นายวรรณ มหาเมฆี รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูร้อนของทุกปีพบว่า ประชาชนจะมีความต้องการการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงอื่นๆ สถิติความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดของ กฟน. เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 เวลา 13.30-14.00 น. เท่ากับ 8,755.98 เมกะวัตต์ และความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด ปี 2559 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 เวลา 14.00-14.30 น. เท่ากับ 8,464.41 เมกะวัตต์ ยังต่ำกว่าค่าความต้องการพลัง ไฟฟ้าสูงสุดของ กฟน. 291.57 เมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 3.33 ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ดังกล่าว กฟน.จึงได้ดำเนินการตรวจสอบจุดต่อของสายไฟฟ้าในระบบจำหน่ายให้มั่นคงปลอดภัย เสริมความแข็งแรงของเสาไฟฟ้าบริเวณจุดเสี่ยงต่อพายุฤดูร้อน ปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้า เช่น อุปกรณ์จำหน่ายไฟฟ้า หม้อแปลง และสถานีไฟฟ้าย่อย รวมถึงมีการซักซ้อมแผนการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถจ่ายไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดไฟตก หรือไฟดับ
นอกจากนี้ กฟน.นำระบบบริหารงานภาคสนาม FFM (Field Force Management) มาใช้ โดยผู้ ใช้ไฟฟ้าที่มีการแจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้องผ่านทาง MEA Call Center 1130 หรือ MEA Smart Life Application จะมีการแจ้งเหตุไปยังการไฟฟ้านครหลวงเขตที่รับผิดชอบผ่านระบบ FFM ทำให้แก้ไขเหตุไฟฟ้าขัดข้องได้สะดวก รวดเร็ว ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลด MEA Smart Life Application ได้แล้ววันนี้ ที่ App Store และ Google play ฟรี.