ยุคนี้ถ้าอยากก้าวหน้าเร็วมีเงินเดือนสูง ก็ต้องกระโดดเข้าไปทำงานในแวดวงบริษัทที่ปรึกษากลยุทธ์ธุรกิจข้ามชาติ หรือไม่ก็อุตสาหกรรมไฮเทค เพราะเป็นตลาดแรงงานที่ยอมทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อแย่งซื้อตัวคนเก่งๆมีความสามารถ เงินเดือนจึงสูงลิ่วชนิดไร้เพดานขวางกั้นให้เซ็งจิต!!

เว็บไซต์การจ้างงานทรงอิทธิพลที่สุดของอเมริกา “กลาสดอร์” จัดอันดับ 25 บริษัทเงินเดือนสูงสุดในแดนมะกัน ประจำปี 2016 นอกจากจะรวบรวมตัวเลขเงินเดือนเฉลี่ยแล้ว ยังหยิบรายได้พิเศษอื่นๆมาคำนวณด้วย ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากค่าคอมมิชชั่น, โบนัส และโอที โดยบริษัทเงินเดือนสูงอันดับหนึ่งยกให้ “A.T.Kearney” บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการธุรกิจระดับโลก ตั้งอยู่ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ พนักงานที่นี่มีรายได้เฉลี่ยปีละ 167,534 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 6.03 ล้านบาท ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทใหญ่ที่สอบเข้าทำงานยากที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกา และเป็นบริษัทในฝันของบัณฑิตจบใหม่ เพราะมีครบทั้งความมั่นคง, อนาคตก้าวหน้าทางการงาน, เงินเดือนสูง แถมวัฒนธรรมองค์กรยังเจ๋งซะด้วย ทำให้พนักงานส่วนใหญ่รักและภักดีกับบริษัท

บริษัทเงินเดือนสูงรองเป็นอันดับสองคือ “Strategy&”เป็นบริษัทลูกในเครือของ PwC มีออฟฟิศใหญ่อยู่ในนิวยอร์ก ร่ำรวยจากการให้บริการและรับปรึกษาวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจระดับโลก รวมถึงการประเมินโอกาสและความเสี่ยงในการลงทุนธุรกิจ พนักงานของบริษัทนี้มีเงินเดือนเฉลี่ยปีละ 160,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตกราว 5.76 ล้านบาท บรรยากาศการทำงานที่นี่เต็มไปด้วยความเคี่ยวข้น พร้อมรีดศักยภาพที่ซ่อนเร้นออกมาทุกหยาดหยด

แม้ “กูเกิ้ล” และ “เฟซบุ๊ก” จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมไฮเทค แต่เอาเข้าจริงๆแล้วสองบริษัทนี้ไม่ได้ให้ผลตอบแทนพนักงานสูงที่สุด เพราะยังมีบริษัทไฮเทคอื่นๆใจปํ้ากว่า มาแรงแบบเงียบๆยกให้ “Juniper Networks” บรรษัทข้ามชาติเจ้าแห่งนวัตกรรมการผลิตอุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กคอมพิวเตอร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996 ตั้งอยู่ในซันนีเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย ปัจจุบันมีพนักงานเกือบ 9,500 คน เงินเดือนเฉลี่ยสูงเป็นอันดับสามของอเมริกา 157,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเป็นเงินไทยได้ราว 5.65 ล้านบาท

...

เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการธุรกิจที่ตัวเลขเงินเดือนสูงลิ่ว สำหรับ “McKinsey & Company” ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนิวยอร์ก เงินเดือนเฉลี่ยของที่นี่อยู่ที่ 155,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 5.58 ล้านบาท มีแต่คนระดับหัวกะทิเท่านั้นที่จะผ่านด่านเข้ามาเป็นสมาชิกของแมคคินซีย์

ใครๆก็คงอยากรู้ว่าบริษัทไฮเทคใหญ่สุดอย่าง “Google” ซึ่งทำเงินมหาศาลจากการเป็นเสิร์ชเอนจิ้นทางอินเตอร์เน็ตที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลก จะมีฐานเงินเดือนสูงขนาดไหน “กลาสดอร์” ค้นคำตอบมาให้เช่นกัน พนักงานกูเกิ้ลได้เงินเดือนเฉลี่ยปีละ 123,331 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเพิ่งมีการปรับค่าโอทีกับโบนัสเพิ่มเพื่อป้องกันสมองไหล ทำให้รายได้เฉลี่ยขยับขึ้นไปที่ 153,750 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับเงินไทย 5.58 ล้านบาท

“VMware” เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีการผลิตระบบคลาวด์ซอฟต์แวร์ ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ พนักงานของที่นี่มีรายได้เฉลี่ย 152,133 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 5.47 ล้านบาท โดดเด่นเป็นที่ร่ำลือเรื่องสวัสดิการดีเว่อร์ จึงรั้งอันดับ 6 ของการจัดอันดับ

“Amazon Lab 126” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 เพื่อเป็นหน่วยวิจัยพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์และรูปแบบการให้บริการของเว็บไซต์อเมซอน ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกทางออนไลน์ พนักงานของที่นี่มีเงินเดือนเฉลี่ย 150,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 5.41 ล้านบาท สูงกว่าพนักงานของ “Facebook” และ “Twitter” ที่มีรายได้เฉลี่ย 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเท่าเงินไทย 5.40 ล้านบาท เลยถูกจัดอันดับอยู่ที่ 12 และ 13 สาเหตุที่จ้างถูกกว่าคนอื่นได้ เพราะชื่อเสียงของทั้งคู่ดึงดูดให้ใครๆก็อยากทำงานด้วย เลยไม่ต้องเอาเงินมาล่อเยอะ

ส่วน “ไมโครซอฟท์” ที่เคยครองแชมป์หลายสำนัก ปีนี้สู้แรงอัดฉีดไม่ไหวจริงๆ เลยหลุดไปอยู่อันดับที่ 22 เกือบรั้งท้าย เพราะจ่ายเงินเดือนให้พนักงานได้เต็มที่ 141,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเท่าเงินไทย 5.07 ล้านบาท บวกลบคูณหารแล้วถ้ากำไรยังหดตัวไม่เลิก อาจต้องฟรีซไม่ขึ้นเงินเดือนไปอีกหลายปี อย่างนี้ต้องซดใบบัวบกแก้เก๊กซิม.

มิสแซฟไฟร์