บทเรียนจาก “หวย” หวังจับเสือมือเปล่า สุดท้ายล้มละลาย ต้องขายบ้าน ขายรถใช้หนี้หลายแสน กอดคอกันร้องไห้กับสามี คิดได้ กลับใจ ตั้งปฏิญาณตน และปฏิบัติจริง จนเลิกหวยได้สำเร็จมา กว่า 10 ปี ชีวีกลับมาสุขมากกว่าเดิม ....
คุณยายรัศมี จันอ้วน เปิดใจกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เดิมทีครอบครัวไม่มีหนี้สิน และฐานะพออยู่พอกินจากอาชีพขายกับข้าว แรกๆ ก็ไม่สนใจเรื่องหวย แต่เมื่อมีคนมาชวนขายหวย จึงตัดสินใจกับสามีเลิกค้าขาย ผันตัวมาขายหวยเป็นอาชีพ หวังจับเสือมือเปล่า แต่จากนั้นชีวิตค่อยๆ อับเฉา ฐานะเริ่มย่ำแย่ทุกวัน เพราะเป็นทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เมื่อถูกหวยก็ยิ่งงมงาย สุดท้ายก็ล้มละลาย เพราะ “หวย” จนต้องขายบ้านที่ อ.ปากชม จ.เลย ชดใช้หนี้ 2 แสน
...
จากมีอันจะกิน กลายเป็นมีหนี้ 2 แสน ต้องขายบ้าน ขายรถชดใช้
“ยายคิดจะจับเสือมือเปล่า ลูกค้าส่งหวยมาก็ส่งให้เจ้ามือครึ่งหนึ่ง แล้วจับกินเองครึ่งหนึ่ง มาล้มละลายตอนที่เสียหนักๆ นี่แหละ ตั้งแต่หันมาเล่นหวย ชีวิตเริ่มแย่ เป็นหนี้ เพราะเงินขายหวย ได้ไม่คุ้มกับที่ซื้อ เพราะซื้อเยอะ พอเล่นหวยหนัก มีคนถูกหวย เงินหมด หาไม่ทันมาจ่าย เป็นหนี้อยู่สองแสน ก็เอาที่บ้านไปจำนองธนาคาร เอาเงินมาหมุนและซื้อหวย หนี้ก็สะสมเรื่อยๆ เพราะไม่ได้ส่งและดอกเบี้ยก็เพิ่ม ทำมาหากินได้เท่าไรก็หมดไปกับหวย เลยตัดสินใจขายบ้าน 4 แสน ขายรถปิกอัพ 9 หมื่น เอาไปใช้หนี้ ”
คุณยายรัศมียอมรับอีกว่า เป็น "คนติดหวย” อย่างหนัก นอกจากเป็นทั้งเจ้ามือ คนซื้อ คนจับกิน ยังเป็นนักล่าหาเลขตัวยงด้วย ใครบอกว่าที่ไหนมีเลขเด็ด เลขดังก็ดั้นด้นบุกป่า ฝ่าดง แม้แต่ในถ้ำ หรือป่าช้า ยายรัศมีก็ไปทุกที่ ยอมแม้กระทั่งต้องไปนอนเฝ้าสาม-สี่วันก็ตาม แต่ก็ไม่เคยถูกสักครั้ง และยิ่งทำให้เป็นหนี้หนักมากขึ้น
“ยายลุ่มหลงมัวเมาหนักจริงๆ นะ เลขก็ฟังจากคนอื่น หาเองตามป่าตามดง วัดไหนที่ว่าดังก็ไป หาไปเรื่อยๆ ที่ไหนว่าดี ไปหมด ไม่ห่วงคนทางบ้านเลย ยิ่งเพื่อนถูกหวย ได้แสน สองแสน มาบอกว่าเลขเด็ดอยู่ตรงนั้น ตรงนี้ ยายก็ไปขึ้นภู ขึ้นผา อยู่ข้ามวันข้ามคืนก็ทำมาแล้ว เพราะอยากถูกบ้าง แต่ได้เลขมา ซื้อก็ไม่ถูก หมดงวดละ 4-5 พัน งวดต่อไปก็ทบซื้อไปเป็นหมื่น เพราะคิดว่าจะออกอีก ก็เคยถูกเป็นหมื่นบ้าง ไม่บ่อยหรอก แต่ก็ไม่คุ้ม เพราะบางงวดซื้อเกินหมื่นบาท”
คิดได้เพราะลูก ย้ายมาตั้งต้นใหม่ที่เชียงคาน กับเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต
เมื่อต้องล้มละลายเพราะ “หวย” ยายรัศมีกับสามีกอดคอกันร้องไห้ และ “คิดได้” ว่า ลูกยังเรียนอยู่ หากยังเล่นหวยต่อไป เงินที่เหลือคงหมดแน่ๆ และต้องกลับไปวนเวียนอยู่ในความทุกข์จากการเป็นหนี้เหมือนเคย จึงคิดใหม่ ทำใหม่ พร้อมใจกันกลับตัวกลับใจ หันหน้าปรึกษากัน และช่วยกันหาวิธีหยุดเล่นหวย
...
โดยนำเงินเหลือจากการใช้หนี้หวยจำนวนเกือบสามแสนมาสร้างบ้านที่ ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย จากนั้นก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตจำนวน 1 หมื่นบาท ที่เหลือจากการสร้างบ้าน หันมายึดอาชีพขายกล้วยอบไส้มะพร้าวอ่อน เป็นสูตรที่คิดเองขายที่ถนนคนเดิน
สำหรับแรงบันดาลใจในการเลิกเล่นหวย นอกจากยายรัศมีจะตั้งปณิธานตัวเองแล้ว ประกอบกับถูกชวนเข้าร่วมโครงการ “๙ สู่ชีวิตพอเพียง” ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน จัดทำขึ้น เพื่อถวายเป็นปฏิบัติบูชาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ก็ช่วยให้สามารถเลิกเล่นหวยได้สำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย
“วิธีเลิกของยาย ก็ปฏิญาณตนก่อน ว่าต้องทำให้ได้ จะไม่ซื้อหวยแม้แต่บาทเดียว และนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร. 9 มาเตือนใจด้วย อยากทำเป็นตัวอย่างให้หลานดูว่ายายเลิกเล่นการพนันแล้ว การปฏิญาณตนต้องเอาใจเราเป็นหลัก ต้องสู้ ต้องมั่นคง และทำให้ได้ ไม่มีอะไรยาก อยู่ที่ใจ ให้สู้กับใจเรา เวลานึกถึงก็ให้ทำงานอื่นก็จะลืมเรื่องหวยไป ยายแนะนำไปหลายคนให้เลิกอยู่ ก็มีผ่อนลงมาหลายคน”
...
จากวาจาสู่หัวใจ ใส่ความตั้งใจ สู่การปฏิบัติจริง จนเลิกเล่นหวยได้ 10 กว่าปี
หลังเลิกเล่นหวย และนำแนวเศรษฐกิจพอเพียงต่างๆ ของพ่อหลวงที่ได้รับความรู้มาจากการเข้าอบรมโครงการฯ มาใช้ อาทิ ปลูกผักสวนครัวและทำปุ๋ยหมักรดผักเองเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ไว้กินเอง ทำให้ยายรัศมีและครอบครัวกลับมามีความอบอุ่น อยู่เย็นเป็นสุขโดยไม่ต้องดิ้นรนมาก ทำมาหากินได้เล็กน้อยก็ไม่ลำบาก เพราะไม่มีหนี้สิน ทำให้อยู่อย่างสบายใจมา 10 กว่าปีแล้ว
“ตอนนี้ไม่มีหนี้ ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็อยู่ได้ ปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ไว้กินเองจะได้ไม่ต้องซื้อ ถ้ามีผักเยอะก็แบ่งให้เพื่อนบ้าน เดี๋ยวนี้ยายรู้แล้วว่าการใช้ชีวิตพอเพียงมีความสุขอย่างไร ถ้าไม่มีหนี้สินก็จะยิ่งไม่มีทุกข์ อยู่ได้อย่างสบายใจเลยแหละ
เมื่อก่อนทะเลาะกับสามีเรื่องเงินบ่อยมาก ก็เพราะเรื่องการพนัน เรื่องเล่นหวยนี่แหละ ได้เงินมาก็ดี แต่ถ้าไม่มีเงิน มีหนี้ก็เครียด และทะเลาะกัน บางทีก็ตีกัน เพราะพูดกันไม่รู้เรื่อง พอหยุดเล่นหวย และได้เข้าโครงการนี้ก็ไม่ค่อยทะเลาะกันอีกเลย
...
เวลาเจอเจ้ามือที่เก่าๆ ก็จะบอกเขาว่าไม่เอาแล้ว พอแล้ว เลิกแล้ว ยายมั่นใจในตัวเอง และปฏิญาณตนไว้ว่าจะทำความดีให้พ่อหลวงให้ดีที่สุด แล้วจะไม่เล่นการพนันอีกต่อไป” ยายรัศมีกล่าวให้ข้อคิดเป็นการทิ้งท้าย
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ คุณยายรัศมีก็ไม่เคยซื้อหวยแม้แต่บาทเดียวและไม่คิดหวนกลับไปแตะต้องอีกเลย นอกจากนี้ยังทำให้ ด.ญ.พัชรียา จันอ้วน หลานสาววัย 11 ปี ที่กำลังเรียนอยู่ ป.5 และเป็นนักร้องวงโปงลางศิลป์ปทุมมา ร้องเพลงเพลงเปิดหมวกและรำในถนนคนเดิน รู้สึกดีใจและภูมิใจอีกด้วย
ซึ่ง ด.ญ.พัชรียา เปิดใจกับทีมข่าวฯ ว่า ตั้งแต่ยายย้ายมาอยู่เชียงคานก็เห็นว่าไม่เคยเล่นหวยและการพนันอีกเลย รู้สึกดีใจที่ยายทำสำเร็จ โดยส่วนตัวไม่อยากให้ยายเล่นหวย เพราะมันไม่ดี มีแต่เสียเงิน และไม่มีเวลาให้ลูกหลาน แต่หลังยายหยุดเล่นหวย เล่นการพนันได้ก็มีเวลาทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวมากขึ้น มักพากันเข้าวัดทำบุญบ่อยๆ ปัจจุบันยายเลิกขายกล้วยอบไส้มะพร้าวอ่อนแล้ว เพราะอายุ 66 ปี มีปัญหาสุขภาพร่างกาย เจ็บป่วยบ่อยตามวัย
อุทาหรณ์จากการไปเกี่ยวข้องกับ “หวย” จนเกิดผลกระทบที่คาดไม่ถึงในครั้งนี้ คงไม่มีใครต้องโชคร้ายได้รับบทเรียนชีวิตอันแสนสาหัส เพราะหวย เหมือนคุณยายรัศมีอีก หากตั้งใจ “ลด ละ หวย” ได้เช่นเธอ
สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่
reporter.thairath@gmail.com หรือช่องทาง Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง