แสงแดดแต่ละวันเปล่งรัศมีความร้อนระอุขนาดนี้ เพียงแค่ครีมกันแดดอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพื่อลดทอนแดดจ้าที่เข้ามากระทบกับผิวสวยของคุณไม่ให้หมองคล้ำเสีย และเกิดผดผื่นจากการแพ้เหงื่อตลอดวันไปมากกว่านี้ อีกทั้งยังป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนัง และริ้วรอยก่อนวัยอันควรอย่างเหลือเชื่อ อย่ารอช้าที่จะลอง 6 สุดยอดอาหารเหล่านี้ควบคู่กัน เชื่อเถอะว่า คุณจะมั่นใจกล้าต่อกรกับแสงแดดมากขึ้น !!

1. ผลฝรั่ง

ผลไม้ที่ไม่เพียงช่วยลดอ้วน แต่ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ที่ช่วยเซฟบำรุงผิวสวย เตรียมผิวของคุณพร้อมรับแสงแดดจ้าข้างนอกตลอดวัน และต้านผิวหมองคล้ำจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี ผลฝรั่งจะช่วยปกป้องผิวของคุณอีกชั้นแม้คุณจะทาครีมกันแดดแล้วก็ตาม ขณะเดียวกันหากคุณรับวิตามินซีจากผลฝรั่งเพื่อช่วยไดเอทไปด้วย เราแนะนำว่าอย่าทานแค่ผลฝรั่งเพียงอย่างเดียว เพราะผัก-ผลไม้ อย่างสตรอว์เบอร์รี่ และบร็อคโคลี่ก็ช่วยคุณลดหุ่นได้ไม่แพ้กัน

2. ชาเชียว

มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาขนิดอื่น ส่วนผสมของ "แคทีซิน" ในชาเขียว จะช่วยป้องกันผิวเสียหมองคล้ำจากแสงแดด, ช่วยลดการอับเสบ เช่น ผิวแสบไหม้เวลาโดนแสงแดดแรง และป้องกัน-ลดความเสี่ยงต่อโรคอันตรายต่างๆ จากรังสีพระอาทิตย์ เช่น มะเร็งผิวหนัง, ความเสื่อมของเซลล์ และอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้ (คนที่ดื่มชาเขียว 10 แก้วต่อวัน จะปลอดโรคมะเร็งนานกว่าคนที่ดื่มชาเขียวน้อยกว่า 3 แก้วต่อวัน … ถึง 3 ปี) อย่างไรก็ตาม คุณก็ต้องปกป้องผิวสวยอีกทางหนึ่งด้วย ไม่ว่าจะเป็นทาครีมกันแดด พยายามเดินหลบอยู่ในบริเวณที่ร่ม หรือใส่เสื้อแขนยาวบางๆ เวลาออกนอกบ้าน ก็ช่วยเซฟได้ไม่น้อย

...

หากใบหน้าของคุณมีอาการแสบไหม้ เริ่มเกรียมเปลี่ยนเป็นสีแดงหลังจากโดนแดดเผามาตลอดวัน ก็ให้คุณนำถุงชาจุ่มลงในน้ำเย็น แล้วนำมาประคบบริเวณเปลือกตา หรือส่วนที่แสบไหม้ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นนำถุงชาจุ่มลงในน้ำเย็นอีกครั้ง แล้วกลับมาประคบอีกทีหนึ่ง สารแทนนินในถุงชาจะช่วยบรรเทาความเจ็บแสบลงได้อย่างน่าอัศจรรย์

3. ผลทับทิม

สุดยอดผลไม้ที่อุดมด้วย "สารต้านอนุมูลอิสระ" และ "กรดเอลลาจิก" สามารถป้องกันผิวหนังจากรังสีอัลตราไวโอเลตได้ ทั้ง UVA สาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนัง ทำให้ผิวแก่-เหี่ยวย่นก่อนวัย และเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ และ UVB สาเหตุที่ทำให้เกิดผิวไหม้แดด เกรียมแดด หากคุณลองทานผลทับทิมในช่วงซัมเมอร์ประมาณ 3-4 เดือน ที่อากาศร้อนจัดมากๆ ผลทับทิมจะช่วยต้านการอักเสบ และแสบแดงของผิวหนัง แถมยังช่วยเติมเลเยอร์ สมานปรับสีผิวที่เรียบเนียนไม่เท่ากันให้กลับมาเป็นเนื้อเดียวกันจนคุณสังเกตได้

4. แตงกวา

นอกเหนือผลิตภัณฑ์กันแดดที่ซื้อจากสโตร์ต่างๆ รู้หรือไม่ว่า แตงกวาก็ช่วยบรรเทาความเจ็บแสบ ลดความหมองคล้ำที่แปรเปลี่ยนเป็นรอยไหม้ และช่วยลดทอนแสงอาทิตย์ก่อนกระทบผิวสวยของคุณได้ แถมที่สำคัญยังปราศจากสารเคมีกันเสีย และน้ำหอมที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังอีกด้วย โดยคุณอาจบดแตงกวาอย่างละเอียด และนำมาทาที่ผิวของคุณให้ทั่ว (ทั้งใบหน้า และตามร่างกายที่โดนไหม้) มันจะช่วยลดความเจ็บแสบจากความร้อนของแสงแดดที่กัดผิวลงได้ หรือไม่คุณก็นำแตงกวาแบบเพรียวๆ มาปอกเปลือก และหั่นเป็นชิ้นๆ จากนั้นคั้นเป็นน้ำดื่ม ผสมด้วยกลีเชอรีนเล็กน้อย (น้ำหวานเหนียวขาวไร้สีและไร้กลิ่น) แล้วนำมาทาบริเวณผิวที่ไหม้ ก็ช่วยบรรเทาความปวดแสบ-โพรเท็กต์แสงอาทิตย์ได้ดีเหมือนกัน

5. ว่านหางจระเข้

หลายคนนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่ด้วยความชุ่มฉ่ำของน้ำภายใน และความหวานของเนื้อว่านหางจระเข้ ก็สามารถนำมาลดอาการแสบร้อนจากแสงแดดได้เช่นกัน เพียงแค่คุณนำก้าน (ที่ฉ่ำไปด้วยน้ำว่านฯ) ไปแช่น้ำสะอาดผสมกับเกลือก่อนทั้งเปลือกนอก ประมาณ 10-15 นาที เพื่อล้างเอาคราบยางสีเหลืองที่ติดมาออกให้หมด จากนั้นปอกเปลือกออกให้หมดจนเหลือเพียงวุ้นใสๆ ที่อยู่ภายใน แล้วให้คุณนำวุ้นที่ได้ไปล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง คุณสามารถนำวุ้นไปปั่น หรือใช้มือขยำจนละเอียด ก็จะได้เจลว่านหางจระเข้สดๆ มาใช้ …

...

เมื่อคุณนำมาพอกหน้า หรือทาบริเวณผิวที่แสบไหม้เกรียมจากแดด มันจะช่วยบรรเทาความแสบร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกระตุ้น-ฟื้นฟูเนื้อเยื่อของผิวที่ชำรุดให้เกิดการสร้างตัวเองขึ้นใหม่ ทำให้ริ้วรอยก่อนวัย รอยด่างดำ และรอยแผลเป็นหายไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงผิวหมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใส ชุ่มชื้นมากขึ้นกว่าเดิม (ลองเทสจุดเล็กๆ ก่อน ภายในมาทาในบริเวณโคนหู หรือท้องแขน ทิ้งเอาไว้สักครู่ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณไม่แพ้) และถ้าหากนำว่านหางจระเข้ผสมเข้ากับโลชั่น ทาลงบนผิวทุกเช้า มันยังมีคุณสมบัติในการป้องกันผิวไม่ให้ถูกแดดเผาได้อย่างดีเยี่ยม !

ป.ล. ถ้าคุณไม่มีว่านหางฯ อยู่ในบ้าน ให้ลองหาซื้อว่านหางฯ เพรียวๆ สักขวดตามร้านขายยาแทน (ที่ไม่ผ่านการแปรรูป หรือผสมส่วนประกอบใดๆ) มันสามารถนำมาใช้ทดแทนกันได้

6. ผักกาดหอม

ปิดท้ายด้วยผักใบเขียวที่คุณทานเป็นประจำ แต่คุณสมบัติไม่ธรรมดา เพราะในธรรมชาติของผักกาดหอมมีคุณสมบัติช่วยลดรอยด่างดำ และความปวดแสบจากแสงแดดที่คุณเจอระหว่างวันได้ โดยคุณต้มผักกาดหอมทิ้งไว้ เคี่ยวให้เข้ากันกับน้ำจนได้น้ำผักกาดหอม แล้วแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชม. จากนั้นให้จุ่มก้อนสำลีลงในน้ำผักกาดหอม (ที่เย็น) แล้วไปเช็ดถูกับผิวที่แสบไหม้ ระคายเคืองของคุณอย่างเบามือ แค่นี้น้ำผักกาดหอมก็ช่วยบรรเทาอาการปวดแสบ-แพ้แดดที่คุณเผชิญมาทั้งวันได้แล้วล่ะ … มีตัวช่วยดีขนาดนี้ ต่อให้พรุ่งนี้ท้าแดดแรงแค่ไหนก็ไม่หวั่นแล้วสิ !

...


ที่มา : prevention.com