นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยเปิดตลาดเมื่อเช้าวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมาที่ 31.46 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ว่า เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องดูแลไม่ให้เงินบาทแกว่งตัวมากเกินไป และต้องปรับสมดุลให้เงินบาทอยู่ในระดับเดียวกันกับค่าเงินของประเทศคู่แข่งของไทย
เพราะถ้าหากเงินบาทแข็งค่าเกินไป ผู้ส่งออกจะเสียเปรียบคู่แข่งในเวทีการค้าโลก ผู้ประกอบการที่นำเข้าและส่งออก เช่น รถยนต์ จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก แต่ผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบหนัก คือ ผู้ส่งออกสินค้าเกษตร เนื่องจากสินค้าเกษตรมีการใช้วัตถุดิบและแรงงานในประเทศ 100% หากเงินบาทแข็งค่า ทำให้สินค้าเกษตรกรได้รับเงินน้อยลง ธปท.ต้องชั่งน้ำหนักว่า จะบริหารจัดการค่าเงินบาทอย่างไร
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน ไม่อยากให้มองค่าเงินบาทต้องอยู่ที่อัตราเท่าไร เพราะการแข็งค่าของเงินบาทขณะนี้ เกิดขึ้นจากการอ่อนค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ เป็นปัจจัยในต่างประเทศเป็นหลัก ทำให้ค่าเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่แข็งค่าขึ้นมาก เช่น ค่าเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียก็แข็งค่าขึ้นมาก และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เงินบาทไม่ได้แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในภูมิภาค ซึ่งนักธุรกิจไทยต้องอย่าชะล่าใจ เพราะค่าเงินขณะนี้มีความผันผวน ไม่มีใครสามารถกำหนดอัตราของค่าเงินบาทให้ได้ว่าต้องอยู่ที่อัตราใด.