พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ประกาศว่าขณะนี้ประเทศ ไทยได้ผ่านพ้นวิกฤติภัยแล้งอย่างชัดเจน

เนื่องจาก “เอลนีโญ” ที่เป็นตัวการทำให้เกิดวิกฤติภัยแล้งรุนแรงติดต่อกัน 2 ปี ได้ย้ายสำมะโนครัวพ้นประเทศไทยชั่วคราว

ทีนี้จะถึงคิว “ลานีญา” ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกชุกสลับฉากเข้ามาแทน

ซึ่งจะทำให้ปริมาณฝนกลับมาใกล้เคียงกับสภาพปกติซะที

“แม่ลูกจันทร์” ถือว่าเป็นข่าวดีต้อนรับเทศกาลเข้าพรรษาที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ช่วงนี้จะมีฝนตกเติมนํ้าในเขื่อนเพิ่มขึ้นก็จริง

แต่สภาพนํ้าในเขื่อนหลัก 33 แห่ง ยังน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล ยังมีนํ้ากระจุ๋มกระจิ๋มแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ของความจุเขื่อนเท่านั้นเอง

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า ผลจากวิกฤติภัยแล้งรุนแรง 2 ปีติดกัน ทำให้นํ้าสำรองจากเขื่อนใหญ่ 4 เขื่อนหมดเกลี้ยงจนถึงก้นกะละมัง

ยังมีความจำเป็นต้องสะสมนํ้าต้นทุนที่เหลืออยู่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ให้เพิ่มขึ้นเป็น 50 เปอร์เซ็นต์

กรมชลประทานตั้งเป้าว่า ปีนี้ต้องเก็บนํ้าต้นทุนให้ได้ 7,000 ล้าน ลบ.เมตร จึงจะอยู่ในระดับปลอดภัย

เพื่อให้มีนํ้าสำรองใช้ถึงสิ้นฤดูแล้งปีหน้าอีก 4,000 ล้าน ลบ.เมตร

หรือมากกว่าปริมาณนํ้าที่ใช้ในช่วงภัยแล้งปีนี้เท่าตัว

พล.อ.ฉัตรชัย ประกาศว่า กระทรวงเกษตรฯยังต้องควบคุมการระบายนํ้าออกจากเขื่อนไว้เท่าเดิมคือ ไม่เกิน 18 ล้าน ลบ.เมตรต่อวัน

ฉะนั้น รัฐบาลจึงต้องจำกัดพื้นที่ปลูกข้าวไม่ให้มากเกินควร

เพื่อลดพื้นที่ทำนาทั่วประเทศจากเดิม 68 ล้านไร่ ให้เหลือไม่เกิน 55 ล้านไร่

เพื่อลดผลผลิตข้าวทั้งนาปีและนาปรังจาก 30 ล้านตัน ไม่ให้เกิน 27 ล้านตัน

...

พูดง่ายๆคือ ใช้นโยบายคุมกำเนิดไม่ให้ผลผลิตข้าวล้นตลาดเกินไป เพื่อไม่ให้พี่น้องชาวนาไทยต้องขายข้าวขาดทุนอย่างที่ผ่านมา

“แม่ลูกจันทร์” ไม่แน่ใจว่าปัญหาชาวนาขายข้าวไม่ได้ราคา หรือทำนาขาดทุน เป็นเพราะผลผลิตข้าวมากเกินความต้องการของตลาด?

หรือเพราะถูกพ่อค้าข้าวเอารัด เอาเปรียบกดราคาข้าวชาวนา??

แต่เอาเถอะ ในเมื่อ พล.อ.ฉัตรชัย มั่นใจว่ามาตรการลดพื้นที่ปลูกข้าวจาก 68 ล้านไร่ ให้เหลือ 55 ล้านไร่ จะทำให้ชาวนาไทยมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีละ 45,000 บาท เป็นปีละ 90,000 บาทต่อครัวเรือน

“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่า ถ้าการลดพื้นที่ปลูกข้าวทำให้พี่น้องชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าจริงก็น่าชูจั๊กกะแร้เชียร์

วิธีการลดพื้นที่ปลูกข้าวของ พล.อ.ฉัตรชัย ก็ตรงไปตรงมา

คือรัฐบาลจะควักกระเป๋าจ้างชาวนา “บางพื้นที่” ให้หยุดปลูกข้าวนาปรังในอัตรา 1,000 บาทต่อไร่ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตข้าวลดลงเห็นผลทันตา

คำถามก็คือ รัฐบาลจะจ้างชาวนาหยุดปลูกข้าวนาปรังปีนี้ปีเดียว?

หรือจะจ้างเป็นประจำทุกปี??

เพราะถ้าจ้างชาวนาหยุดทำนาปรังทุกปีก็เป็นภาระรายจ่ายก้อนโต

แต่ถ้าจ้างชาวนาหยุดปลูกข้าวนาปรังปีเดียว แล้วปีหน้าจะทำอย่างไรต่อไป??

ขอรบกวน พล.อ.ฉัตรชัย รมว.เกษตรฯ ได้โปรดชี้แจงให้ชัดเจน

ป.ล.นี่ไม่ใช่แกล้งถามเล่นๆ แต่ถามจริงๆนะคุณโยม.

"แม่ลูกจันทร์"