"พงศ์เทพ" สับไพรมารีโหวตของปลอม ทำระบบผิดเพี้ยน ไม่ได้ชี้ขาดได้ตัวแทนพรรคที่แท้จริง พร้อมบี้ คสช.ปลดล็อก ถ้าใจจริงหวังเตรียมพร้อมสู่เลือกตั้งจริง

วันที่ 24 มิ.ย. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงระบบไพรมารีโหวตว่า ไพรมารีโหวตที่คิดขึ้นมา บอกตรงๆ ถ้าจะให้ชี้ถึงข้อบกพร่อง มีเยอะแยะมาก เพราะไม่ใช่ไพรมารีโหวตจริงๆ อย่างที่คนอื่นเขาทำ ลองคิดดูว่า ในกรณีของเขตเลือกตั้งที่บอกว่า ถ้ามีสมาชิก 100 คน ต้องให้สมาชิกมาลงคะแนนกัน ถ้ามา 50 คนถือว่าใช้ได้แล้ว ถามว่าถ้าคน 50 คน ในเขตเลือกตั้งหนึ่งปกติ จะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 1 แสนคนขึ้นไป แล้วจะเอาเสียง 50 คนชี้ขาดว่าเป็นใครแล้ว หรือเกือบต้องเป็นไปตามนั้น มันมีเหตุผลไหม

เพราะความจริงคนส่วนใหญ่อาจสนับสนุนคนอื่น ถ้าเป็นการให้ข้อมูลให้คณะกรรมการสรรหาไปประกอบการพิจารณาตรงนี้ไม่มีปัญหา ถือว่าดี แต่นี้ระบบผิดเพี้ยน อย่างสหรัฐฯ คนมาลงคะแนนมีจำนวนมากและในบางรัฐใครจะเป็นสมาชิกพรรคนั้นๆ หรือไม่ สามารถมาลงได้หมดจากที่มีสิทธิเลือกตั้งจริงๆ ทำให้รู้ว่าเป็นคนที่ประชาชนสนับสนุน แต่ไพรมารีโหวตที่เราเขียนมันไม่ใช่ เพราะไพรมารีโหวตจริงๆ จะชี้ใครจะได้รับเลือกตั้งด้วยซ้ำไป

นายพงศ์เทพ กล่าวว่า พอไปสร้างระบบนี้ขึ้นมา จะมีความพยายามได้ที่จะบิดเบือนไพรมารีโหวต ถ้าตนอยากลงสมัคร โดยจะให้ไพรมารีโหวตที่คนจำนวนน้อยๆ ให้มาสนับสนุนตน ในขณะที่จริงๆ ไม่มีคนมาสนับสนุนตนเท่าไร ซึ่งจะบิดเบือนระบบได้ ในกรณีที่ไปให้เสียงที่ประชุมของคนจำนวน 50 คน เรียกว่าเกือบจะเป็นการชี้ขาด ให้ใครสมัคร และย่ิงถ้าเป็นบัญชีรายชื่อ ย่ิงไม่ค่อยมีเหตุผลเลย เพราะต้องดูภาพรวมทั้งประเทศ จะให้ผู้ที่อยู่นั้นมาจัดลำดับกันเอง มันไปไม่ได้ ข้อมูลในการตัดสินใจของผู้ที่เข้าไปลงคะแนน

...

เมื่อเทียบกันกับระบบเดิมที่คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นคนตัดสินใจ ข้อมูลมีความแตกต่างกัน ซึ่งการให้มีส่วนร่วมในการเสนอชื่อเห็นด้วย แต่ไม่ใช่มาชี้ขาดสุดท้ายใครได้ลำดับที่เท่าไร ขึ้นอยู่กับคะแนนเสียงที่ไพรมารีโหวตลงคะแนนมา ตนว่าไปได้ยาก เพราะบางทีจะเห็นว่าบัญชีจะไม่ค่อยนิ่ง เพราะมีบางคนถอนตัว มีคนใหม่เข้ามา หรือไปเจอคนโดดเด่นมากเพิ่งจะมาสมัคร เกิดเป็นช่วงทำไพรมารีโหวตแล้วคนเหล่านี้ก็ไม่มีสิทธิเข้ามา และระยะเวลาเลือกตั้ง เวลาที่ยุบสภา เวลาที่สภาครบวาระ ปกติแล้วเลือกตั้งภายใน 45 วัน 60 วัน จะมีเวลามาทำไพรมารีโหวตอะไรมากมาย

เมื่อถามว่า ด้วยระบบส่งผลให้ต้องเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ในความพร้อมคุณต้องเปิดให้เขาทำกิจกรรมในทันที ถ้าเปิดให้ทำกิจกรรมทันที พรรคการเมืองสามารถเตรียมความพร้อมได้ ยกตัวอย่าง ตนเชื่อว่าพรรคการเมืองไม่น้อย ไม่มีสมาชิกพรรคครบทุกจังหวัดตามจำนวนที่กฎหมายพรรคการเมืองเขียนไว้ เวลานี้ต้องให้เขาไปหาสมาชิกพรรค หรืออย่างกรณีทำไพรมารีโหวต ที่ไม่ใช่พอประกาศให้มี พ.ร.บ.การเลือกตั้งแล้ว เขาถึงไปทำไพรมารีโหวตซึ่งไม่ทัน ต้องทำมาก่อน แต่ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ยอมให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองอะไร โดยพรรคการเมืองใหม่ตั้งพรรคก็ตั้งไม่ได้ สมาชิกคนเดียวยังไม่มีเลย

ทั้งนี้ จะเป็นการเจตนาเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ กับการที่ยังไม่ปลดล็อก ถ้าถามถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.บอกว่าจะมีการเลือกตั้งมาวันนั้นวันนี้ มากี่ครั้งแล้ว สื่อมวลชนลองไปดูที่ผ่านมาบอกมากี่ครั้ง เลื่อนมากี่ครั้ง เพราะฉะนั้นเวลาที่คนบอกว่า สงสัยมีเจตนาจะเลื่อนเลือกตั้งหรือเปล่า คนที่เขาระแวงเขาดูพฤติกรรมจากที่ผ่านมา เขาจึงมีเหตุผลที่จะระแวง ปกติคนเราถ้าเป็นที่น่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับ ถ้าพูดลักษณะหนึ่งของคนดี เวลาเขาพูดคำไหนก็เป็นคำนั้น เวลานี้คนเขาจะดูพฤติกรรมที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ตอนนี้เวลามีคนโยนหินถามจะเลื่อนเลือกตั้งหรือเปล่า เขามีสิทธิระแวงได้ เพราะเขาเห็นพฤติกรรมในอดีต ส่วนเรื่องการสืบทอดอำนาจจะมีหรือไม่มี คสช. สืบทอดอำนาจได้ทั้งนั้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่เขียนรัฐธรรมนูญไว้ และรัฐธรรมนูญก็ออกมาแล้ว ซึ่งคนที่อ่านออกพอจะรู้ว่าคนเขียนมีเจตนาอย่างไร.