คสช. ปลื้มเผยสถิติ 7 วันอันตราย เมาไม่ขับ ตามมาตรการลดอุบัติเหตุ "ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ" ปีนี้ลดลง โดยยึดรถไว้ 7,282 คัน ขณะที่ โฆษก กห. เผย "บิ๊กป้อม" สั่งเข้มบังคับใช้กฎหมายต่อเนื่องมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมขับขี่...


เมื่อวันที่ 18 เม.ย. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 7 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดูแลประชาชนทั้งในเรื่องการสัญจร มาตรการป้องกันและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ จัดระบบอำนวยความสะดวกในสถานที่ท่องเที่ยว การดูแลภาพรวมในการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ตามชุมชนเมืองใหญ่ รวมทั้งการตั้งจุดบริการประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินงานทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาล ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วนและจิตอาสา ที่ทุ่มเทปฏิบัติงานตลอดช่วงวันหยุดยาวและขอขอบคุณประชาชนผู้ใช้เส้นทางที่ร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทำให้ภาพรวมในปีนี้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้อย่างคล่องตัวและร่วมกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์อย่างมีความสุข จึงขอให้ช่วยกันรักษาวินัยจราจรเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยในทุกโอกาสทุกเทศกาลไว้ด้วย

สำหรับในวันที่ 17 เม.ย.2562 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ตามมาตรการลดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัย “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” มีสถิติดังนี้ รถจักรยานยนต์ พบการกระทำผิด 38,844 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถไว้ 532 คัน และส่งดำเนินคดี 23,259 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 26,860 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ 2,942 ราย ยึดรถยนต์ 246 คัน ส่งดำเนินคดี 18,043 คน

ส่วนสถิติตามมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ในภาพรวม 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2562 สรุปได้ดังนี้ พบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับจำนวน 388,854 ครั้ง (แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 215,973 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 172,881 ครั้ง) ซึ่งสถิติลดลงจากปี 61 คิดเป็นร้อยละ 20 (ผู้กระทำผิดในห้วงสงกรานต์ปี 2561 จำนวน 490,512 ครั้ง) การยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับจำนวน 7,282 คัน (แยกเป็นจักรยานยนต์ 5,297 คัน และรถยนต์ 1,985 คัน) ซึ่งสถิติลดลงจากปี 61 คิดเป็นร้อยละ 55 (มาตรการดื่มไม่ขับห้วงสงกรานต์ 2561 ยึดรถรวม 16,288 คัน) การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในปีนี้ มีทั้งหมด 271,657 คน แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 154,928 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 116,729 คน ซึ่งสถิติลดลงจากปี 61 คิดเป็นร้อยละ 12 (มาตรการดื่มไม่ขับห้วงสงกรานต์ 2561 ดำเนินคดี 310,299 คน)

...

สำหรับมาตรการดื่มไม่ขับจับยึดรถ เป็นมาตรการที่ช่วยป้องกันและลดความสูญเสียอันเกิดจากอุบัติเหตุที่เกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาลได้ดำรงความต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยประชาชนให้การตอบรับมาตรการนี้เป็นอย่างดี เพราะทำให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางของทุกคน รวมทั้งประชาชนได้มีข้อเสนอแนะให้เพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดและการยืดระยะเวลาการเก็บรักษารถเอาไว้ รวมถึงอยากให้มีการบังคับใช้มาตรการนี้ในทุกวัน เพื่อการป้องกันอุบัติเหตุจากการดื่มสุราแล้วขับรถในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสรุปบทเรียนและผลการปฏิบัติงาน นำไปบูรณาการแผนการป้องกันอุบัติเหตุ การจราจร มาตรการบังคับใช้กฎหมาย ในการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและลดสูญเสียจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลให้ได้มากที่สุดต่อไป

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เสียสละทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการดูแลความมั่นคงปลอดภัยรวมทั้งการป้องกันลดอุบัติเหตุบนท้องถนนตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา พร้อมขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับมาตรการของรัฐ เป็นผลให้ภาพรวมเทศกาลสงกรานต์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุและบาดเจ็บสูญเสียที่เกิดขึ้นยังมีจำนวนมาก ส่วนใหญ่จากพฤติกรรมของผู้ขับขี่เมาแล้วขับ ขับรถเร็วประมาท ละเมิดวินัยจราจร ไม่สวมหมวกนิรภัย 

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ขอให้ทุกส่วนราชการจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อเนื่องตลอดปีควบคู่กับการรณรงค์เสริมสร้างวินัยจราจรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ของประชาชน โดยให้กระทรวงมหาดไทยรวบรวมข้อมูลสถิติอุบัติเหตุมาวิเคราะห์แยกแยะเพื่อกำหนดมาตรการต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกปัจจัยเสี่ยงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติศึกษาพิจารณาออกกฎหมายให้บทลงโทษเพิ่มขึ้นครอบคลุมถึงพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ที่พบเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุเพื่อลดการสูญเสียชีวิตบาดเจ็บของประชาชาชนในแต่ละปีให้ได้ผลมากที่สุด.