"วรงค์" ยก 4 เหตุสังคมไทยต้องรู้เท่าทัน "ปู-พท." ปมเสียหายจำนำข้าว ที่วันนี้ศาลปกครองกลางเรียกไต่สวน จะมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราวหรือไม่ ดักทางอย่าโยงปมปรองดอง ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการศาล

วันที่ 26 ม.ค. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขึ้นศาลปกครอง" ว่า วันที่ 26 ม.ค.เป็นวันที่ศาลปกครองกลาง เรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาไต่สวนเพื่อที่ศาลจะนำข้อมูลไปพิจารณาว่า จะกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน มูลค่า 35,717 ล้านบาท เอาไว้ก่อน จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นขอหรือไม่ ซึ่งประเด็นเรื่องค่าเสียหายจำนวนนี้ ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกคณะกรรมการรับผิดทางแพ่งเรียกนั้น มีมุมมองที่ประชาชนต้องติดตาม คือ 1. ฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย พยายามสื่อกับสังคมว่า เป็นการทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา เพื่อต้องการช่วยเหลือชาวนา จึงไม่ควรมาคิดเป็นกำไร ขาดทุน ซึ่งการดำเนินนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน ย่อมต้องมีการใช้จ่ายนั้น ไม่มีใครว่า แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นของคดีจำนำข้าว คือ การทุจริตของฝ่ายการเมือง รวมทั้งผู้ใกล้ชิด หรือการปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ทำให้เงินถึงมือชาวนาไม่เต็มที่ต่างหาก ที่ต้องมีผู้รับผิดชอบ

2. ฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย พยายามอ้างว่าเป็นเรื่องต้องการกลั่นแกล้งทางการเมือง ซึ่งทุกนโยบายที่แถลงผ่านรัฐสภานั้น เป็นการเมืองทั้งสิ้น ถ้าทำด้วยความโปร่งใส ประโยชน์ถึงมือประชาชนเต็มที่ ก็ไม่มีใครทำอะไรได้ ขณะเดียวกันแม้จะเป็นรัฐบาลอื่นๆ ที่ดำเนินนโยบายแล้วนำไปสู่การทุจริต สร้างความเสียหาย ก็ต้องถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน

นพ.วรงค์ ระบุต่อว่า 3. ก่อนหน้านี้ เรื่องการเรียกค่าเสียหาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยไปร้องขอความเป็นธรรมผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ หลายครั้ง ร้องผ่านปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อต้องการสื่อว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ร้องแล้วไม่ได้รับการตอบสนอง เนื่องจากกฎหมายความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ กำหนดว่าให้ร้องขอความเป็นธรรมผ่านศาลปกครอง ดังนั้นการร้องผ่านบุคคล จึงเป็นการร้องที่ไม่ถูกกระบวนการ เพียงเพื่อหวังผลทางการเมืองว่าไม่ได้รับความสนใจ แต่เมื่อมาร้องผ่านศาลปกครอง ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ศาลก็รับไว้พิจารณาเพื่อให้ความเป็นธรรมและนัดไต่สวน

...

4. น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย พยายามโยงเรื่องค่าเสียหาย 35,717 ล้านบาท ว่าต้องรอคำตัดสินคดีอาญาก่อน รวมทั้งเรียกร้องให้เป็นการฟ้องแพ่งแทนนั้น ในความเป็นจริง การกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่อไปในทางประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องดำเนินการตามแนวทางนี้ แม้จะอ้างว่าเป็นการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็สามารถขอความเป็นธรรมผ่านศาลปกครองได้ ตามที่ดำเนินการขณะนี้ ทั้งหมดเป็นประเด็นที่สังคมต้องรู้เท่าทัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย รวมถึงกระบวนการปรองดองกรณีทุจริตของฝ่ายการเมือง ก็ควรที่จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของศาล และทุกฝ่ายเคารพคำตัดสิน ไม่ควรที่จะมีการไกล่เกลี่ยแล้วจบกัน เพราะการทุจริตนำไปสู่ความเสียหายของประเทศอย่างร้ายแรง.