หัวใจไม่ว่างแล้วจ้า สำหรับพระเอกหนุ่มตี๋หน้าใส เจมส์ มาร์ หลังมาร่วมงาน TQM & BKI คุ้มครองทุกความสำเร็จของ มนุษย์เงินเดือน ณ ห้องออดิโทเรียม อาคารพรรณนิภา 3 ชั้น 7 ทีคิวเอ็ม สำนักงานใหญ่ ถ.ลาดปลาเค้า 25 ก่อนจะเปิดใจแบบตรงๆ ถึงความสัมพันธ์กับนางเอกสาวหน้าหวานรุ่นน้อง พาย รินรดา แก้วบัวสาย ว่าตอนนี้ข้ามเฟรนด์โซน กลายเป็นคนพิเศษเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งเล่าโมเมนต์สุดหวาน สารภาพความในใจหลังรู้จักกันมานานกว่า 5 ปีด้วย

ไปเที่ยวทริปเกาหลีเป็นยังไงบ้าง?
“ทริปนี้เป็นทริปที่เราได้ไปกันแบบครบทีมเลยครับ และก็เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ของผมด้วย เพราะผมไม่เคยได้ไปเที่ยวเกาหลี แถมอากาศก็หนาวมากๆ เลยด้วย”

ถึงอากาศหนาวแต่ว่าหัวใจอุ่น?
“สนุกดีครับ สนุกดี (เขิน) น้องพายเขาเก่งมาก และเขาก็เป็นไกด์ให้กับทุกคนเลย เขาพาทุกคนไปทุกที่ ส่วนเรื่องไหนที่ผมพอช่วยเขาได้บ้าง ผมก็ช่วย”

ทริปนี้ไปกันเป็นคู่?
“ไปกัน 9 คนก็ไม่เป็นคู่สิครับ (หัวเราะ) ก็... ก็เป็นคู่ที่ไปด้วยกัน จับกลุ่มกันไปเที่ยวครับ และจริงๆ อย่างที่บอกทริปนี้เป็นทริปที่เราได้ทุกคนได้ไปด้วยกัน ได้จับกลุ่มกันเป็นเที่ยว เป็นทริปแบบเอนจอยมากกว่า”

...

แต่เพื่อนๆ เขาเม้าท์กันมานะว่าคู่เราน่ารัก?
“ผมคิดว่า... คิดว่าก็น่ารักดีครับ น่ารักดี (เขิน)”

ได้ไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้ ทำให้เรากับเขารู้ใจกันมากขึ้นไหม?
“พอได้รู้จักเขามากขึ้นก็รู้สึกว่าเขาน่ารัก และก็ (เขิน) น่ารัก ก็เอ่อ... ใช้คำว่าขยับความสัมพันธ์ (ยิ้ม)”

ใช้คำเรียกว่าอะไรดี?
“ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะมีคำนั้น แต่สำหรับผม ผมไม่อยากใช้คำนั้น เพราะผมรู้สึกว่าผมรู้จักเขามานาน และมันจะไม่ได้เป็นแบบคำนั้นทีเดียว มันอาจจะเป็นการขยับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นมากกว่า”

ก็คือข้ามเฟรนด์โซนไปแล้ว?
“ใช่ครับ ใช่ ก็คือได้ดูแลกัน ได้ซัพพอร์ตกัน ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถใช้คำนั้นได้หรือเปล่า แต่ ณ ตอนนี้มันก็พัฒนาขึ้น”

อะไรในตัวเขาที่ทำให้เราประทับใจ?
“เขาเป็นคนเก่งที่ถ่อมตัวมากๆ เขาเป็นคนจิตใจดีที่คอยดูแลทุกคน และก็ทำให้ผมรู้สึกว่าเขาเข้าใจผมได้ นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากที่จะรู้จักเขามากขึ้นครับ”

เราเป็นคนสารภาพกับเขาใช่ไหม?
“ครับ ใช่ครับ ก็บอกไปว่ารู้สึกอย่างนั้น แต่โมเมนต์นั้นมันก็ไม่ได้หวือหวาอะไรนะ แค่ผมตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าอากาศมันเปลี่ยน (ยิ้ม) และก็ได้บอกกับเขาไปตรงๆ ว่า 5 ปีที่เรารู้จักกันมา มันเป็นช่วงเวลาที่สม่ำเสมอและมีแต่สิ่งดีๆ ผมก็เลยอยากจะทำให้มันเป็นไปอีกนานๆ”

เขาถามเราไหมว่าสิ่งที่เราทำมันคือการจีบหรือเปล่า?
“อาจจะเพราะเรารู้จักกันมานาน เราก็เลยข้ามโมเมนต์ที่แบบต้องมานั่งจีบ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งหมดที่เกิดขึ้นเราก็ต้องบอกผู้ใหญ่ให้รับรู้ รวมถึงบอกคนสำคัญรอบข้างของเราด้วย”

สถานะเปลี่ยน ความรู้สึกเปลี่ยนไหม?
“ก็มีความพิเศษมากขึ้นครับ มีความเขินกันมากขึ้น แต่ในส่วนของการใช้ชีวิตประจำวันทุกอย่างยังเหมือนเดิม ใช้ชีวิตกันเหมือนเดิม”

มีคำนิยามไหมสำหรับเราเขาคือสถานะไหน?
“ผมไม่เคยคิดนะ แต่ว่าถ้าต้องพูดตอนนี้คือ เป็นคนพิเศษครับ (ยิ้ม) เป็นคนของหัวใจ ก็น่ารักดีครับ (ยิ้ม)”

...

ส่วนตัวเราเป็นคนคลั่งรักไหม?
“เอ่อ... อาจจะเป็นในรูปแบบมินิมอลมากกว่าครับ คือไม่ได้ชัดมากในมุมของการปฏิบัติ แต่ลึกๆ ข้างในเราก็รู้สึก (ยิ้ม)”

คนรอบข้างมีฟีดแบ็กยังไงบ้าง?
“คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจครับ ดีใจที่เรามีโมเมนต์นี้ ยิ่งเป็นน้องเขาด้วยทุกคนก็ยิ่งยินดี”

จะมีโมเมนต์ที่เราได้ขยับสถานะไปมากกว่าคำว่าคนพิเศษไหม?
“ก็เรื่อยๆ เลยครับ เอ่อ...หลายคนอาจจะถามว่า เป็นแฟนไหม เป็นแฟนกันใช่ไหม คือเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถใช้คำนั้นได้ไหม แต่ที่เราใช้คำอื่นก็เป็นเพราะเราคิดว่ามันตรงกับความรู้สึกของเรามากกว่า”

เรามีความเป็นสุภาพบุรุษมากๆ เลยนะ?
“ผมไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า แต่ผมแค่คิดว่าผมจริงใจกับความรู้สึกของตัวเอง เมื่อไหร่ที่รู้สึก หรือเมื่อไหร่ที่คิดว่าใช่ ผมก็จะบอกครับ”.