ผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันจันทร์ที่ 18 เมษายน วันแรกของการกลับมาทำงาน หลังจาก “หยุดยาว” ฉลองเทศกาลสงกรานต์ไปถึง 5 วันเต็มๆ บวกเสาร์อาทิตย์

หลังจากอ่านพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และอ่านรายละเอียดของเนื้อข่าวในบางฉบับบนโต๊ะอ่านหนังสือพิมพ์ส่วนกลางของกอง บก.ไทยรัฐ ซึ่งจะมีหนังสือพิมพ์วางเรียงอยู่ครบทุกฉบับแล้ว

ผมก็ตัดสินใจได้ในทันทีว่า วันนี้ไม่ควรเขียนถึงเรื่องอะไรอื่นอีกละ เพราะเป็นวันแห่งความสุขอย่างยิ่งของคนไทย ความสุขที่เรารอคอยมานานแสนนาน และเป็นความสุขที่หายไปจากคนไทยเสียนาน ณ บัดนี้ความสุขที่ว่านั้นได้หวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

สมควรแก่การที่จะจดบันทึกไว้ด้วยความปลาบปลื้มยินดีอย่างยิ่ง

หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ (ขอยืนยันว่าทุกฉบับ) ขึ้นพาดหัวหน้า 1 เหมือนกันหมดว่า นักแบดมินตันสาวไทย รัชนก หรือ “น้องเมย์” อินทนนท์ สามารถพิชิตนักแบดจีนคว้าแชมป์แบดมินตันหญิงเดี่ยวของสิงคโปร์มาครองได้อีกตำแหน่งหนึ่ง

ของไทยรัฐไม่ต้องพูดถึงละครับ เราเข้าใจจิตวิทยาของพี่น้องประชาชนมานมนานแล้ว และรู้ว่ากีฬาเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ของคนไทยมานานแล้ว เราจึงพาดหัวยักษ์ 3 ชั้น พร้อมรูปน้องเมย์ตัวใหญ่เบิ้มมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากหน้าต่างรถเมล์

นี่คือแชมป์ที่ 3 ติดต่อกันใน 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานับจากอินเดีย, มาเลเซียแล้วก็สิงคโปร์ที่เป็นหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับวันนี้

ถ้านับย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2559 เป็นต้นมานี่คือ แชมป์ที่ 4 ของสาวไทย

ส่งผลให้คะแนนสะสมของ “น้องเมย์” กระฉูดจนทำให้เธอจะขึ้นมาเป็นหมายเลข 1 ของหญิงเดี่ยวโลกในการประกาศอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (21 เมษายน) และจะเป็นคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าหมายเลข 1 ของโลกในกีฬาแบดมินตันมาครองได้สำเร็จ

...

ใครก็ตามที่ดูการถ่ายทอดสดผ่านทรูวิชั่นส์ จากสิงคโปร์มาเมืองไทยจะเห็นได้ว่าน้องเมย์ต้องทุ่มเททั้งความสามารถและใช้สมาธิตลอดจนสมองในการแก้เกมอย่างใหญ่หลวงกว่าจะพิชิต “ซุนหยู” คู่ชิงมือ 14 ของโลกจากจีนได้สำเร็จ

จากสกอร์จะเห็นว่า เธอแพ้ก่อนในเซตแรก (18-21) และเซตสองก็ทำท่าจะเสร็จเขา เพราะถูกนำไปพอสมควรตอนออกสตาร์ต ต้องอาศัย
ลูกใจเย็น และตีใส่จุดอ่อนของซุนหยู บังคับให้เล่นเสียเอง จนเกมกลับมาเป็นของน้องเมย์ และเอาชนะเซต 2 ไปได้ในที่สุด 21-11

สำหรับเซต 3 เรานำไปห่างมาก แต่ก็ไปหยุดรออยู่หลายแต้ม ก่อนจะพิชิตซุนหยูได้สำเร็จ 21-14 คว้าแชมป์สิงคโปร์โอเพ่นมาครอง

วินาทีนั้นเอง ที่ผมเชื่อว่าเสียงเฮจะดังขึ้นพร้อมๆกันทั่วประเทศไทย และวินาทีนั้นเอง ที่โลกโซเชียลแทบระเบิด ด้วยการโพสต์แสดงความยินดีให้แก่น้องเมย์ รวมทั้งขอบคุณน้องเมย์ที่นำความสุขใหญ่หลวงมามอบให้แก่คนไทย

เป็นความสุขที่มาชดเชยความทุกข์ได้อย่างทันท่วงที...หลังจากที่คนไทยส่วนมากตกอยู่ในภาวะแห่งสารพัดทุกข์ในช่วงหลายๆเดือนมานี้

ทุกข์จากเศรษฐกิจถดถอย จากภาวะความแห้งแล้ง ที่ทำให้ผลผลิตเกษตรเสียหาย

ทุกข์จากอากาศร้อนที่พุ่งปรี้ดเกิน 40 องศาเซลเซียส และยังทุกข์ที่เขาบอกว่า รังสียูวี บ้านเราสูงมาก คนโดนแดดมากๆอาจเป็นมะเร็งได้

แม้คนไทยที่ติดตามการเมือง ก็มีความทุกข์ เพราะส่วนมากไม่ค่อยชอบร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับอาจารย์มีชัย และเป็นห่วงว่า ถ้าไม่ผ่านประชามติแล้วจะเป็นอย่างไร? จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

แต่ในนาทีที่น้องเมย์ชนะ เราก็ลืมความทุกข์ได้ทั้งหมด และเชื่อว่าจะลืมไปได้อีกหลายวัน

ดังได้กล่าวแล้วว่า ชัยชนะในการแข่งกีฬาทำให้คนไทยมีความสุขมาแต่อดีตกาล และทุกครั้งที่คนไทยเราตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ ก็มักจะได้อาศัยชัยชนะจากกีฬานี่แหละ มาช่วยปลอบประโลมใจให้ลืมทุกข์และหันมาฮึดสู้ในเรื่องต่างๆ

รวมทั้งวันนี้ นาทีนี้ที่เราจะต้องขอบคุณ “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ ที่นำความสุขมาสู่คนไทยอีกครั้งหนึ่ง...ขอให้เธอชนะต่อไปอีกและ
ครองมือ 1 โลกไปอีกนานแสนนาน

เราจะฝันถึงเหรียญโอลิมปิก ที่กรุงริโอ ในเดือนสิงหาคม ไปพร้อมกับน้องเมย์...ได้ทองจะดีที่สุด ไม่ได้ทอง ขอเป็นเงินหรือทองแดงก็ไม่รังเกียจ...ยินดีทั้งนั้น ขอให้เป็นเหรียญโอลิมปิกก็แล้วกัน.

ซูม