจะยังเป็นเด็กน้อยอยู่ ยังไม่มีโอกาสโชว์ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ด้วย เพราะตอนนั้นหนูร้องเพลงลูกกรุง”

เสียใจขนาดไหนไปไม่ถึงฝัน “ตอนนั้นมีเรื่องเกี่ยวกับการคืนสัญญา คิดว่าการร้องเพลงเราคงจบแล้ว ค่ายนี้คงที่สุดของหนู เราคงไม่มีโอกาสไปได้ไกลกว่านี้ อยู่แค่ปี-2 ปี ไม่ได้นาน ตอนอยู่อาร์สยามเป็นความฝันสูงสุดแล้ว แต่โดนปิดสวิตช์ เราจะไปยังไงต่อแล้วมีคำพูดของทีมงานคนคนนึง พูดว่า...‘ทำต่อไปก็ไม่ดังหรอก ถ้าจะดังก็ดังนานแล้ว’ พูดแบบนี้ใส่หนู ยังจดจำคำพูดนี้มาจนถึงทุกวันนี้เลย จำจนทุกวันนี้แต่เราไม่ได้อาฆาตแค้นนะคะ ฟังแล้วเจ็บ เราเป็นเด็กคนนึงมีความตั้งใจ แต่มาตอนนี้ทุกอย่างก็ดีขึ้นเยอะเลย มาอยู่แกรมมี่โกลด์ รู้สึกเป็นครอบครัว และได้รับโอกาสดีๆ”

เมื่อถามว่าวันนี้ได้เป็นศิลปินแล้วถือว่าเป็นการล้างปมในใจในอดีตหมดแล้วใช่มั้ย แป้งกล่าวว่า “ใช่ค่ะ ล้างทุกอย่าง และตอนนี้หนูได้เล่นละคร ด้วย ทางช่องวัน 31 ไมโครโฟนม่วนป่วนรัก และตอนนี้ถ่ายอีกเรื่องนึง ชื่อเรื่อง มนต์รักแม่กลอง ยิ่งทำให้เรามีแรงฮึด และคุณพ่อเพิ่งเสียไป ตอนนี้แป้งร่ำเลยกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวทุกอย่าง ทำทุกอย่างเต็มที่สุด”

พ่อเป็นอะไรเสีย “เป็นมะเร็งปอดค่ะ เค้าทำงานใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับสารเคมี มันสะสมมาต่อเนื่องยาวนาน เขารู้นะ บอกตั้งแต่เด็กๆว่าในอนาคตพ่ออาจจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดนะ แต่ไม่คิดไปไวขนาดนี้ ไปก่อนเกือบๆอายุ 60 เดือน พ.ย.นี้ ครบ 1 ปีที่คุณพ่อเสียค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงอยู่ ดูรูปก็ยังร้องไห้ ตอนแรกหนักหน่อยเหมือนคนอมน้ำตาตลอดเวลา ไปถ่ายรายการคิดถึงพ่อที่เป็นมะเร็ง จะร้องไห้โดยอัตโนมัติ คุณพ่อจะสอนให้เราอยู่ตรงไหนก็ได้ต่อให้ที่ที่ตรงนั้นลำบากเราก็อยู่ได้ มันเลยทำให้ไม่ว่าตกอยู่ใน สถานการณ์ไหนเราสามารถพลิกกลับมาให้ได้ ชีวิตมีอุปสรรคเยอะ ระหว่างทางก็มีศิลปินที่เขาไม่ชอบเรา ทั้งที่เราไม่เคยทำอะไร เขาแซะเราเพราะหาว่าที่เราได้ดีทุกวันนี้เพราะใช้เต้าไต่ สารพัด โดนเยอะบางทียังคิดเลยว่าเราผ่านเรื่องพวกนี้มาได้ยังไง”

...

มาอัปเดตความรักของลูกทุ่งสาวเจ้าเสน่ห์ไม่เบาแต่ก็เจ็บเพราะหนุ่มๆที่เข้ามาเช่นกัน เจ้าตัวเล่าว่า “รู้สึกว่าเป็นคนโชคร้ายมากในเรื่องของความรัก คือหนูเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องความรักมากๆ คบๆกันไป เค้าจะมีการเปลี่ยนไปเพราะว่าเราจะคบคนที่เป็นผู้ใหญ่อายุ 40 ปี แต่ไม่ได้มีครอบครัวแต่จะมีความเป็นตัวตนสูง ทำให้เข้ากันไม่ได้ บางคนมารู้อีกทีนึงว่าสุดท้ายเขามีครอบครัวแล้ว เหมือนถูกหลอก มาเฉลยทีหลังมีลูกมีเมียแล้ว ถึงเลิกแล้วแต่ใจเรามันไม่ได้ รู้สึกแย่ที่เขามาหลอก บางครั้งชอบมีหนุ่มใหญ่ทักมาขอเลี้ยง อันนี้เยอะมาก เอาของมาหลอก เอาแม่มาล่อเพราะเขารู้ว่าเรารักแม่มากแต่เรามองเขารักและเคารพเป็นพี่เป็นคนในวงการเหมือนกัน เขาขอชื่อหนูเพื่อเอาไปผูกกับบัตรเครดิตเค้า มาหว่านล้อม บัตรนี้ถ้าหนูมีจะเป็นผลดีกับแม่หนูนะ เป็นอะไรไปบัตรนี้ช่วยหนูได้ หนูก็ถามพี่จะมาช่วยหนูทำไมก็ยังยืนยันคำเดิม คิดกับพี่แค่เป็นพี่ชาย พูดชัดเจนมากแล้วเขาโกรธแต่ตัวหนูไม่ได้โกรธเค้านะแค่งง เอารถมาล่อด้วยแต่ประเด็นเป็นรถคันที่เขาขายไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาบล็อกเฟซเราไปแล้ว”

...

แป้งร่ำยังเล่าต่อว่าเจอแต่แบบปลอมๆลวงโลกก็จริงแต่พอมีคนดีๆที่คอยช่วยเหลือคอยซัพพอร์ตเข้ามาเหมือนกัน “ก็มีคนดีๆ เข้ามาค่ะ เค้าก็เป็นคนทำงานที่คอยซัพพอร์ตหนูทุกอย่าง หนูพูดตามตรงว่าจะไม่เอาภาระของตัวเองไปโยนให้ใคร ก็คุยๆกัน ยังไม่ถึงขั้นต้องเจอกันทุกวัน กินข้าวกันทุกวัน ถามว่าจากที่เราเจอผู้ชายหลอก พอใครสักคนที่เข้ามาจีบกลายเป็นตัวเรามีกำแพง ยิ่งคุณพ่อเสียชีวิตยิ่งคิดอะไรหลายชั้นมากขึ้น ไม่ได้อยากเจอความรักแบบรักสนุก ฉาบฉวย อยากเจอคนที่จะอยู่เรานานๆเป็นคนสุดท้าย ไม่อยากเสียเวลาเพราะเราเริ่มอายุมากแล้วเหมือนกันก็ยังมองความรักเป็นสิ่งสวยงาม เชื่อว่ามีคนดีๆแน่ นอนเพียงแต่เราจะเจอคู่เราวันไหนเท่านั้นเอง”.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่