ย้อนคดี รมต.แกร่งที่สุดในปฐพี เขาว่ากันว่า 2 คดีนี้แหละ! ที่ ป.ป.ช.อาจกำลังจ้องเล่นงาน "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ว่าที่แคนดิเดต ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย สู้กับ "คุณหญิงหน่อย" สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
หลายวันที่ผ่านมา อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นที่สนใจของเหล่าคอการเมือง ช่วงใกล้มีการเลือกตั้งใหญ่ คือ กรณีมีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมจะรื้อคดีความของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม (รมต.แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี) ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพียงเพราะชื่อนายชัชชาติมีกระแสแรงขึ้นมาในโลกโซเชียล แรงชนิดที่ว่าขึ้นมาเป็น 1 ในเคนดิเดตพรรคเพื่อไทย กระแสตีคู่มากับ เจ้าแม่เมืองกรุง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ว่า อาจได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคก็เป็นได้ นั่นยังไม่น่ากลัวเท่ากับพรรคเพื่อไทยที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล คสช.จะมีคู่แข่งที่น่ากลัวขึ้นมาอีกคน สำหรับในการกรุยทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ได้ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกฯ รอบ 2 ลือถึงขั้นที่ว่า และนั่นเป็นสาเหตุทำให้ ป.ป.ช.ต้องขุดคดีความของนายชัชชาติขึ้นมา เพื่อดิสเครดิตและเล่นงาน เพื่อ "สกัดดาวรุ่ง" ทั้งที่ดองคดีความมากว่า 6 ปี คิดไปๆ มาๆ ก็เหมือนกล่าวหา ป.ป.ช.รับคำสั่ง คสช.มาจัดการ
...
ร้อนถึงขั้น พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.ต้องรีบออกมาชี้แจง โดยยืนยันว่าไม่มีใครสั่ง ป.ป.ช.เร่งคดี "ชัชชาติ" ลั่นทำงานยึดหลัก ไม่ตกเป็นเครื่องมือของใคร โอดโดนเล่นงาน เป็นเหยื่อใกล้เลือกตั้ง
หลายคนคงสงสัยคดีความ ป.ป.ช.ที่ว่าจะดำเนินการกับนายชัชชาติ มีคดีอะไรบ้าง ทีมเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ได้ลองรวบรวมมาให้ดูกัน
คดีความที่มีชื่อของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วยนั้น มีด้วยกัน 2 คดี 1.กรณีกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐมนตรีรวม 34 ราย อนุมัติและจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองปี 2548-2553 โดยไม่มีอำนาจ และไม่มีกฎหมายรองรับ (คดีจ่ายเงินเยียวยา 7.5 ล้าน)
2. คดีบริหารจัดการน้ำ กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ ครม.รวม 35 คน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 57 วรรคสอง และมาตรา 67 วรรคสอง ในโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท (คดีทุจริตบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน)
โดยให้กลุ่มบริษัทเอกชนมายื่นข้อเสนอตามแผนงาน 10 โมดูล (Module) และประกาศผลผู้ชนะในเดือน มิ.ย. ปี 2556 และได้นำเรื่องเข้าสู่ความเห็นชอบของคณะ ครม. เมื่อ 18 มิ.ย. 2556 ก่อนเรื่องดังกล่าวถูกยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ตั้งแต่ปี 2556
และนั่นคือ 2 คดีที่ ป.ป.ช.กำลังดำเนินการตรวจสอบที่มีชื่อของ "รมต.ผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี" เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งต้องจับตาดูต่อไปว่า ลงท้ายแล้วผลจะจบลงตรงไหนและอย่างไร.