เรียกว่าเป็นข่าวเศร้าสลดสำหรับนักแสดงสาวลูกครึ่ง ซูซี่ สุษิรา แอนจิลีน่า แน่นหนา หลังจากที่ คริสโตเฟอร์ แฟนหนุ่มนายทหารอเมริกา ซึ่งเป็นคู่หมั้นของเธอ เสียชีวิตที่บ้านพักใน จ.เชียงใหม่ และซูซี่ได้โพสต์แจ้งถึงข่าวร้ายนี้ผ่านทางไอจีส่วนตัว แต่ไม่ได้เผยถึงสาเหตุการเสียชีวิตของคู่หมั้นหนุ่ม
และเมื่อเจอนักแสดงสาว แอริน ยุกตะทัต ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของซูซี่และคริส มาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ “รักไม่เป็นภาษา” รอบสื่อมวลชน ณ ชั้น 6 หน้าโรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เลยถามถึงเรื่องนี้ ซึ่งแอรินได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวทั้งน้ำตา
ถามถึงกรณีที่คริสโตเฟอร์ คู่หมั้นของซูซี่ สุษิรา เสียชีวิต?
“คู่หมั้นเขาได้เสียชีวิตแล้ว (ร้องไห้) คริสได้เลือกจบชีวิตของเขาด้วยตัวเองนะคะ ก็น่าจะทราบดีว่าคริสทำงานเป็น EOD ซึ่งเป็นหน่วยกู้ระเบิด เขาทำงานนี้มานาน 9 ปี มีความเครียดจากการฝึกหนักมาตั้งนานแล้ว เขามีประวัติการรักษาโรคซึมเศร้ามาสักพักแล้วค่ะ
...
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพยายามที่จะจบชีวิตของเขา ซูซี่พยายามดึงเขากลับมาโลกแห่งความจริง พยายามโชว์ให้เขาเห็นถึงความรักที่ซูซี่มีให้เขาค่ะ แต่คนที่เป็นโรคแบบนี้มันก็คาดเดายากค่ะ ตอนนี้ซูซี่อยู่ที่เชียงใหม่กับครอบครัว ยังไม่พร้อมเลยที่จะออกมาพูดหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ เพราะสุขภาพจิตค่อนข้างแย่ และได้ให้แอมาเป็นตัวแทนมาพูดให้พี่ๆ ฟังค่ะ”
คริสเขาต่อสู้กับโรคนี้มานานกี่ปีแล้ว?
“หลายปีแล้วค่ะ คือเขาก็หมั้นกันแล้ว มีแพลนที่จะแต่งงานกัน มีแพลนที่จะมีครอบครัวเร็วๆ นี้ แต่โรคนี้บางครั้งหลายๆ อย่างเราไม่รู้ว่าเราจะมีอะไรไปสะกิดเขาบ้าง มันก็เลยทำให้เขาคิดแบบนี้ เขาก็ได้พบแพทย์รักษาทุกอย่าง ซูซี่และครอบครัวของซูซี่ด้วย เพราะเขาย้ายจากที่อเมริกามาอยู่ที่เชียงใหม่กับซูซี่เพื่อจะมาสร้างครอบครัวด้วยกัน ทางครอบครัวซูซี่ก็ช่วยทุกอย่าง”
คริสเสียชีวิตที่ไหน?
“เสียชีวิตที่เชียงใหม่ค่ะ เสียชีวิตตอนระหว่างไป รพ. ค่ะ”
เหมือนในไทม์ไลน์ของแอรินก็เพิ่งเจอเขาก่อนปีใหม่?
“ใช่ค่ะ ก็คือเราคุยกันตลอด เราสนิทกับซูซี่และเขามาก เวลามีเรื่องอะไรบางครั้งเขาอยากคุยกับเรา เราก็จะเป็นคนให้คำปรึกษาตลอด เราก็รักเขา แคร์เขาเหมือนเป็นเพื่อนสนิทของเราคนนึง”
เหตุการณ์ ณ ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?
“แอขอเก็บข้อมูลนี้ไว้เป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวทั้งสองฝั่ง แออยากให้ทุกคนโฟกัสการให้กำลังใจที่ให้กับซูซี่ ให้พื้นที่เขาทำใจ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะมันค่อนข้างที่จะหนักอยู่เหมือนกัน อยากให้ให้กำลังใจเขาเยอะๆ ค่ะ”
ตอนเกิดเรื่องซูซี่โทรหาเราก่อนเลย?
“ค่ะ ก็ประมาณนั้น เราก็บินไปหาเขา พยายามที่จะให้กำลังใจเขามากที่สุดว่าเราจะผ่านตรงนี้ไปได้ แล้วแอจะอยู่เป็นเพื่อนกับเขา เป็นกำลังใจให้เขาในทุกๆ ก้าว เพราะว่าบางครั้งแอไม่รู้ว่าเขาจะคิดอะไรบ้าง แต่ซูซี่ก็มีคุณแม่ พี่สาวคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา”
ซูซี่เองก็มีข่าวว่าไม่สบาย?
“คือตอนแรกที่ซูซี่ไม่ได้รับงานเพราะเป็นเส้นเสียงอักเสบค่ะ ก็เลยพักงานอยู่ เลยใช้เวลาพักเต็มที่และอยู่กับคริสด้วยค่ะ”
แบบนี้อาการทั้งกายและใจของซูซี่จะทรุดมั้ย?
“ตอนนี้ซูซี่เขาก็มีไปเข้าโบสถ์ด้วยทุกวันอาทิตย์ เขาจะคุยกับแอทุกวัน เราจะส่งถามเขาตลอดว่าวันนี้เป็นยังไง ทำอะไรบ้าง เป็นห่วง (เสียงสั่น) ทุกวันค่ะ เช็กตลอด เขาก็อยากขอบคุณแอเพราะเขาออกมาพูดไม่ไหวจริงๆ เขากลัวว่าแอจะลำบากใจที่มาพูดแทนเขา (ร้องไห้) เราก็บอกว่าไม่เป็นไร ทำให้ได้”
ตอนนี้ต้องมีญาติคอยประกบซูซี่ตลอดเลยใช่มั้ย?
“มีค่ะ คือเขาอยู่กับคุณแม่และพี่สาวที่บ้านที่เชียงใหม่อยู่แล้ว พี่สาวเขาอีกคนจากออสเตรเลียก็บินมาเฝ้าอยู่ด้วย”
แสดงว่าตอนนี้ซูซี่ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้?
“ไม่ควรจะให้อยู่คนเดียวดีกว่า เพราะว่าด้วยที่บ้านด้วยอะไรหลายอย่างยังมีของของคริสอยู่ค่ะ ณ ตอนนี้กำหนดการของคริสก็คือน้องชายเขากับเพื่อนเขาบินมา และจะนำคริสไปทำพิธีที่อเมริกากับครอบครัวเขา แล้วเป็นพิธีของทหารอเมริกา ก็จะได้ honor คือได้เกียรติที่เขาทำมาเป็น EOD ของซีลค่ะ”
จริงๆ เขามีกำหนดแต่งงานตอนไหน?
“จริงๆ แล้วที่เขาคุยกันไว้ก็จะมีแต่งปีนี้หรือปีหน้า คือเร็วๆ นี้เลยค่ะ แต่ว่าเขาเป็นคู่ที่ไม่ได้รีบ อยู่กันไปเรื่อยๆ เขาก็รักกันมากค่ะ คบกันมาตั้งนาน”
...
เราอยากบอกอะไรเกี่ยวกับข้อคิดของคนที่ไม่สบายด้วยโรคนี้?
“แอจะบอกไว้เลยนะว่าปัญหาทุกอย่างที่เราคิดว่าเรามีในชีวิตมันมีทางออกอยู่เสมอ แอรู้ว่าบางคนอาจจะคิดว่าเราอยู่คนเดียว เราไม่มีใคร เราหาทางออกไม่ได้ ใครไม่รักเรา แต่แอจะบอกว่าคนที่เป็นโรคนี้ รวมทั้งตัวแอด้วย แอก็กินยา มันมีทางออกเสมอ มีคนรักเราเยอะมาก การที่เราไป เราทิ้งคนที่เขารักเรา เราทำร้ายเขาอีกเยอะเลย อยากให้ทุกคนบอกรักกันไว้เยอะๆ บ่อยๆ คุยกันเยอะๆ เพราะเราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในทุกวัน มันเป็นโรคที่น่ากลัวมากและโหดร้ายมากสำหรับบางคน แต่แออยากให้ทุกคนมองอีกแง่นึงว่าโลกนี้มันยังมีสิ่งสวยงามให้เราอยู่ต่อ”
ก่อนที่คริสจะเสียชีวิต มีลางบอกเหตุอะไรมั้ย?
“คือเขาเคยมีประวัติที่จะทำอย่างนี้อยู่แล้ว แอเคยคุยกับเขามาก่อนว่ายูอย่าทำนะ ยูมีไอนะ ถ้ายูคิดเมื่อไหร่ยูโทรหาไอเลย แต่คือมันคงมีขึ้นๆ ลงๆ เรื่อยๆ ค่ะ เลยไม่แน่ใจว่าจะเป็นเมื่อไหร่ จะไปเมื่อไหร่ จะทำเมื่อไหร่ อย่างที่เขาว่าเราเซฟเขาวันนี้ แต่เราเซฟเขาพรุ่งนี้ไม่ได้น่ะ เราเซฟเขาทุกวันไม่ได้ ในหน้าที่ของซูซี่หรือเป็นเพื่อน หรือคนในครอบครัว เรามีหน้าที่ทำให้ดีที่สุดค่ะ”
...
ซูซี่มีแพลนจะกลับมาทำงานต่อมั้ย?
“ตอนนี้แอบอกเขาเลยว่าให้ใช้เวลาให้เต็มที่ที่จะทำใจ ไม่ต้องคิดว่าต้องออกมาพูดหรือมีเวลากำหนดว่าเราต้องโอเคตอนนี้นะ เมื่อไหร่พร้อมก็พร้อม มันไม่มีการทำผิดหรือถูกเลย เพราะแต่ละคนมีระยะเวลาทำใจไม่เหมือนกัน บางคนเริ่มจากการโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันก็จะเป็นสเตปไปเรื่อยๆ แอก็บอกว่ายูรู้สึกให้เต็มที่ ยูรับความรู้สึกนั้นเข้ามาแล้วปล่อยมันออกไป แต่ยูก็ต้องทำใจและชีวิตยูก็ต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่แอก็ให้คำตอบไม่ได้ว่าเขาจะพร้อมเมื่อไหร่ แอไม่ได้อยากให้เขาเร่งรีบด้วยค่ะ”
ในมุมของแอริน การพาผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามาพบจิตแพทย์ เราอยากแนะนำยังไง?
“อันนี้เป็นอะไรที่ยากมาก เพราะจริงๆ ผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าข้อแรกเลยต้องยอมรับก่อนว่าตัวเองไม่สบาย คือแอจะบอกเลยว่าเราไม่ได้เป็นโรคจิตหรือเป็นบ้า แล้วคนเป็นเนี่ยแอจะบอกว่าเยอะมาก ถ้าต้องรับว่าเราเป็น เรายอมรับมันแล้วอยากรักษา เราอยากหาย ทุกคนยินดีพร้อมช่วย มันมีหลายวิธีการเลยที่อาจไม่ต้องกินยาก็ได้แล้วทำให้เราดีขึ้น
...
แออยากให้ทุกคนยอมรับในโรคนี้มากขึ้น อย่าคิดว่าเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือเป็นโรคฮิต โรคแฟชั่น เราต้องรักกันไว้ ต้องช่วยกันไว้ ไม่ต้องอาย ไปหาหมอ คุณบอกเพื่อนสนิท บอกคนรักเรา พ่อแม่เราก็ได้ แค่พูดขึ้นมา บอกแอยังได้เลย แอจะทำทุกอย่างให้มีการรณรงค์เรื่องนี้เพราะแอเสียเพื่อนไปหลายคนกับการฆ่าตัวตายเยอะมากแล้วค่ะ”.