นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาสัมปทานโครงการถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี 34.5 กม. วงเงิน 54,000 ล้านบาท และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. วงเงิน 52,000 ล้านบาท ที่มีผู้ชนะการประมูลคือ BSR Joint Venture ประกอบด้วยบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมกับอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีในลักษณะการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีไม่เกิน 5 ปี คาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ เปิดใช้งานในปี 63
ส่วนข้อเสนอเพิ่มเติมที่บีทีเอส กรุ๊ป ได้เสนอที่จะต่อเชื่อมสายสีชมพู โดยเชื่อมจากถนนแจ้งวัฒนะเข้าไปยังเมืองทองธานี ระยะทาง 2.8 กม., ส่วนสายสีเหลือง จากสถานีลาดพร้าว MRT ไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวบริเวณแยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กม. นั้น ส่วนเชื่อมต่อดังกล่าวไม่ได้อยู่ในกรอบมติ ครม.ที่อนุมัติไว้ แต่ในร่างประกาศเชิญชวนให้ยื่นข้อเสนออื่นๆได้ ดังนั้น จะไม่มีการนำข้อเสนอดังกล่าวใส่ไว้ในแนบท้ายสัญญา แต่จะเขียนไว้ในภาพกว้างๆในสัญญาหลัก ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องศึกษาความเหมาะสมของโครงการ และดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 2556
ด้านนายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการ รฟม. ในฐานะรักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า การดำเนินการส่วนต่อขยายทั้ง 2 โครงการนี้ กำหนดกรอบว่าจะต้องจัดทำรายละเอียดตามขั้นตอนและเสนอขออนุมัติจาก ครม.ภายใน 3 ปี 3 เดือน หากไม่ดำเนินการถือว่าเป็นการยกเลิกข้อเสนอนี้ไป.
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล