ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 มิ.ย.58 ปิดที่ 1,518.03 จุด ลบ 1.44 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 33,672.79 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 452.31 ล้านบาท
บล.เอเซียพลัสมองว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบนักลงทุนรอดูผลการเจรจาหาทางออกปัญหาหนี้กรีซ โดยส่วนใหญ่มองว่า กรีซและเจ้าหนี้จะหาทางออกร่วมกันได้ จากก่อนหน้านี้เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ต้องติดตามรายละเอียดแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจกรีซว่าจะเป็นอย่างไร
ขณะที่กลับมามีแรงกดดันจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส2 ที่คาดว่าจะชะลอตัวลง โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่เผชิญแรงกดดันจากอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ขยายตัว
โดยประเมินตลาดสัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยปรับตัวบวกต่อ ด้วยบรรยากาศ ที่ดีจากการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ และคาดว่าน่าจะมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2 จะฟื้นตัวโดดเด่น และแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่จากการทำ Windows dressing ปิดงบการเงินงวดไตรมาส 2
แนะกลยุทธ์การลงทุน แนะซื้อหุ้นพลังงานปิโตรฯ ด้านเทคนิคให้แนวรับ 1,510 จุด แนวต้าน 1,530-1,536 จุด
ด้าน บล.ธนชาตมองตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่จากการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชีของนักลงทุนสถาบัน โดยมองแนวโน้มตลาดสัปดาห์หน้า แกว่งตัวเชิงบวกในกรอบ 1,520-1,525 จุด ปัจจัยหลักขึ้นอยู่ที่ผลการแก้ปัญหาหนี้กรีซว่าจะออกมาในทิศทางใด แต่นักลงทุนต่างชาติยังไม่มีสัญญาณซื้อสุทธิในเร็วๆนี้ เนื่องจากรอความชัดเจนของสถาน-การณ์การเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งใหม่
ขณะที่มองแนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/2558 จะดีขึ้นเป็นบางกลุ่ม โดยหุ้นกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาปิโตรเลียมดีขึ้นและค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ยังทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 1 เนื่องจาก สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และหุ้นกลุ่มสื่อสารยังไม่โดดเด่นมากนักเนื่องจากนักลงทุนที่เข้ามาซื้อส่วนใหญ่จะเข้ามาลงทุนเพื่อรับปันผลช่วงกลางปี และเก็งกำไรการประมูล 4Gในช่วงปลายปี ส่วนการประมูลงานภาครัฐ-เอกชน คาดว่า จะได้เห็นความชัดเจนปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า
แนะกลยุทธ์ลงทุน รอผลสรุปกรีซ เน้นหุ้นกลุ่มรับเหมา เช่น CK ให้ราคา เป้าหมาย 35 บาท, STEC ให้เป้าหมาย 29 บาท หรือลงทุนในหุ้นที่ให้ปันผล เช่น INTUCH ให้ราคาเป้าหมาย 95 บาท.
อินเด็กซ์ 51