วัตถุมงคลยอดนิยมของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) อดีตเกจิอาจารย์ดังวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เป็นที่ศรัทธาของลูกศิษย์และคนทั่วไปจำนวนมาก
ยังมี เหรียญชุดที่ 2 เหรียญแรก ได้แก่ “รุ่นสร้างบารมี” สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงานสร้าง วัดโนนแดง อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา เมื่อปี พ.ศ.2519 เป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้ามีรูปหลวงพ่อคูณนั่งขัดสมาธิเพชร ด้านล่างเขียนว่า “หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ” ด้านหลัง ส่วนบนเขียนว่า วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ล่างเหรียญเขียนว่า รุ่นสร้างบารมี 2519 (ตัวเลขไทย) เนื้อทองคำ สร้าง 19 เหรียญ เนื้อเงิน 199 เหรียญ เนื้อนวโลหะ 999 เหรียญ เนื้อทองแดง 2,519 เหรียญ จัดว่าเหรียญรุ่นนี้ได้รับความนิยมสูงสุดเหรียญหนึ่ง เนื่องจากเป็นรุ่นเก่าแก่และมีไม่มาก
...
เหรียญถัดมาคือ “รุ่นสหกรณ์ด่านขุนทด” หรือ “รุ่นโดดตึก” สร้างเมื่อ พ.ศ.2530 เพื่อเป็นที่ระลึกในงานเปิดป้ายสำนักงานสหกรณ์การเกษตรด่านขุนทด เป็นรูปทรงหกเหลี่ยม ด้านหน้าหลวงพ่อคูณนั่งยองๆ กอดอกมือขวาคีบมวนยาสูบ ด้านล่างเขียนว่า “พระอาจารย์คูณ ปริสุทฺโธ” ด้านหลังเป็นรูปถุงเงิน ด้านล่างเขียนว่า รุ่นสหกรณ์ด่านขุนทด 2530 (ตัวเลขไทย) สร้างเนื้อทองแดงอย่างเดียว เพื่อแจกสมาชิกสหกรณ์
รุ่นนี้ดังมากจากเหตุการณ์ พนักงานสาวโรงงานตุ๊กตาเคเดอร์ กระโดดตึกหนีไฟแล้วรอดตาย ชาวบ้านจึงเรียกเหรียญรุ่นนี้ว่า “รุ่นกระโดดตึก”
อีกเหรียญคือ “รุ่นเจริญพร” สร้างเมื่อปี 2536 เป็นเหรียญรูปไข่ มีหูอยู่ข้างบน ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อคูณนั่งขัดสมาธิเพชรเข่าโค้งเต็มองค์ ด้านบนศีรษะเขียนว่า “เจริญพร” ด้านล่างเขียนว่า “หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ” มี 2 แบบ คือแบบตัวหนังสือเป็นแนวโค้ง และตัวหนังสือเป็นเส้นตรง ด้านหลังตรงกลางเป็นยันต์ดวง ข้างบนเขียนว่า “เมตตามหานิยม” ด้านล่างเขียนว่า “วัดบ้านไร่ 2536 นครราชสีมา” มีทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน ไม่ตัดปีก (กรรมการ) เนื้อนวะไม่ตัดปีก (กรรมการ) เนื้อทองแดง เป็นที่นิยมของนักสะสมและเซียนพระ
ที่ฮือฮาในหมู่ลูกศิษย์ คือ “พระยอดธงปริสุทฺโธ รุ่น 5 ท้ายิง” จัดสร้างโดยวัดบ้านไร่ เมื่อปี 2540 มีทั้งเนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ และเนื้อตะกั่วเถื่อน โดยมีคหบดีในตลาดด่านขุนทดนำตะกั่วเถื่อนที่เก็บไว้หลายปี๊บไปร่วมสร้างด้วย และถวายให้วัดทั้งหมด ที่ดังมากเพราะว่า “หลวงพ่อคูณ” ปลุกเสกในห้องนอนเป็นเวลา 1 ไตรมาส ฤดูจำพรรษา
...
ส่วนฉายาว่า “รุ่น 5 ท้ายิง” นั้น เกิดจากการที่ลูกศิษย์หลายคนมาคุยถึงอภินิหารที่พบเจอแล้วไม่เป็นอะไรต่อหน้า หลวงพ่อคูณ จึงมีคนถาม หลวงพ่อคูณ ว่า มันกันเหนียวได้จริงๆหรือ หลวงพ่อคูณ อมยิ้มแล้วตอบไปว่า “อยากรู้มึงก็ลองไปยิงดูซี”
นายแอ้ดโค้ก ลูกศิษย์นำพระซุกในเสื้อเกราะวางเป็นเป้าให้ลูกศิษย์เป็นทหารยิง ปรากฏว่ายิงกี่นัดๆก็ยิงไม่ออก แต่พอหันปากกระบอกปืนไปด้านอื่นกลับยิงออก ทำให้ลูกศิษย์พากันศรัทธา
หากกล่าวถึงวัตถุมงคลของ “หลวงพ่อคูณ” ที่สร้างมีมากมาย และมีเรื่องเล่าขานถึงความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อถือของแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่เก็บไว้บูชา อาทิ พระกริ่งรุ่นทิ้งทวน, พระผงฝังตะกรุดทองคำ, พระหน้าปรก เสาร์ 5 ใบมะขาม, พระกริ่งญาณวิทยาคม, เหรียญรุ่นหยดน้ำ, เหรียญรุ่นนั่งพาน, เหรียญรุ่นเสาร์ 5
...
ส่วน เหรียญหลวงพ่อคูณ ที่สร้างรุ่นสุดท้ายหรือท้ายๆก่อนมรณภาพ เท่าที่สอบถามลูกศิษย์ใกล้ชิด น่าจะเป็น “รุ่นแก้วสารพัดนึก” (หน้าปัจจุบันขณะอายุ 91 ปี) โดย หลวงพ่อคูณ ได้อธิษฐานจิตบล็อกแม่พิมพ์ที่โรงพยาบาล และมอบให้ นายอนันต์ นิลมานนท์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย ดำเนินการจัดสร้างที่วัดบ้านไร่ และพิธีพุทธาภิเษก มี หลวงพ่อทอง สุทธสีโล ศิษย์เอก หลวงพ่อคูณ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2557
...
รุ่นนี้นับเป็นเหรียญยอดนิยมรุ่นท้ายๆ จุดเด่นคือพิมพ์ภาพหน้าปัจจุบันอายุ 91 ปีของหลวงพ่อคูณ สร้าง 10,000 เหรียญ แจกชาวบ้านแถววัดบ้านไร่กว่า 4,000 องค์ ที่เหลือให้เช่า รุ่นทองคำมีชาวสิงคโปร์กวาดไปเกือบหมด คนไทยจะได้เช่ารุ่นเนื้อเงิน เนื้อทองชนวน เนื้อทองแดง เนื้อนวโลหะ ล็อกเกตสี่สีฝังตะกรุด และเนื้ออัลปาก้า
รายได้รุ่นนี้ถวายวัดบ้านไร่ และสมทบทุนการก่อสร้าง รูปปั้น “หลวงพ่อคูณ” ใหญ่ที่สุดในโลก ที่วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จ.นครราชสีมา ส่วนเหรียญบางส่วนแจกทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ประชาชน และสื่อมวลชน ผู้ร่วมจัดสร้างหลายคนนำเลขเด็ดต่างๆของรุ่นนี้ไปเสี่ยงโชคได้มากมาย จึงเก็บเหรียญไว้ไม่ให้เช่า แต่จะแจกเวลามีการจัดกิจกรรม
ปัจจุบันยังมีผู้นิยมเก็บบูชาเหรียญและวัตถุมงคล ด้วยศรัทธาในคุณความดีและบารมีของ “หลวงพ่อคูณ” ที่ได้รับยกย่องเป็น “ปราชญ์แห่งที่ราบสูง”.