ฤดูกาลแห่งราชาผลไม้อย่าง "ทุเรียน" กลับมาอีกครั้ง "ผู้หญิง" หลายคนติดใจในรสชาติหวานหอม จนต้องหามากินให้ได้ ในทุกๆ ปี แต่เดี๋ยวก่อน... แม้ว่าทุเรียนจะอร่อย และมีประโยชน์มากพอตัว แต่ถ้าเผลอกินมากไป ก็อาจจะทำให้เป็น "ร้อนใน" หรือน้ำหนักตัวพุ่งรัวๆ ได้

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ มีเคล็ดลับวิธีกิน "ทุเรียน" แบบ "ไม่อ้วน" มาฝากสาวๆ แถมยังช่วยให้ไม่เป็น "ร้อนใน" อีกด้วยจ้า

ประโยชน์ของ "ทุเรียน"

ก่อนอื่นเรามารู้จักประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพ ของ "ทุเรียน" กันสักหน่อย ได้แก่ 

ทุเรียนพันธุ์หมอนทองสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ เพราะทุเรียนสายพันธุ์นี้มีสารโพลีฟีนอล (Pholyphenols) และมีเส้นใยที่ช่วยลดไขมัน แต่ให้รับประทานเพียง 1 พูต่อวัน (ข้อมูลจาก : นพ.กฤษดา ศิรามพุช)

- เนื้อทุเรียนช่วยรักษาโรคผิวหนัง รักษาฝี ทำให้ฝีแห้งเร็วขึ้น

...

- ทุเรียนมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ กินทุเรียนในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง

- แม้ทุเรียนจะมีไขมันมากสูง แต่ก็เป็นไขมันชนิดดี ทั้งนี้ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมด้วย

- เส้นใยของทุเรียนมีส่วนช่วยในระบบขับถ่ายให้สะดวกยิ่งขึ้น

กิน "ทุเรียน" ยังไง? ไม่ให้อ้วน

1. กินในปริมาณที่พอดี

สาวๆ ก็ทราบกันดีว่า "ทุเรียน" เป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง หากกินเยอะเกินไปย่อมทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรืออ้วนขึ้นได้ง่ายๆ ถ้าอยากกิน "ทุเรียน" แบบ "ไม่อ้วน" ก็คือ ควรกินทุเรียนไม่เกิน 2 เม็ดต่อวัน และไม่ควรกินทุกวัน กินได้ประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็พอแล้ว

2. "ทุเรียน" ห่ามๆ น้ำตาลน้อยกว่า!

วิธีการเลือกทุเรียนมากินแบบ "ไม่อ้วน" ก็สำคัญ มีเคล็ดลับคือ ให้เลือกทุเรียนแบบห่ามๆ สุกพอดี ไม่สุกมากจนเกินไป เพราะมีดัชนีน้ำตาลน้อยกว่า และทั้งนี้ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมอย่างที่บอกไปข้างต้นด้วย

3. งดข้าวเหนียวทุเรียน

แม้ว่าสาวๆ บางคนจะชื่นชอบ "ข้าวเหนียวทุเรียน" ที่ราดน้ำกะทิ แต่ถ้าเลือกจะกินทุเรียนแล้ว แนะนำว่าให้กิน "ทุเรียน" สดๆ ไปเลยดีกว่า จะได้ "ไม่อ้วน" ควรงดข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิไปก่อน นอกจากจะทำให้อ้วน น้ำหนักเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้เป็นร้อนในอีกต่างหาก

4. กิน "ทุเรียน" แล้วต้องงดแป้ง!

วันไหนที่คุณได้กินทุเรียน วันนั้นคุณควรลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน ให้น้อยลง เช่น กินทุเรียนแล้วก็ให้กินข้าวน้อยลง เน้นกับข้าว ผัก ผลไม้ และงดขนมปัง เค้ก หรือขนมหวานอื่นๆ รวมถึงหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มันจัด หวานจัดด้วยนะ

...

5. ห้ามกิน "ทุเรียน" กับแอลกอฮอล์

ข้อสำคัญที่สุด! ห้ามกินทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เพราะทุเรียนมีสารกำมะถันอยู่มาก ซึ่งเป็นสารที่ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ สารนี้จะเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว ทำให้เมาเร็ว ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจ เกิดอาการร้อนในได้ และทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสูงมากกว่าปกติ เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการขาดน้ำได้นะ ต้องระวังมากๆ นะคะซิส!

กิน "ทุเรียน" ไม่ให้เป็น "ร้อนใน"

เนื่องจากทุเรียนเต็มไปด้วยแป้งและน้ำตาล ที่ให้พลังงานสูงมาก เป็นอาหารประเภทหยาง หรืออาหารที่มีฤทธิ์ร้อน ดังนั้นการรับประทานทุเรียนมากๆ ท่ามกลางอากาศร้อนๆ แบบนี้ ก็อาจทำให้เกิดอาการ "ร้อนใน" จนไม่สบายได้ เช่น มีแผลในปาก เจ็บคอ ไอ มีไข้ ปวดศีรษะ จุกแน่นท้อง อึดอัด ตัวแดง ผิวตัวร้อน เป็นต้น

หากไม่อยากเป็น "ร้อนใน" มีวิธีกินทุเรียนแบบ "สุขภาพดี" มาฝากกัน

...

1. กินทุเรียนพร้อมผลไม้เย็น

ในขณะที่คุณกินทุเรียน ควรกินผลไม้ที่มีธาตุเย็น หรือผักมีน้ำมากและพลังงานต่ำ ควบคู่กันไปด้วย เช่น แตงโม บวบ รากบัว มังคุด มะนาว ส้ม มะระ สะเดา เป็นต้น

2. กินทุเรียน พร้อมน้ำเปล่าเยอะๆ 

ในขณะที่กินทุเรียน หากไม่มีผลไม้ฤทธิ์เย็นอย่างที่บอกไปข้างต้น ก็ควรกินน้ำเปล่าตามเข้าไปเยอะๆ เพื่อลดความร้อนในร่างกาย และที่สำคัญ ควรกินทุเรียนแค่ 2-3 เม็ดต่อวันก็พอ

3. งดผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง

วันไหนที่คุณกินทุเรียนเข้าไปแล้ว วันนั้นควรงดผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้เป็น "ร้อนใน" ได้ง่ายขึ้น ผลไม้ที่ควรงด ได้แก่ ลำไย ขนุน องุ่นหวานจัด เป็นต้น

4. กินน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น

นอกจากนี้ อีกหนึ่งวิธีที่ช่วย "แก้ร้อนใน" ได้เหมือนกันคือ วันไหนที่คุณกินทุเรียน ก็ลองหาน้ำสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นมาดื่มตามเข้าไป เช่น น้ำมะนาว น้ำใบบัวบก น้ำใบเตย เฉาก๊วย น้ำเก๊กฮวย น้ำหล่อฮั่งก๊วย น้ำรากบัว เป็นต้น

...

เพียงแค่นี้ก็ทำให้สาวๆ สามารถกิน "ทุเรียน" ได้อย่างมีความสุข "ไม่อ้วน" และไม่เป็น "ร้อนใน" ได้แล้ว

ส่วนใครที่กำลังอยากกินทุเรียนหมอนทอง ก็สามารถไปกินให้อร่อยแบบบุฟเฟ่ต์ได้ที่ "เทศกาลบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและผลไม้ไทย ครั้งที่ 4" ณ ลานสแควร์ B หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันนี้ - 25 เมษายน 2562 บัตรราคา 479 บาท แถมมีโปรโมชั่นมา 5 จ่าย 4 อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม :