วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยเรื่อง “โซเชียลมีเดียกับการเมือง” กันนะครับ เพราะกำลังเป็นข่าวฮือฮาในสหรัฐฯ เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมาโจมตี เฟซบุ๊ก กูเกิล สองโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ว่า เอียงเข้าข้าง นางฮิลลาลี คลินตัน และ พรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 และกำลังแทรกแซงการเลือกตั้ง ส.ส.กลางเทอมที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ผู้บริหารระดับสูงของ เฟซบุ๊ก กูเกิล ทวิตเตอร์ ต่างก็ถูกเรียกไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการในสภาคองเกรส

ส่งผลให้หุ้นไฮเทคเมื่อวันพุธร่วงกันระนาว ดัชนีหุ้นแนสแด็ก ร่วงกว่า 96 จุด กว่า 1% หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วง 2.3% หุ้นทวิตเตอร์ ร่วง 6.1% หุ้นอัลฟาเบทบริษัทแม่ของกูเกิล ร่วง 0.9% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วง 2.9% หุ้นอเมซอน ร่วง 2.2% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วง 6.2%

ก่อนไปให้ปากคำ สภาคองเกรส วันวาน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก ได้เขียนบทความลงใน นสพ.วอชิงตันโพสต์ (ในที่สุดออนไลน์ก็ต้องซบออฟไลน์) โดยชี้แจงว่า เฟซบุ๊กกำลังเผชิญกับศัตรูที่ซับซ้อนและมีทุนสนับสนุนมาเป็นอย่างดี นับวันยิ่งเก่งกล้า นี่คือ “การแข่งขันด้านอาวุธ” ที่ภาคเอกชนและภาครัฐของสหรัฐฯจะต้องรวมพลังกันเพื่อปกป้องประชาธิปไตยของชาติให้พ้นจากการแทรกแซงภายนอก

เฟซบุ๊ก กูเกิล ทวิตเตอร์ กำลังถูก สภาคองเกรส ตรวจสอบด้วยข้อหาที่รุนแรงว่า ปล่อยให้มีข้อมูลที่บิดเบือน และ คำพูดที่แสดงความเกลียดชัง กระจายไปทั่วแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และ เต็มไปด้วยอคติทางการเมือง

รายงานข่าวระบุว่า สองพรรคการเมืองใหญ่สหรัฐฯต่างก็ไม่พอใจโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่เหล่านี้ พรรคเดโมแครต ไม่พอใจที่มีการ เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 (นางฮิลลาลี คลินตัน ลงสมัคร) พรรครีพับลิกัน ของ ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่พอใจ ที่โซเชียลมีเดียเหล่านี้ มีอคติต่อพรรครีพับลิกัน เลยรวมหัวกันเล่นงานผู้บริหารโซเชียลมีเดียทั้งสามค่ายในสภาคองเกรส

...

แจ็ค ดอร์ซีย์ ซีอีโอทวิตเตอร์ และ เชอริล แซนด์เบิร์ก ซีโอโอเฟซบุ๊ก เข้าให้การต่อ คณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภา เมื่อวันพุธ ให้คำมั่นว่าจะควบคุมคอนเทนต์และปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานอย่างเต็มที่ และมาตรการป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศ หลังจากที่ถูกกล่าวหาว่า รัสเซีย ได้ใช้ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ ในการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ผู้บริหารเฟซบุ๊ก ยอมรับต่อสภาคองเกรสว่า ดำเนินการช้าเกินไปและไม่ทันท่วงที และยอมรับว่า มีบัญชีเฟซบุ๊ก 3-4% เป็นบัญชีปลอม (ล่าสุดเฟซบุ๊กมีผู้ใช้ 2,230 ล้านบัญชี 3-4% ก็ตก 67-89 ล้านบัญชี) เมื่อไม่นานนี้ เฟซบุ๊ก ได้ลบเพจของ นายอเล็กซ์ โจนส์ นักทฤษฎีสมคบคิดชาวสหรัฐฯ ออกไป 4 เพจ ฐานละเมิดนโยบายห้ามไม่ให้มีพฤติกรรม ที่รุนแรง และ วาทกรรมที่สร้างความเกลียดชัง

ประธานาธิบดีทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สื่อโจมตีโซเชียลมีเดียอีกรอบวันวานว่า กำลังแทรกแซงการเลือกตั้ง ส.ส.กลางเทอม และโจมตีเฟซบุ๊กกับกูเกิลว่า ได้แทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 โดยเข้าข้าง นางฮิลลาลี คลินตัน ผู้สมัครพรรคเดโมแครต และยอมรับว่าเขาดีกับทวิตเตอร์ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะ ประธานาธิบดีทรัมป์ ใช้ทวิตเตอร์ค่ายเดียวในการสื่อสาร

โซเชียลมีเดียที่ทรงอิทธิพลในโลกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก กูเกิล ทวิตเตอร์ สแนปแชต อินสตาแกรม วอทส์แอพ ฯลฯ ไม่เพียงเป็น เครื่องมือสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ยังเป็น “อาวุธที่ทรงประสิทธิภาพ” ในทาง การเมือง และ สังคม ด้วย อย่างที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเฟซบุ๊ก ระบุไว้ในบทความ

ผมเชื่อว่า โซเชียลมีเดีย จะเป็น “อาวุธใหม่” ของ พรรคการเมืองไทย ในการหาเสียงเลือกตั้งต้นปีหน้า โดยเฉพาะกับ คน Gen Z ที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเป็นครั้งแรก

ป.ล. ขอแก้ไขคำศัพท์ฉบับเมื่อวาน คำที่ถูกต้อง คือ Hinterland ไม่ใช่ Hemterland ปรู๊ฟผิดครับ กราบขออภัย.

“ลม เปลี่ยนทิศ”