ตำรวจ 191 ตามจับกะเทยแสบ อายุแค่ 19 ปี ใช้รูปดารา คนมีชื่อเสียงตั้งรูปโปร์ไฟล์ในโซเชียล หลอกซื้อสินค้าแบรนด์เนมทางออนไลน์ ก่อนส่งสลิปปลอมให้แม่ค้า อ้างโอนเงินค่าสินค้าให้แล้ว พบทำมาแล้วหลายครั้ง ค่าความเสียหายกว่าล้านบาท ตรวจสอบประวัติพบหมายจับหลายท้องที่ เบื้องต้นแจ้งข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ...
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 ก.พ. 59 ที่ห้องประชุม ศปก.กก.สายตรวจ 191 ถนนวิภาวดี แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ท.ธนกฤต บุญเจริญ รอง ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ปียรัช เวสสะโกศล สว.งานสายตรวจ 3 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สายตรวจ บก.สปพ. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายพงศกร หรือ เหน่ง เครือพิมาย อายุ 19 ปี สาวประเภท 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ.1321/2558 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2558 ข้อหาฉ้อโกง ของสน.ห้วยขวาง โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณห้องพักเลขที่ 202 อาคารไอบิซแมนชั่น ซอยลาดพร้าว 62 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สำราญ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก ของกองกำกับการสายตรวจ ตามโครงการ You will never walk alone ว่านายพงศกร หรือเหน่ง เครือพิมาย มีพฤติการณ์สั่งซื้อสินค้าแบรนด์เนมทางออนไลน์ จากนั้นจะทำการส่งสลิปการโอนเงินปลอมให้กับผู้เสียหาย จนผู้เสียหายหลงเชื่อส่งสินค้าให้กับ นายพงศกร หรือเหน่ง อีกทั้งยังมีพฤติการณ์นำรูปสินค้าจากร้านค้าอื่นไปหลอกขายให้กับผู้เสียหาย โดยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของร้านค้าเข้าไปคุยกับลูกค้าทางออนไลน์ จากนั้นจะให้ลูกค้าโอนเงินค่าสินค้าให้กับบัญชีธนาคารของทางร้านค้าจริง นายพงศกร หรือเหน่ง จะติดต่อไปหาเจ้าของร้านว่าโอนเงินผิด หรือสั่งสินค้าจากร้านค้าดังกล่าวจริง แต่สั่งสินค้าในราคาถูกกว่า หรืออ้างว่าโอนเงินเกินจำนวนไป ให้โอนเงินกลับมาคืนด้วย เมื่อผู้เสียหายรู้ตัวว่าโดนหลอก เมื่อมีการทวงถาม นายพงศกร หรือเหน่ง จะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และไม่สามารถติดต่อได้อีก ซึ่งมีเหล่าดาราและบุคคลที่มีชื่อเสียงที่โดนแอบอ้างนำไปเป็นโปรไฟล์ส่วนตัวของคนร้าย และมีผู้หลงเชื่อถูกหลอกเป็นจำนวนมาก
...
พ.ต.ต.ปียรัช เปิดเผยว่า เมื่อได้รับเรื่องทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาข่าว พบว่ากลุ่มผู้เสียหายได้มีการเข้าร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆ หลายหน่วยงาน โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดต่อไปยังกลุ่มผู้เสียหาย เพื่อสอบถามข้อมูลในการสืบสวนติดตามจับกุม โดยจากการตรวจสอบพบว่า นายพงศกร หรือเหน่ง ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง มีผู้เสียหายกว่า 50 ราย ได้ทั้งเงินสดและทรัพย์สินไปรวมมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท
และจากการตรวจสอบประวัตินายพงศกร พบว่ามีหมายจับติดตัวในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์จำนวน 1 หมายจับในท้องที่ สน.หัวยขวาง และยังมีคดีที่อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับอีกในพื้นที่ของ สน.ตลิ่งชัน, สน.บางพลัด, สน.ปทุมวัน และอีกหลาย สน. เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า นายพงศกร หรือเหน่ง พักอาศัยอยู่ที่อาคารไอบิซแมนชั่น จนสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว จากการตรวจสอบภายในห้องพักพบของกลางเป็นเสื้อผ้าสุภาพสตรียี่ห้อต่างๆ จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายพงศกร ให้การรับสารภาพว่า ตนเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งก่อนหน้านี้ตนทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนทรัพย์สินที่ได้มา ถ้าเป็นเสื้อผ้าก็จะนำมาใส่ไปตามงานอีเวนต์ต่างๆ ถ่ายรูปคู่กับดาราศิลปินและส่วนต่างที่เป็นเงินสดก็จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ด้าน น.ส.ดริณทร์รัฏ มีนะวาณิชย์ หรือ เบนซ์ พริกไทย อดีตนักร้องวงพริกไทย อายุ 30 ปี กล่าวว่า ตนเปิดอินสตาแกรม เพื่อขายกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อแอร์เมส ซึ่งถ้ามีลูกค้าชอบก็จะติดต่อขอดูสินค้า ตนก็จะนัดเจอกันตามร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าที่ลูกค้าสะดวก ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา มีไอดีไลน์ชื่อ N.QUEEN โดยอ้างว่าชื่อวิว ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นนายพงศกร ได้ติดต่อและส่งรูปกระเป๋ายี่ห้อแอร์เมส รุ่นเบอร์กิ้น ราคาประมาณ 530,000 บาท ซึ่งได้มีการตกลงซื้อโดยที่ไม่มีการต่อรองใดๆ จากนั้นตนก็ได้สอบถามว่าจะนัดเจอเพื่อส่งของกันที่ไหน ซึ่งก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าให้ส่งทางไปรษณีย์ EMS ตนเอะใจ เพราะว่ากระเป๋าราคาค่อนข้างสูง ทำไมถึงให้ส่งทางไปรษณีย์
หลังจากนั้นตนได้มีการส่งเลขที่บัญชีเพื่อให้ทำธุรกรรมทางการเงิน ต่อมาไม่นานทาง นายพงศกร ได้ส่งรูปสลิปโอนเงินมาให้ตน โดยที่มีการปิดบังชื่อและเลขบัญชีไว้ โดยปกติถ้ามีเงินโอนเข้าบัญชีของตนจริงก็จะต้องมีข้อความเข้ามาทางเบอร์โทรศัพท์ แต่ไม่มีข้อความเข้ามาแต่อย่างใด ตนจึงใช้บัตรเอทีเอ็มตรวจสอบที่ตู้กดเงินสด ปรากฏว่าไม่มีเงินเข้าบัญชีตามที่ปรากฏในสลิปที่ นายพงศกร ส่งมาแต่อย่างใด ตนจึงติดต่อกลับไปหานายพงศกร แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา ตนจึงรู้ว่าถูกหลอกแน่นอน แต่โชคดีที่ยังไม่ได้ส่งสินค้าไป
น.ส.ดริณทร์รัฏ กล่าวต่อว่า ตอนแรกคิดว่าจะไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน แต่ไม่ได้แจ้งเนื่องด้วยตนยังไม่ได้รับความเสียหาย ก็เลยนำข้อมูลแชร์ลงในเพจส่วนตัวเพื่อเป็นข้อมูลเตือนภัย จนได้รับข้อมูลจนทราบว่ามีผู้เสียหายหลายคนโดนนายพงศกรหลอกลวงลักษณะเดียวกัน ซึ่งตนก็อยากฝากสำหรับคนที่อยากซื้อของออนไลน์คืออย่าโอนเงินไปก่อนให้นัดเจอดูของกันดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบประวัติของนายพงศกร พบว่ายังมีหมายจับในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน, สน.บางพลัด, สน.ปทุมวัน, สภ.เมืองสุพรรณ.