โฮเวิร์ด คาเตอร์ กำลังตรวจดูโลงพระศพ.

ในบรรดาฟาโรห์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของอียิปต์นั้น เชื่อเหลือเกินว่าแฟนานุแฟนไทยรัฐซันเดย์สเปเชียล โดยทีมงานต่วย'ตูน แทบทุกท่านต้องนึกถึงตุตันคามุน ยุวกษัตริย์ที่ทำให้ โลกทั้งโลกต้องหันมามองอารยธรรมอียิปต์ เพราะนับตั้งแต่ปลายปี ค.ศ.1922 ที่โฮเวิร์ด คาเตอร์ นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ภายใต้ การสนับสนุนทางการเงินจากลอร์ดคาร์นาวอน ได้ค้นพบสุสานอันเต็มไปด้วยทรัพย์ศฤงคารของพระองค์ ก็เหมือน เป็นมนต์สะกดให้ทุกสายตาหันไปจับจ้องมองอียิปต์ ทั้งในแง่ มุมของวัฒนธรรม ความเชื่อ ปริศนาลึกลับมากมาย รวมถึงคำสาปแช่งที่เชื่อกันว่า ผู้เกี่ยวข้องกับการรบกวนที่พำนักสุดท้ายของตุตันคามุนต้องพบจุดจบอย่างคาดไม่ถึง

มาวันนี้ ชื่อของยุวกษัตริย์ที่เคยครองแผ่นดินลุ่มแม่น้ำไนล์ได้กลับมาสู่สาธารณชนอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง เมื่อมีการเปิดเผยผลการตรวจสอบพระวรกายอย่างละเอียด และพบว่าตุตันคามุน สวรรคต เสด็จกลับไปรวมกับเทพโอซิริสเพราะติดเชื้อมาลาเรีย!!!

พระพักตร์บนโลงทองชั้นที่ 3 ของตุตันคามุน.

พลันที่ได้เห็นข่าวที่ยืนยันสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของตุตันคามุน ผู้เขียนก็มีอันขนลุกซู่ เพราะหวนคิดไปถึงการตายของลอร์ดคานาวอน บุคคลสำคัญที่ยืนเป็นด่านหน้าในการเปิดสุสานที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และถูกเล่าอ้างว่า เป็นคนแรกที่โดนอาถรรพณ์แห่งคำสาปแช่ง จนต้องด่าวดิ้นสิ้นใจไปในเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากประกาศให้โลกได้รู้จักพระนามตุตันคามุน

การตายของลอร์ดคานาวอนนั้นเป็นเพราะ ถูกยุงกัดที่แก้ม และกลายเป็นแผลอักเสบจนล้มป่วย เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา มิหนำซ้ำ ยังมีเสียงเล่าอ้างกันด้วยว่า หลังจากเปิดมัมมี่ขององค์ฟาโรห์แล้ว ก็ได้พบรอยยุงกัดที่พระพักตร์ ด้านซ้าย ตำแหน่งเดียวกับที่ลอร์ดคานาวอนเป็นแผลเพราะพิษยุงด้วยเหมือนกัน ทำให้ผู้ที่เชื่อมั่นในคำสาปแช่งที่จารึกหน้าสุสานของ ตุตันคามุนที่ว่า "มัจจุราชจะมาสู่ผู้รบกวนการบรรทมของฟาโรห์" ถูกประโคมขึ้น จนกลายเป็นหนึ่งในคำสาปที่เป็นสุดยอดของไอยคุปต์

...

แต่ด้านการแพทย์ หมอประจำตัวของลอร์ดคานาวอนได้สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า เศรษฐีผู้หลงใหลในงานโบราณคดีท่านนี้ อาจจะ ติดเชื้อมาลาเรีย ทำให้ไข้ขึ้นสูง และมีอาการเพ้อ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต

โฉมหน้าของตุตันคามุนที่ปรากฏออกมาด้วยคอมพิวเตอร์.

แล้วจะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไง ที่ได้รู้ในท้ายที่สุดว่า ตุตันคามุนก็สิ้นพระชนม์เพราะมาลาเรีย!

จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า พระองค์ได้ส่งมัจจุราชเดียวกันนั้นมาเยือนลอร์ดคานาวอน ผู้บังอาจมารบกวนชีวิตนิรันดร์ของพระองค์!

ย้อนไปในสมัยที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้านัก ได้มีการเอกซเรย์มัมมี่ของพระองค์ แล้วพบว่ามีเศษกระดูกหักบริเวณพระเศียร ทำให้ คาดการณ์กันว่า น่าจะถูกลอบปลงพระชนม์ และผู้ต้องสงสัยที่สุดก็คือ อัยย์ มหาอำมาตย์ผู้ใกล้ชิด ขึ้นครองราชย์ เป็นฟาโรห์ต่อจากยุวกษัตริย์ ด้วยการบังคับข่มเหงพระทัยองค์ราชินีของตุตันคามุนผู้ล่วงลับ คือพระนางอังเคเซนามุนให้อภิเษกกับขุนนางผู้เฒ่าผู้นี้

มัมมี่พระธิดาของยุวกษัตริย์ผู้เรืองนาม.

อย่างไรก็ตาม หลัง จากตกเป็น "จำเลย" คนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์มาได้ 3 พันกว่าปี แต่เมื่อ 5 ปีก่อนนี้เอง อัยย์ก็พ้นข้อกล่าวหา เพราะได้มีการนำ พระวรกายของตุตันคามุนเข้าเครื่องซีทีสแกน และพบว่าพระองค์ไม่ได้สวรรคตเพราะแผลที่พระเศียร แต่พบว่าก่อนสิ้นพระชนม์ไม่กี่วัน กระดูกพระชงฆ์ข้างซ้ายของพระองค์น่าจะหัก ซึ่งอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ จนถึงแก่ชีวิต แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันที่แน่นอนว่าจะเป็นเหตุผลที่แท้จริงหรือไม่

จนกระทั่งมีการสำรวจพระวรกายอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับการตรวจดีเอ็นเอ ถึงได้มีการประกาศมาอย่างชัดแจ้งเมื่อไม่กี่วันนี้เองว่า ตุตันคามุนสิ้นพระชนม์ด้วยพิษมาลาเรีย หลังจากที่ถูกยุงกัด และได้รับเชื้อโรคในสายพันธุ์มาลาเรียที่ร้ายแรงที่สุด ที่เจอเข้าเมื่อไหร่ เป็นต้องตายแทบทุกรายไป

ครอบพระพักตร์ของพระศพตุตันคามุน.

ส่วนเศษกระดูกที่พบในพระเศียรของพระองค์นั้น อาจจะเกิดจากการแตกหักในช่วงที่ทำมัมมี่ของพระองค์ หรือไม่ก็เกิดจากการกระทบกระเทือนในช่วงแรกๆ ที่มีความพยายามเปิดหน้ากากครอบพระพักตร์ อย่างเร่งรีบของโฮเวิร์ด คาเตอร์ ซึ่งก็มีผู้ออกมากล่าวหาว่าคาเตอร์เองนี่แหละที่เป็นผู้ ทำให้มัมมี่ของพระองค์เสียหาย และกระดูกบริเวณพระพักตร์แตกเป็นเสี่ยงๆ ถึง 18 ชิ้น

นอกจากการพบสาเหตุการสวรรคตแล้ว ยังได้เห็นถึงรูปลักษณ์และชีวิตบางเสี้ยวของตุตันคามุน นั่นคือ ยุวกษัตริย์ที่ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ยังไม่เต็ม 10 พรรษา และสิ้นพระชนม์ตอนพระชนมายุได้ 19 พรรษานั้น เป็นเด็กชายบอบบางที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับหลายโรครุมเร้า เพราะมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ บวกกับปัญหาเพดานปากโหว่ แถมยังเท้าแปจนต้องเดินยักแย่ยักยัน (จนไม่แปลกที่มีการค้นพบไม้เท้ามากกว่า 100 อันในสุสาน) ดังนั้น เราคงจะต้องทิ้งความเชื่อเก่าๆ จากที่เคยเห็นที่โลงทอง และที่ครอบพระพักตร์อันงดงามของพระองค์ จนเชื่อกันว่าตุตันคามุนเป็นฟาโรห์หนุ่มรูปงามไปอย่างสิ้นเชิง

การที่องค์ฟาโรห์วัยหนุ่มฉกรรจ์มีพระพลานามัย ไม่ค่อยสมบูรณ์นี้ สาเหตุหลักน่าจะมาจากการที่พระองค์เป็นพระโอรสของฟาโรห์องค์ก่อนกับพี่หรือน้องสาว พูดง่ายๆ ก็คือพี่น้องแต่งงานกันเอง และเกิดเป็นพระโอรสที่ไม่แข็งแรงนัก

...

ก่อนหน้านี้ในการทำซีทีสแกนเพื่อตรวจสอบพระวรกายเมื่อปี ค.ศ.2005 ก็เคยเห็นร่างคร่าวๆ ของพระองค์มาก่อนแล้วว่ามีส่วนสูง 5 ฟุตครึ่ง หรือ 165 เซนติเมตร และในตอนนั้นก็เริ่มเห็นเค้าแล้วว่า น่าจะไม่ทรงหล่อเหลานัก เพราะพบว่าพระทนต์ซี่หน้าใหญ่อย่างที่เรียกกันว่าฟันจอบ ในขณะที่พระทนต์ ด้านล่างก็เรียงไม่เป็นระเบียบ แถมยังไม่สบกันพอดี กับด้านบน หรือกล่าวได้ว่า "ฟันเหยิน" นั่นเอง

ภาพองค์ฟาโรห์หนุ่ม จากซีทีสแกน.

ย้อนกลับไปถึงพระบิดาของตุตันคามุน ถือว่าเป็นปริศนาข้อหนึ่ง เพราะไม่มีจารึกที่แน่นอนว่าพระองค์สืบเชื้อสายมาจากฟาโรห์องค์ไหน แต่เดากันว่าน่าจะเป็นฟาโรห์อัคนาเตน กับนางเนเฟอร์ตีติ พระราชินีผู้เลื่องชื่อในเรื่องความเลอโฉมของฟาโรห์อัค-นาเตน หรือไม่ก็มเหสีองค์ที่ 2 คือเจ้าหญิงคิยา ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นผู้เลี้ยงดูตุตันคามุนมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์

แล้วคำตอบก็เปิดเผยออกมาจากการตรวจสอบดีเอ็นเอของตุตันคามุนกับมัมมี่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในวงศ์กษัตริย์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ใช้เวลาทำงานกันนานราว 2 ปี ในการตรวจสอบมัมมี่มากกว่า 10 ร่าง จนพบว่าพระบิดาของตุตันคามุนคืออัคนาเตนอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆอีก ในขณะที่พระมารดานั้น แม้จะยังไม่ชัดเจนในพระนาม แต่ก็แน่นอนแล้วว่า เป็นหนึ่งในบรรดาพี่น้องของอัคนาเตนนั่นเอง

พระมารดาของตุตันคามุนคือมัมมี่ร่างหนึ่ง ซึ่งนักโบราณคดีเรียกขานว่า "แม่สาวน้อย" หรือ Younger Lady ซึ่งเมื่อก่อนโน้นก็เชื่อกันว่าเป็นพระศพของพระนางเนเฟอร์ตีติ แต่มาถึงวันนี้ก็พิสูจน์กันแล้วว่าไม่ใช่

และในการตรวจสอบนี้ ยังได้พบเชื้อสายของยุวกษัตริย์ด้วย เพราะมีการยืนยันแล้วว่า มัมมี่ตัวอ่อนทารกที่ตายในครรภ์มารดา และถูกค้นพบในสุสานของตุตันคามุนนั้น คือพระธิดาแฝด 2 พระองค์ ของตุตันคามุนนั่นเอง

...

สุสานของตุตันคามุนนั้น รอดพ้นน้ำมือโจรมาได้เพราะเมื่อมีการสร้างสุสานของฟาโรห์รามเซส ที่ 6 ในบริเวณใกล้ๆกัน ก็เลยมีการสร้างที่พักคนงาน "คร่อม" สุสานของตุตันคามุนผู้ถูกลืมซึ่งก็เกิดเป็นผลดี ทำให้พระนามที่โลกลืมก็ได้กลับมาเป็นพระนามที่ยิ่งใหญ่กว่าฟาโรห์องค์ไหนๆ อันเนื่องมาจากการค้นพบสุสานที่สมบูรณ์และทรัพย์สมบัติมหาศาลที่ไม่เคยถูกมือดี (แต่ใจร้าย) รบกวนมาก่อน

และเมื่อรวมกับเรื่องอาถรรพณ์ของสุสาน ก็ยิ่งทำให้พระนามตุตันคามุนกระฉ่อนมากขึ้นไปอีก มีการ "ถก" กันถึงเรื่องคำสาปฟาโรห์กันอย่างต่อเนื่องมานานเกือบร้อยปีแล้ว โดยฝ่ายที่เชื่อก็บอกว่า มันน่าแปลกอยู่ที่ผู้เกี่ยวข้องในการขุดสุสานจะตายกันอย่างมีปริศนากว่าสิบราย โดยเฉพาะลอร์ดคา-นาวอน ที่ตอนสิ้นใจนั้น เกิดเหตุการณ์ไฟดับทั่วกรุงไคโรมาเป็นของแถมเสริมอาถรรพณ์

โฮเวิร์ด คาเตอร์ กำลังตรวจดูโลงพระศพ

ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็บอกว่า การที่ผู้ขุดสุสานเสียชีวิตไปหลายคน น่าจะเป็นเพราะมีเชื้อโรคหรือพิษบางอย่างในสุสาน ที่ทำให้ผู้ที่ได้สัมผัสถึงแก่มรณะกันง่ายๆ และเรื่องพิษนี้ก็อาจจะเป็นเพียงกลเม็ดหนึ่งของกลุ่มผู้ปิดผนึกสุสานที่จงใจทำเอาไว้ เพื่อให้ดูเหมือนว่าคำสาปจะเป็นจริง

ส่วนแฟนานุแฟนต่วย'ตูน จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็แล้วแต่วิจารณญาณของท่าน ส่วนผู้เขียนนั้นเชื่ออยู่อย่างเดียวในตอนนี้ว่า "ยุง" แท้ๆ ที่ "บังเอิญ" คร่าชีวิตทั้งองค์ฟาโรห์และผู้รบกวนพระองค์

เป็นความบังเอิญที่ห่างกันนานกว่า 3 พันปี!

แฟนานุแฟนที่ยังไม่จุใจ โปรดติดตามอ่านเนื้อหาการตรวจพระศพตุตันคามุนแบบเต็มๆ ได้ในนิตยสารต่วย'ตูน พิเศษ ฉบับมีนาคม นำเสนอพร้อมนานาสาระเต็มเปี่ยมคับเล่มอีกเช่นเคย.

...

ทีมงาน ต่วย'ตูน