อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม มาเปิดใจในอีกแง่มุมที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน จากเด็กที่ไม่ดี เกเร เป็นนักเลง จนทำให้พ่อแม่เสียใจมานับครั้งไม่ถ้วน จนได้มาเป็นพระเอก ที่ประสบความสำเร็จเกือบทุกด้าน พร้อมกับเผยชีวิตรัก จนเกือบจะล้มไม่เป็นท่า และคติสอนใจกับวันไนท์สแตนด์ที่เคยเจอ ในรายการ คลับ ฟรายเดย์ โชว์ based on celeb story ทางช่อง GMM25 โดยเจ้าตัวเล่าทุกเรื่องแบบไม่มีกั๊กให้ฟังว่า

ตอนที่มีข่าวกับสาวประเภทสอง?

คือมีคนส่งรูปผู้หญิงคนนี้มาให้ผม ตอนแรกที่เห็น เค้าสวยดี สวยมาก แล้วชวนมาหาที่คอนโด ตอนนั้นเรายังไม่ไป เราก็ไปเสิร์ชหารูป เจอรูปเค้าแก้ผ้าหมดเลย เห็นนม แต่เป็นไอน้ำบังในห้องน้ำ รูปนี้คือปัญหา

เค้าให้เราไปหาที่คอนโด เราก็ไม่กล้าไปคนเดียว เราก็ให้เพื่อนขับตามไป เค้าเดินมาขึ้นรถผมไม่เกิน 2 นาที แต่เค้าไปให้ข่าวครั้งแรก ว่าขึ้นไปอยู่บนรถผม 1 ชม. ให้ข่าวครั้งสองบอกขึ้นไปบนรถอยู่ 2 ชม. ครั้งสามบอกนอนกับเค้า ผมเลยบอกเค้ากลับไปว่า ถ้าไม่เป็นเรื่องจริง จะฟ้องกลับ 10 ล้าน ไปดูกล้องวงจรปิดที่บ้านได้เลย ว่าเข้าออกบ้านเวลาไหน เป็นเวลาห่างกันกี่นาที

...

ซึ่งตอนนั้นผมก็เครียดนะ ที่เป็นข่าวหนักขนาดนี้ แล้วแฟนก็ไม่เข้าใจ ผมก็บอกว่า คุณก็น่าจะรู้นะว่าผมเป็นผู้ชาย ผมชอบอะไร ชอบแบบไหน พูดอธิบายจนเค้าก็เข้าใจเหมือนเดิม ถามว่า ถ้าบังเอิญ คนนั้นเค้าเป็นผู้หญิงแท้ จะเอามั้ย คือผมไม่ชอบวันไนท์ ถ้าเป็นผู้หญิงจริงๆ ผมขอคุยก่อน 2 วันก็ยังดี จะได้เรียนรู้กันก่อน

ส่วนผลกระทบ มันมีนิดหนึ่งนะ คนมองเราเปลี่ยนไป สังคมโซเชียลน่ากลัว จะมีคนไม่ยินดียินร้าย รอด่าอย่างเดียว แต่ผมจะมี 4-5 วงที่ผมแคร์ และผมอยู่ตรงกลาง คือพ่อแม่ ญาติ เพื่อนสนิท นอกนั้นผมไม่แคร์ใครเลย

ถ้าถามว่า เป็นผู้ชายเจ้าชู้มั้ย ผมต้องถามกลับว่า เจ้าชู้ในที่นี้คืออะไร ถ้าเราไม่มีแฟนสามารถเรียนรู้ได้เรื่อยๆ ถามว่าคบซ้อนมั้ย เราต้องดูผู้หญิงอีก การที่สามารถคุยแล้วผู้หญิงก็เล่นด้วยกับเรา ก็เป็นอีกแบบ ยอมรับว่าเคยคบมากกว่า 1 คนครับ

มีวิธีจัดการยังไงกับคนที่เข้ามา?

ณ ตอนนี้ คนจะบอกว่าเวลาไปเที่ยวทริปขี่มอไซค์ คนจะบอกว่า อาร์ตมันต้องได้ผู้หญิงทุกจังหวัด แต่ผมเปลี่ยนความคิดใหม่ คืออยากอยู่กับเพื่อน แฮงเอาต์ กิน เมา นอนหลับ ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ผมอยากจะเข้าไปหาเค้า นั่งมองแบบอยากได้ จนกลายเป็นว่าเบื่ออัตโนมัติ เลิกเที่ยวผับมา 5-6 ปีแล้วครับ เพราะเบื่อ

ตอนเด็กๆ เราแสบขนาดไหน ยังไง?

ที่ผ่านเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ทำอะไรทำหมด ยกเว้นขายยา ผมเคยฟันกัน เอาปืนยิงกันมาแล้ว เป็นนักเลงแต่ไม่เป็นอันธพาล เรื่องที่เกิดเป็นเรื่องของเพื่อนนะ ไม่ใช่เรื่องของผมเลย เหล้ายาปลาปิ้งมาหมดแล้ว

ผมเป็นคนรักเพื่อนมาก ใช้ชีวิตเสี่ยงมาก ทุกอย่างเลย แข่งรถมอไซค์คว่ำจนแผลเป็น ผมอยู่มหาชัย แล้วค่อนข้างเป็นเด็กที่บ้านไม่มีตังค์ ทำยังไงให้อยู่ได้ คือต้องใจถึง ไม่งั้นโดนรังแก จะเป็นเบ๊เลย คือพ่อค่อนข้างเป็นนักเลงพอสมควร จะสอนยิงปืน ต่อยมวย ทำไมต้องไปยอมแต่เด็ก

เกเรมาเรื่อย โดนไล่ออกตั้งแต่ ม.2 ไปต่อ ม.3 ปวช. ต่อยกับครู เรียนมหาลัยก็ต่อยกับครูอีก ในโซเชียลถามว่า นี่เหรอนิสัยพระเอก ที่ผมพูดเพราะผมอยากให้เป็นแบบอย่าง อย่าทำตาม

ที่เปลี่ยนจริงๆ ตอนโดนไล่ออกตอน ปวส. ไม่กลับบ้านเป็นเดือน ผมหนีเที่ยวตั้งแต่อายุ 14 พ่อไม่ตามแล้ว วันนั้นคิดยังไงไม่รู้กลับไปนอนบ้าน บอกพ่อขอตังค์ไปเรียนหน่อย พ่อถามจะไปไหน บอกไปเรียน

พ่อบอกโดนไล่ออกแล้ว แล้วเค้าตบเรา คือพ่อดุมาก เราคิดว่าเค้าจะตบเราอีก แต่เค้าเดินไปในห้อง เราก็เดินตาม เห็นพ่อเดินไปหยิบปืนในห้องนอน ในหัวคิดอยู่ 3 อย่างคือ หยิบปืนยิงเรา หยิบปืนให้เราไปเกเร และยิงตัวเอง พอเห็นเท่านั้นแหละก้มกราบเลย เพราะคิดว่าเค้าจะหยิบปืนยิงตัวเอง

...

จากนั้นผมก็ทำงานหาเงินมาช่วยที่บ้าน ปลูกบ้านหลังแรกให้พ่อตอนอายุ 20 ตอนนั้นขายแผ่นซีดี เป็นดีเจตามผับ เรารู้จักคนเยอะ ก็ได้ทำงานตามผับ คนที่เค้าชอบเราก็ทิปให้เราหนักๆ หน่อย ตอนนั้นทำงานได้เดือนละ 5-6 หมื่นนะ

เรื่องความรัก?

อย่างแรกชอบผู้หญิงห้าว เพราะรู้ว่าเราเป็นคนไม่ชอบอ้อน ต้องเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างห้าวพอสมควร หวานนิดนึง ขนคิ้วเยอะๆ ไม่รู้โรคจิตรึเปล่า ยิ่งไรขนเยอะๆ เห็นแล้วโคตรน่ารักเลยอะ

จริงๆ มีแฟนแต่ไม่ได้จริงจังตั้งแต่ประถม มีคนแรกตอน ม.2-ม.3 เค้าเป็นดรัมเมเยอร์ เหมือนชอบกันไปกันมา จีบไปมาปีนึง มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกคือไม่เคยโดนตัว หรือจับมือแม้แต่ครั้งเดียว เหมือนทะนุถนอมเค้า พอเราย้ายโรงเรียนก็เลยห่างกัน และเลิกกันเพราะความไกล

แล้วมารู้ข่าวอีกทีเลิกกับผมไม่ถึงเดือน เค้าไปมีอะไรกับคนอื่น ก็เลยคิดว่าแล้วที่ถนอมมาเพื่ออะไร ก็เลยมีความคิดแปลกๆ ว่า ไม่รู้อะ ถ้าคบต้องได้ก่อน

ที่เป็นจริงจังอีกคน คือคนนี้เป็นแฟนเก่าของเพื่อน เค้าน่ารักดี แต่เพื่อนตาย โดนรถชน เกิดอุบัติเหตุ วันหนึ่งมาเจอกัน ก็ตีเนียนแกล้งไปคุย คุยไปมาด้วยความที่บ้านเค้าไกล คุยกัน 7-8 เดือนเกือบปี ก็เลิกกัน แล้วก็จบไป

...

ผมจะเป็นผู้ชายแปลกก็คือ ถ้าผู้หญิงไม่นิ่ง คือไม่ได้คบเราแค่คนเดียว ยึกยักกับเรา ผมจะไปคุยกับคนอื่นเลย คือเมื่อไหร่ที่เลิกคนนี้ ผมสามารถไปต่อได้เลย

แฟนผมที่มีในชีวิตจริงๆ ผมว่ามีไม่เกิน 7-8 คน ยอมรับว่ามีแฟนไม่เยอะเท่าไร แต่เป็นคู่นอนนี่เยอะมาก ไม่ใช่แบบวันไนท์นะ แต่พอคุยกันไป พอเจอช่วงว่างก็นัดเจอกัน

อาจจะไม่ได้เป็นแฟน ส่วนใหญ่เราจะเป็นดอกไม้ริมทาง เค้าเด็ดแล้วเค้าก็ไป คือเราก็ตกลงกันแล้วว่า จะให้มากได้แค่ไหนระหว่างคู่นอนกับแฟน ซึ่งเค้าก็เข้าใจกัน ว่าอยู่ในสถานะไหน

แฟนคนที่ 3 นี่เด็กมากเรียน ม.2 แต่ผมอยู่ ปวช. แล้ว ผมเป็นแฟนคนแรกของเค้า คนนี้คบนานเป็นปีเลย เค้าเป็นเด็กน่ารักคนหนึ่งเลยนะ ใสๆ แต่เค้าอาจจะไปหลงผิดกับคำพูดของเพื่อนของพี่เค้าหลายๆ คน คือติดเที่ยว ติดยาเสพติด คนนี้มีเพื่อนผมหลายคนจีบนะ แต่จีบไม่ติด ผมไปจีบก็ติด ขอเค้าอย่างเดียวว่า อย่านะ อย่าไปลองของพวกนั้น

วันนั้นเริ่มเห็นคือเค้าหนีเที่ยว เรานอนอยู่ เช้ามาเพื่อนก็บอกว่าเห็นแฟนเราหนีเที่ยว เราก็บอกไม่จริง นอนอยู่บ้าน เพราะเพิ่งไปส่งที่บ้าน ผมเลยไปแอบดูที่ผับ ไปเจอเค้าเที่ยวอยู่ ตบตรงนั้นเลย คือผมเคยบอกเค้าแล้วนะ เคยขอเค้าแล้วว่า เรื่องพวกนี้อย่าทำ

...

เพราะตัวผมเอง บุหรี่ยังไม่ดูดเลย ผมเคยขอให้เพื่อนดูดม้าให้ดูนะว่ามันเป็นยังไง แต่ผมเห็นแล้วก็คือไม่รู้สึกชอบอะไร ก็เตือนแฟนผมว่าอย่าทำแบบนี้ แต่มาเจอเค้าหนีเที่ยวแบบนี้ เลยตบกลางผับที่มหาชัยเลย ถ้าใครเคยอยู่ที่นั่นจะรู้ว่าสังคมที่นั่นเป็นยังไง

หลังจากที่ทะเลาะกันก็มีทำร้ายร่างกายนิดหน่อย เพราะเราคุมไม่ได้ เค้าก็ถามทำไมต้องทำเค้า ผมก็บอกเพราะหนูไม่ฟังพี่ เค้าก็โอเคว่าจะไม่ทำ ต้องโทษสังคมที่นำพาให้เค้าเป็นอย่างนี้

วันหนึ่งผมก็เริ่มสงสัยว่าทำไมถึงไม่มาหาเราที่บ้าน เลยไปหาเค้าที่บ้าน ไปส่องดูในบ้าน บ้านเค้าเป็นบ้านไม้ จะมีรูที่มีแสงไฟลอดออกมา เราก็ไปแอบยืนส่องเงียบๆ เห็นพี่สาวเค้ากำลังลนม้าดูด เราก็ภาวนาในใจว่าอย่านะ

ยืนดูเงียบๆ เห็นแฟนกำลังลนดูด ผมก็นั่งนอยด์สักพัก จนพี่สาวเดินออกมานอกห้อง เราก็เดินสวนเข้าไปในห้อง แฟนก็ตกใจ เราก็ถามเค้าว่า ทำอะไรกัน เค้ารีบลนลานเก็บของ ก็ตบเลยตรงนั้น เลยรู้สึกว่า ไม่ได้แล้ว ไม่ไหวแล้ว ห้ามไม่ฟัง

ผมอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่น่ากลัวมากครับ เคยนั่งดูคนโช้คเฮโรอีน แล้วตายคาเข็ม แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่ตามเพื่อนคือ สาเหตุแรกเลยผมไม่สูบบุหรี่แต่เด็ก ตอนผมเกิดพ่อเลิกบุหรี่ ตอนพี่ชายเกิด พ่อเลิกเหล้า

ผมจะโดนปลูกฝังจากแม่ตลอดว่า รู้มั้ยพ่อเลิกเหล้าให้ เหตุการณ์ที่พ่อเดินไปหยิบปืน ถ้าเค้าฆ่าตัวตายแม่จะเป็นยังไง เพราะพ่อหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว และสิ่งที่เราขอคือ เราไม่เรียน แต่เป็นสิ่งที่เค้าต้องการที่สุด คือการเรียน ผมกลับไปเรียนจนจบ ป.ตรี ตอนที่มาเป็นนักแสดงแล้ว

มาถึงแฟนคนถัดไป แฟนคนนี้เค้าเป็นคนดึงผมเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่ดี ตอนผมเป็นนักร้องที่ผับ ผู้หญิงคนนี้เค้าเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตตัวผมใหม่ทั้งหมด ให้ผมรู้จักวงการกลางคืน คบกันมา 7 ปีเลยนะ

ตอนที่ผมเริ่มทำงานกลางคืนจะวอกแวกมาก แต่เค้าให้อภัยทุกอย่าง เค้าค่อนข้างจะเป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟกต์ที่สุดในชีวิต แต่จุดพลิกคือ เค้ามาขอเราไปทำงานที่ต่างประเทศ 

เราก็อย่าเลย ไม่ให้ไป เพราะเห็นเพื่อนเค้าไปแล้วกลับมาได้สามีทุกคน เค้าขอไป 3 เดือน เราก็ไม่ให้ไป และบอกจะโทรมาหาทุกวัน สมัยนั้นเป็นโทรไม่มีไลน์ เค้าก็ไปทำงาน แรกๆ ก็โทรหากันเกือบทุกวัน เดือนที่ 2 เริ่มห่าง เดือนที่ 3 ก็เริ่มห่างไปอีก

เราก็ถามเกิดอะไรขึ้น ก็ตงิดๆ ถามว่าทำไมไม่โทรหาเลย เริ่มทะเลาะกัน พอใกล้จะกลับครบ 3 เดือน เค้าก็โทรมาขออยู่ต่ออีก 3 เดือน เราก็ไม่โอเค ให้กลับมาตอนนี้ ไม่งั้นจะเลิก

ต้องบอกว่าผู้หญิงคนนี้ทนผมได้ ขนาดผมไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น มีคนอื่น เค้ารู้ แต่เค้าไม่ตามผมเลยนะ นิ่งมาก พอเข้าเดือนที่ 4 เค้าก็โทรมาบอกเค้าท้อง เราตกใจมาก เกิดอะไรขึ้น เหมือนเราอยู่คนเดียว ก็เลิกกัน มีแฟนเก่าที่ยังติดต่อกันแบบเพื่อนได้ 2-3 คน

ตอนที่เข้าวงการใหม่ๆ นั้นยังโสด ได้เจอกับน้องดารา คนที่ทุกคนก็รู้ว่าใคร เป็นเรื่องแรก เค้าเป็นนางเอกก่อน ผมเป็นตัวกิ๊กก๊อก จนเรื่องที่มาเป็นพระเอกนางเอกคู่กัน เค้าน่ารัก และห้าว ต้องบอกว่าน้องเป็นคนน่ารักเลยคนหนึ่ง

ถามว่าทุกวันนี้ผมก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่มันคงไม่ได้เป็นการโคจรกลับมาเป็นแฟน แต่ในความหวังดีเป็นพี่น้องกัน มันเป็นแบบนั้นมากกว่า ถามว่าเป็นคนขี้หึงมั้ย ขี้หึงครับ ระดับ 7 เลย แต่เป็นคนมีเหตุผล

อย่างเช่นขอไปแฮงเอาต์กับเพื่อน ถ้ามีผู้ชายก็ไม่ให้ไป เพราะมันเมาและควบคุมไม่ได้ ผมถึงบอกว่า ผมไม่ชอบวันไนท์สแตนด์ เพราะผมไม่รู้ว่า ผู้หญิงพวกนั้นเค้าจะเอาอะไรมาติดผมบ้าง

ผมจะป้องกันตัวเองก่อน ถ้าไม่มีก็ไม่เอา ทุกครั้งที่จะใส่ ผมจะเอามาเอง เพราะผมเคยเจอเพื่อน เค้าไปห้องผู้หญิง แล้วเจอผู้หญิงเจาะถุงยาง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นเค้าเป็น เอชไอวี ตื่นเช้ามา ผู้หญิงคนนั้นเขียนบนกระจกว่า ยินดีต้อนรับสู่โลกของเรา จากนั้นที่เพื่อนเล่ามา ผมก็ไม่เอาเลย แล้วเค้าก็เป็นเอชไอวีเลยนับแต่นั้นมา

ตอนที่คบกันน้องคนนี้มีแผนไปถึงจะแต่งงาน ตอนนั้นคบกันมา 6 ปี เกือบ 6 ปีแล้วมีปัญหา ตอนนั้นเราอาจจะเกเร แต่เราไม่รู้ตัว

ในวันนี้พร้อมที่จะมีแฟนแล้วซื่อสัตย์กับเค้า อย่าเรียกว่ามีแฟนเลยครับ อยากมีลูกเลยด้วยซ้ำ แต่หาแม่มันไม่ได้ เพื่อนรอบตัวมีลูกหมดแล้ว แต่อย่างที่บอก เราอาจจะผ่านสังคมมาเยอะ

มีผู้หญิงเสนอตัวมาให้ ผู้หญิงที่แลกด้วยเงิน ผมก็คิดมากคิดเยอะ เพราะผมเคยอยู่ตรงนี้มาก่อน ว่าถ้าเราไม่รู้จักเค้ามาก่อนเลย แล้วเค้าเคยทำงานแบบนั้นมาก่อน จะทำยังไง

ความรักครั้งนี้เสียใจมากที่สุด แต่มันเป็นเพราะอะไรทุกคนคงอ่านข่าวมาแล้ว แต่ผมจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ผมกับน้องเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เล่นละครด้วยกันปกติ

ตอนนั้นที่เพิ่งเลิกกันใหม่ๆ ผมเหมือนคนบ้าเลย กว่าผมจะกลับมาเป็นคนที่เกือบปกติ ใช้เวลาปีกว่าเกือบ 2 ปี ตอนเลิกกันผมเครียดมาก กินอะไรไม่ได้เลยอยู่ 8 เดือน คือผมไม่ได้เป็นคนเฮิร์ต ถ้าเมื่อไหร่ที่คิดถึงก็จะโดดเข้าเวท นอนวันละชั่วโมงสองชั่วโมง ถ้านอนไม่หลับก็จะขับรถไปแอบดูที่บ้านเค้าว่าทำอะไรยังไง คือพฤติกรรมไม่ต่างจากคนบ้าเลยจริงๆ 

คนเรามันจะมีกฎ 1 ข้อที่รู้สึกว่าไปไม่ได้ ทุกวันนี้น้องจะเป็นคนน่ารักสำหรับผม หึงมั้ยที่เค้าไปมีแฟน ดีใจด้วยที่เค้ามีแฟน ตามโซเชียลว่าเราเป็นนั่นนี่ เราไม่ได้คิดแบบนั้นเลย จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็มีคนคุยบ้าง ไม่เยอะเลย

อยากจะบอกอะไรหลายๆ คนที่อยู่ตรงนั้น ที่เป็นเหมือนอาร์ตตอนเด็กๆ? 

ไม่ว่าจะเจออะไรในสิ่งที่ผ่านมา มีคนที่รอผมได้คือพ่อกับแม่ ผมเที่ยวผับยันตีสาม มีแม่ไปขับมอเตอร์ไซค์ไปนั่งรอเรา เราเดินเมาออกมา เค้าก็บอกว่า กลับบ้านบ้างนะลูก ไม่ว่าเราจะเกเร เค้าจะคอยซัพพอร์ตเราตลอด

เค้าเคยพูดว่า ไม่ว่าอาร์ตจะเกเรยังไง เราก็เป็นลูกเค้า บางทีแม่ก็ดุ เค้าจะแอบมาตีแทนพ่อ เพราะพ่อดุมาก กลัวจะตีเราแรง เค้าซัพพอร์ตเราเยอะมาก เคยบอกว่า คนจะตกนรกเพราะทำพ่อแม่ร้องไห้ ผมคงอยู่ขุมสุดท้าย แต่ผมจะไม่แก้ไขอดีต แต่ผมจะทำให้วันหน้า เค้าไม่ลำบากแบบที่ผ่านมา

สิ่งที่อยากจะบอกคือ ไปหาคนที่รักเรามากที่สุดคือพ่อกับแม่ อย่าไปหาคนอื่นนะ คนอื่นอาจจะยุยงให้เราทำผิด แต่คนสุดท้ายที่อยู่ในบั้นปลายชีวิตเราคือพ่อกับแม่

เพื่อนผมหลายคนที่แข่งรถ กินเหล้าเมายาจนพิการ แต่คนสุดท้ายก็คือพ่อแม่ที่คอยดูแลเค้า อย่างที่บอก ดูคนที่รักเรามากที่สุดในชีวิต และดูแลเค้าให้ดีๆ แค่นี้ก็เป็นเรื่องที่ประเสริฐที่สุดแล้ว

มองอนาคตจากตรงนี้ไปจะเป็นยังไง? 

ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระ ก็ยังรับใช้ค่ายเดิมครับ แต่ขอออกมาหาประสบการณ์ข้างนอกดีกว่า ที่จะพัฒนาตัวเราในอนาคตได้ กะว่าจะทำงานเต็มที่อีก 2 ปี ให้ผ่อนบ้านหมด แล้วจะบวช คือที่ผ่านมาผมไม่เคยมีความคิดว่าจะบวชเลยนะ

เคยมีคนทักเหมือนกันว่า ผมจะบวชตลอดชีวิตไม่สึก ซึ่งตอนนั้นผมก็มองว่าจะเป็นไปได้ยังไง จนมาเลิกกันน้อง แล้วหันไปพึ่งธรรมะพบว่ามันมีความสุขดี แต่ถ้ายังไงพ่อแม่ยังอยู่ ก็ไม่ทิ้งเค้าให้หากินเองแน่นอน ต้องอยู่ดูแลจนเค้าจะไม่อยู่แล้ว

เคยมีคนมาสบประมาทนะ ว่าเลี้ยงลูกยังไง ถึงเป็นอย่างนี้ แต่มาตอนนี้ พี่เลี้ยงลูกยังไง ถึงเลี้ยงลูกดีแบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจ ที่ลบคำสบประมาทได้.