เพื่อไทย เปิดนโยบายโค้งสุดท้าย 7 วัน ก่อนเลือกตั้ง ขอคะแนนเสียงประชาชนให้ตัดสินใจอย่างมียุทธศาสตร์ ย้ำเลือกเพื่อไทยฝ่ายเดียวเท่านั้น หยุดยั้งสืบทอดอำนาจ ชี้ การเมืองไม่ได้มี 3 ฝ่าย
วันที่ 18 มี.ค.62 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ร่วม แถลงเปิดนโยบายพรรคเพื่อไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งโดยขึ้นป้ายแคมเปญในการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า ‘พอแล้ว! เผด็จการดัดจริตต่อชีวิตเผด็จการ เลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น’
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ แถลงว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งบนความคาดหวังที่มีสูง อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้มีกติกาที่ไม่เหมือนกับกติกาสากล เป็นกติกาที่สร้างขึ้นมาเอื้ออำนวยให้เกิดการสืบทอดอำนาจของ คสช. ผ่านรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งครั้งนี้มีกลไกไม่เป็นประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยจะบอกประชาชนใน 7 วันสุดท้ายได้พิจารณาไปเลือกตั้งครั้งนี้อย่างมียุทธศาสตร์ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลายเพื่อหยุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ไม่ใช่เลือกเพราะรักใคร เพราะพรรคที่เลือกอาจไม่ได้มาจัดตั้งรัฐบาล และประชาชนต้องรู้จุดยืนของแต่ละพรรคการเมือง
...
“เหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรอยู่ต่ออีก 4 ปีข้างหน้า การบริหารประเทศ 4 ปีทำให้เศรษฐกิจเสียหาย หนี้สินเกษตรกรเพิ่มขึ้น การเลือกตั้งครั้งนี้มี 2 ทางเลือก คือกลุ่มพรรคหนุน พล.อ.ประยุทธ์ หนุนสืบทอดอำนาจ กับพรรคไม่หนุนสืบทอดอำนาจและอีกทางเลือกคือไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่มีบางพรรคบอกไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์แต่ไม่บอกจะหนุนพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ซึ่งไม่ให้คำตอบแต่แทงกั๊ก พรรคการเมืองนี้จะมีเหตุผลเท่ๆ หล่อๆ ที่จะไปร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ หลังเลือกตั้ง เรียกร้องให้ประชาชนเอกซเรย์ไม่หลงเชื่อพรรคแสดงประชาธิปไตยแต่อิงแอบเผด็จการ ล้มเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งครั้งนี้กติกาเปลี่ยนไปสร้างให้สืบทอดอำนาจ มี ส.ว.ที่ คสช.เลือกมามีอำนาจเลือกนายกฯ 2 สมัย 8 ปี การเลือกตั้งครั้งนี้คาดว่ามีประชาชนมาเลือกตั้งถึง 40 ล้านคน แต่ คสช.องค์กรเดียวใช้สิทธิแทนประชาชน 20 ล้านคนมาเลือก ส.ว. 250 คน และเราต้องไม่ยอมให้พรรคที่สนับสนุน คสช. มาหลอกให้ประชาชนตายใจ ถ้าประชาชนไม่อยากยอมแพ้ให้เผด็จการและความสิ้นหวัง มีทางเดียวต้องหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ ต้องไปเลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวเท่านั้นให้ถล่มทลาย
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุถึงหวยบำเหน็จหรือสลากการออมแห่งชาติ เป็นการส่งเสริมการออม โดยพรรคมองว่าคนไทยเหมือนวิถีชีวิตซื้อสลากกินแบ่งได้มีความสุขเดือนละ 2 ครั้ง จึงนำเอาความชอบความสุขเล็กน้อยของชาวบ้าน โดยจะชวนให้ประชาชนมาออม ซึ่งเป็นการเอาความชอบประชาชนที่ชอบซื้อหวยด้วยการซื้อสลากบำเหน็จเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งไม่เหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาลซื้อมาแล้วเงินหายไป แต่หวยบำเหน็จเงินจะไม่หายไป โดยซื้อเพียงเดือนละ 1 ครั้ง โดย1 ปีมีเงินซื้อหวย 2 แสนกว่าล้านแต่เงินนั้นก็หายไป ถ้าแบ่งเงินตรงนี้ทำหวยบำเหน็จ เมื่อเกษียณอายุตอน 60 ปี ก็จะได้รับดอกเบี้ยด้วย และยังลุ้นเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวด้วย อีกทั้งมีเงินปันผลให้ ซึ่งระยะการออมถ้าซื้ออายุ 20 ปีก็ออมได้อีก 40 ปี ถ้าซื้อแลัวเสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี เงินตรงนี้จะตกเป็นของลูกหลาน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ระบุเพิ่มเติมว่า หวยบำเหน็จที่พรรคเพื่อไทยคิดนั้นจะระบุว่าใครเป็นคนซื้อ ซึ่งบำเหน็จจะออกเพียงเดือนละครั้ง หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลคาดว่าจะมีการออกกฎหมายเพิ่มเติมว่าด้วยธนาออมสิน เพื่อเปิดทางให้ออกสลากประเภทนี้ อีกทั้งตอนนี้มีกองทุนการออมแห่งชาติ ประชาชนส่งเงิน 50 บาท แต่กองทุนดังกล่าวจะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี เงินดังกล่าวจะไปอยู่ในกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งอาจให้ธนาคารออมสินบริหารเงินประเภทนี้
นายภูมิธรรม ระบุว่า นโยบายหวยบำเหน็จ นั้นคือเข้าใจวัฒนธรรมไทยว่าชีวิตประชาชนควรมีหลักประกันทุกด้าน จึงขอให้ออกไปเลือกตั้งโดยใช้ปากกาขับไล่เผด็จการออกไป
ส่วนกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมเดินหน้าในคดีทุจริตระบายข้าวลอต 2 นายภูมิธรรรม กล่าวว่า การใช้อำนาจรัฐบิดเบือน อะไรที่เป็นตามกฎหมายก็ขอให้ทำตามกฎหมายไม่อยากให้ใช้กฎหมายมาจัดการทางการเมือง แต่ควรให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไป ส่วนนโยบายจำนำข้าวไม่ใช่เรื่องผิดพลาดแต่เป็นเรื่องของกระบวนการที่มีปัญหาในฝ่ายปฏิบัติแต่ก็ว่าไปตามกฎหมาย แต่พรรคหลีกเลี่ยงจะพูดเราได้พิจารณาต่อกลุ่มเป้าหมายรวมทั้งได้คิดนโยบายที่ทดแทนได้
นายภูมิธรรม ยังระบุว่า เป็นห่วงการจัดการเลือกตั้งของ กกต. อยากให้การเลือกตั้งล่วงหน้าในวันนี้เป็นประสบการณ์ให้ กกต. จัดเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. อีกทั้งกฎหมายพรรคการเมืองสร้างความสับสน ทาง กกต.ยังไม่ประชาสัมพันธ์มากพอ การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกเชิงยุทธศาสตร์ว่าจะเอาเผด็จการหรือประชาธิปไตย จะเลือกให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อหรือกลับบ้าน วันนี้ต้องเลือกสองขั้วนี้เท่านั้น ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องจัดการให้ได้ 100 เสียง ขอให้ประชาธิปัตย์เลือกว่าจะหยุดฝ่ายเผด็จการหรือประชาธิปไตย.