เรารู้จักคุ้นหน้ากับหมอปลาย พรายกระซิบ ผู้ออกสื่อพร้อมคำทำนายโรคระบาดที่แม่นยำเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ชื่อ ปลาย พรายกระซิบ โด่งดังเป็นพลุแตก แต่ไม่มีรายการไหนเคยบุกบ้านของร่างทรงสาวผู้นี้มาก่อน แน่นอนเราเรียกว่าร่างทรง เพราะเธอบอกกับเราว่า เธอคือร่างทรงของเทพ และเหตุผลที่คนไม่กล้ามาหาเธอที่บ้านเป็นเพราะ "กลัวท่านยมกันมั้งคะ (หัวเราะ) ปลายขอเรียกตัวเองว่าเป็นร่างทรงดีกว่าค่ะ ปลายเป็นร่างทรงท่านยมและเทพอีกหลายองค์ ซึ่งไม่เคยบอกใครที่ไหน คนที่เห็นปลายออกรายการอาจจะดูนั่งนิ่งหรือดูมีอายุ แต่จริงๆ แล้วตัวตนของปลายคือเด็กกะโปโลปกติ ที่พูดไปหัวเราะไป"
ชื่อปลาย พรายกระซิบ เป็นเพียงชื่อในวงการ แต่ชื่อจริงๆ ตามบัตรประชาชน คือ ณวรชา พินิจโรคากร "เอาจริงๆ เป็นคนไม่เชื่อศาสตร์เปลี่ยนชื่อ แต่วันหนึ่งพรายกระซิบมาบอก ท่านยมนั่นแหละมาสั่งก็เลยต้องเปลี่ยน"
ไม่เล่าประวัติ
กลัวคนว่าบ้า
เธอเริ่มเล่าชีวิตตัวเองว่าเห็นผีมาตั้งแต่เด็ก และก็แยกไม่ออกอันไหนคนหรือผี กว่าชีวิตจะจูนติดมาเจอเทพก็ใช้เวลา 10-20 ปี ก็ช่วงอายุประมาณ 22-23 ปี
"ผีก็เห็นรูปร่างเหมือนคนปกติ ฝั่งตรงข้ามบ้านของปลายเป็นบ้านร้าง ซึ่งตอนเด็กๆ ก็ไม่รู้ว่าบ้านร้างคืออะไร ก็จะเห็นผู้ชายแก่เดินไปเดินมา ก็จะเข้าไปคุยกับเขา จนวันหนึ่งเรามาทราบทีหลัง เขาเก็บศพไว้ร้อยวันโดยไม่มีคนเฝ้า ซึ่งหมอปลายบอกว่า เธอไปเล่นกับคุณลุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

...
ปรับจูนตัวเองด้วยการยอมรับว่าเราสามารถเห็นสิ่งเหล่านี้และก็เริ่มท้าทาย เทพที่มาเบิกเนตรคือพระศิวะและพระแม่กาลี ท่านพระศิวะบอกว่าให้เราเขียนความปรารถนาไป 10 ข้อ จะขออะไร คุณแม่ก็เขียนไป 10 ข้อ หลังจากนั้น 1 ปี ก็มานั่งติ๊กกันเลยได้ครบทั้ง 10 ข้อ ก็เลยเชื่อ เพราะมันคืออภินิหาร"
หมอปลายยกตัวอย่างให้เราฟังว่า "เตียงนี้นอนไม่สบาย จะเปลี่ยนเตียง อยู่ดีๆ เงินมาจากไหนก็ไม่รู้เท่าราคาเตียงเป๊ะ!"
วันที่เทพมาหา
หลังจากที่เล่าไปสักพัก การแทนตัวของหมอปลาย จากตอนแรกเรียกตัวเองว่า ปลาย เริ่มเปลี่ยนเป็น หนู
"มีช่วงหนึ่งที่พระกฤษณะมา สังเกตได้จาก ตัวปลายเป็นผู้หญิงตัวเล็ก วันที่ท่านมา ตัวหนูหนักภายในข้ามวัน ชุดนักเรียนก็คับ เสื้อผ้าในตู้ใส่ไม่ได้เลย คุณแม่เลยให้ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ ไปลองชุดผู้หญิงทั้งหมด ใส่ไม่ได้เลย เหมือนผู้หญิงเล่นกล้าม จนอีกวันท่านออกไป เราก็กลับไปร้านเสื้อผ้าร้านเดิม เสื้อตัวเดิม ใส่ได้หมด"
เธอบอกว่าน้ำหนักไม่เพิ่ม ความรู้สึกเหมือนร่างกายบวมกะทันหัน แต่ถ้าสังเกตท่าทางการเดิน ท่านั่ง ก็จะเปลี่ยนพอสมควร
บมสัมภาษณ์หลังจากนี้เราจะถอดคำถามของพิธีกรและคำตอบของหมอปลายแบบคำต่อคำ จะเชื่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้อ่าน
Thairath Talk : คุณไม่ได้บ้าใช่ไหม เคยไปปรึกษาคุณหมอถึงอาการเหล่านี้หรือเปล่า
หมอปลายไม่ได้โกรธเคืองกับคำถามและตอบชัดเจนเลยว่า "หนูเคยไปทำงานกับล่ามของคนจีน ซึ่งเขาเป็นคนตัดสินว่าจะจ่ายเงินให้กับคนปกติ หรือจิตผิดปกติ เขาเอาแบบทดสอบมาให้ทำ ก็ผ่านหมด แปลว่าเรามีสติดีทุกอย่าง เข้าใจค่ะว่ามันมีอาการของโรคที่ชื่อว่า Schizophrenia เหมือนคนมาบอกให้ทำโน่นนี่ในหัว แต่หนูไม่ใช่ เขาก็เลยทำงานกับหนูได้ คือเขายอมรับว่าหนูไม่ได้บ้า เราคือของจริง"

Thairath Talk : ณ วันนี้มีเทพมาสิงสถิตในร่างหมอปลายกี่องค์
สลับกันหลายองค์เลยค่ะ ไม่ใช่แค่ท่านยมทูตนะคะ ท่านยมนี่มาทีหลังสุด ท่านมาบอกให้ดูดวง ต้องทำแบบนี้นะ เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ท่านขอ
การจุดเลข ตอนแรกหนูไม่ยอมเลย ไม่ยอมจนมายอมเพราะท่านทำให้หนูเป็นโรคนอนไม่หลับ พอลองทำปุ๊บ เรานอนหลับโดยที่ไม่ต้องใช้ยา เหมือนความรู้สึกภายใจปลอดโปร่ง แต่ไม่ใช่ว่าโปร่งหมด จุดเลขที หนูก็ต้องบน เพราะกลัวพลาด หนูต้องสวดยอดพระกรรณ 39 จบเพื่อให้คนอื่นถูก ซึ่งหนูก็ไม่เคยเล่น นี่คือการรับผิดชอบของหนูทุกครั้ง
ยมทูตพาไปนรก
"ท่านยมมาก่อนภารกิจ ท่านยมมาตอนที่หนูดื้อสุด ท่านสั่งว่าห้ามรับประทานปลาดิบ หนูก็จะกิน หนูไม่แคร์เสียงอะไรก็ไม่รู้ จะมีเสียงผู้ชายมาบอกว่า อย่ากิน เราก็กิน หลังจากนั้นก็รู้สึกผิดปกติ อาเจียนสุดๆ ปวดท้อง ชนิดที่ว่าเห็นตัวเองหลุดออกจากร่าง เห็นอีกคนเข้ามาอยู่ในตัวหนู ท่านยมก็มา แล้วพาไปข้างล่าง เห็นนรก เสร็จก็พาขึ้นข้างบนฮวบเดียว หลังจากนั้นชีวิตก็เปลี่ยนไปเลย
...
ท่านยมพูดว่า ถ้าดื้ออีก ก็จะเอาไป จะเอาไหมล่ะ คุณแม่ก็เลยบอกให้ยอม
นั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการเห็นผี เห็นเทพ ดูดวง ตั้งศาล"
Thairath Talk : ตอนนี้ท่านยมอยู่ตรงไหน ขณะที่เรากำลังคุยกัน
ตอนนี้ท่านอยู่ข้างหลังเป็นเงาๆ จางๆ อะไรที่ควรพูดท่านจะบอกให้พูด อะไรที่ไม่ควรพูด ท่านก็บอกไม่ให้พูด ท่านมาบอก มากระซิบ
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ชมคลิปเพิ่มเติม
ผู้เขียน : Bouquet Talk