เสี่ยใหญ่เจ้าของผับดังบนเกาะสมุย ปืนจ่อยิงหัวเพื่อนสนิท เจ้าของธุรกิจอพาร์ตเมนต์-เต็นท์รถดับ! คาดปมถกปัญหาค่าหนี้สิน หลังเกิดเหตุ ผตห.ขังตัวเองในผับ จนท.พยายามเจรจาแต่ไร้ผล รอจนเช้าบุกเข้าร้าน พบเป็นศพ ใช้ปืนยิงตัวเองตายตาม
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 18 ส.ค.59 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิตพื้นที่ถนนสายเลียบหาดเฉวง ม.2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยที่เกิดเหตุอยู่ภายในผับชื่อ โซโลบาร์ เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนผู้ก่อเหตุยังคงหลบซ่อนอยู่ภายในร้าน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เทเวศน์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก.สภ.บ่อผุด รับทราบ พร้อมกับแจ้ง พ.ต.ท.เด่นดวง ทองศรีสุก รอง ผกก.ป.สภ.บ่อผุด พ.ต.อ.อภิชาต จันทร์สำเร็จ สวป.สภ.บ่อผุด พ.ต.ต.ชัชชีวิน นาคมุสิก สวป.สภ.บ่อผุด ร.ต.อ.กันตภน ศรีสุขใส ร้อยเวรสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ เป็นผับชื่อดังชื่อ โซโลบาร์ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายชูลิต โสมะเกิด อายุ 44 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ที่ก่อเหตุคือ นายสำเริง ทองพัฒน์ อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ม.2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของผับดังกล่าว หลังก่อเหตุได้หลบซ่อนตัวอยู่ในร้าน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังปิดล้อมเพื่อจับกุมผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุมอบตัวนานหลายชั่วโมงแต่ไร้ผล
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังไว้คอยจนสว่าง จึงตัดสินใจเข้าทำการจู่โจมจับกุม เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน และอาจจะยิงต่อสู้ขณะเข้าจับกุมได้ โดยได้มีการปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุจนถึงเวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้ยุทธวิธีบุกเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ โดยการพังประตูเข้าไปภายในห้องที่ผู้ก่อเหตุหลบซ่อนอยู่ ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสำเริง ได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวตายหนีความผิดไปก่อนหน้านี้แล้ว มีบาดแผลกระสุนปืน ขนาด 9 มม. บริเวณศีรษะ 1 นัด โดยในมือยังกำอาวุธปืนที่ก่อเหตุอยู่
...
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่ไม่ให้ผู้สื่อข่าวและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุเกิดจากผู้ตายทั้ง 2 เป็นเพื่อนสนิทกัน นายชูลิต ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร เจ้าของอพาร์ตเมนต์ให้เช่า และเจ้าของเต็นท์รถจำหน่ายรถ ได้เดินทางมาพบ นายสำเริง ที่ผับดังกล่าว เพื่อพูดคุยปัญหาเรื่องหนี้สินกัน โดยคาดว่าทั้ง 2 คน น่าจะมีปากเสียงกัน ทำให้ นายสำเริง ใช้อาวุธปืนยิงนายชูลิตจนเสียชีวิต แล้วขังตัวเองไว้ในห้องของผับดังกล่าว
ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีพตัวเอง เพื่อหนีความผิด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมหลักฐาน และสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อย่างแน่ชัดอีกครั้ง.