ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่าในช่วง 9 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) ปริมาณการส่งออกข้าวของไทยตามสถิติที่ได้รับจากกรมศุลกากรและใบอนุญาตส่งออกข้าวอยู่ที่ 8.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.87% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 11 ล้านตัน โดยมีมูลค่า 4,314 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 21.40% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 137,979 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.43% และมูลค่าส่งออกเฉลี่ยที่ตันละ 512.67 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 18.02%
อย่างไรก็ตาม หากต้องการผลักดันให้การส่งออกข้าวในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 11 ล้านตัน ในช่วง 3 เดือนที่เหลือ (ต.ค.-ธ.ค.) จะต้องส่งออกให้ได้เฉลี่ยเดือนละ 860,000 ตัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ เพราะมีความต้องการสั่งซื้อข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างการส่งมอบข้าวให้กับรัฐบาลจีนตามสัญญาซื้อขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ลอตที่ 6 อีก 100,000 ตัน รวมทั้งยังมีโอกาสขายข้าวเพิ่มให้กับฟิลิปปินส์ ที่มีความต้องการซื้อข้าวเพิ่มขึ้น
สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวพบว่า ราคาส่งออกยังทรงตัวในระดับสูง โดยราคาข้าวขาวของไทยใกล้เคียงกับข้าวของเวียดนามที่อยู่ตันละ 400-410 เหรียญสหรัฐฯ ทำให้ผู้ซื้อหันมาซื้อข้าวไทย ส่วนราคาข้าวหอมมะลิยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงตันละ 1,149 เหรียญสหรัฐฯ และยังเชื่อว่าราคาจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป เพราะมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และกรมการค้าต่างประเทศมีแผนที่จะขยายตลาดข้าวคุณภาพสูงของไทยในจีน ฮ่องกงและสิงคโปร์.