"ไร้ท์แมน" ชวนชมนิทรรศการ "ปฏิบัติการถ้ำหลวง วาระแห่งโลก" เผยไอเดียจำลองอุโมงค์สุดอันตรายให้ลองมุดเหมือนเป็นผู้ประสบภัยจริง การันตีมางานได้จับอุปกรณ์ที่ใช้ช่วยโค้ชกับทีมหมูป่า 13 ชีวิต พร้อมร่วมอาลัยหุ่นจำลอง "จ่าแซม" 22 ส.ค.-9 ก.ย.นี้ ที่สยามพารากอน และเตรียมเดินสายอีกหลายจังหวัด

เมื่อวันที่ 3 ก.ย.61 นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด เปิดเผยว่า การจัดทำนิทรรศการ "ปฏิบัติการถ้ำหลวงวาระแห่งโลก" ซึ่งเป็นการจัดแสดงข้อมูลและภาพเหตุการณ์การช่วยชีวิต เด็ก และผู้ช่วยโค้ชทีมนักฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี ทั้ง 13 คน ที่ติดอยู่ ณ ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญระดับโลก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีพระเมตตา และยังเป็นการหลอมรวมความสามัคคี การช่วยเหลือของเพื่อนมวลมนุษยชาติ และการส่งกำลังใจของคนทั้งโลกต่อสถานการณ์นั้น ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 ส.ค.-9 ก.ย.61 ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำจดหมายเหตุแห่งชาติของกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อบันทึกเหตุการณ์และภาพประวัติศาสตร์ โดยลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ภารกิจการวางแผน และการดำเนินการช่วยเหลือจากทุกฝ่ายทั้งจากในไทยและต่างประเทศ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่คนทั้งโลกต่างให้ความสนใจ

สำหรับความพิเศษหรือไฮไลต์ของนิทรรศการนี้ คือ การบอกเล่าเรื่องราวในมุมมองที่เป็นข้อมูลเชิงลึกซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่สำคัญจะได้พบกับประสบการณ์จริงถึงความยากลำบากในการดำน้ำ มุดถ้ำ โดยจำลองบรรยากาศและลักษณะทางกายภาพของถ้ำที่คดเคี้ยว แคบ และมืด ในจุดที่ยากที่สุดของการดำน้ำมาจัดแสดง โดยผู้ชมสามารถทดลองมุดอุโมงค์ถ้ำจำลองเข้าไปภายใน ซึ่งจะได้สัมผัสประสบการณ์จริงของวิธีการเอาตัวรอดจากอันตรายที่มีเพียงไฟฉายกระบอกเดียว ที่ช่วยนำทางออกจากถ้ำได้

...

ทั้งนี้ นิทรรศการได้จำลองการปฏิบัติการช่วยเหลือว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เริ่มตั้งแต่ทำความรู้จักโค้ชเอกและทีมหมูป่า 13 คน และได้เจาะลึกเรื่องราวของถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ดินแดนลึกลับที่น่าสำรวจ จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ การนำเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้มาจัดแสดงโดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นประชาชนจะได้สัมผัสและเรียนรู้ความยากลำบากในการช่วยเหลือจากทีมปฏิบัติการจริง เช่น ชุดและอุปกรณ์ดำน้ำจากหน่วยซีล เปล SKED ได้ทดลองยกถังออกซิเจนจริงๆ ที่หน่วยซีลใช้ดำน้ำต่อเนื่องถึง 3-4 ชั่วโมง แต่ละถังน้ำหนักขนาดไหน ที่ต้องดำน้ำลึก ท่ามกลางกระแสน้ำเชียวและขุ่นมัว หรืออุปกรณ์นำเด็กออกมาทั้งเปลสนาม และหน้ากากแบบครอบเต็มหน้าทุกชิ้นล้วนเป็นอุปกรณ์ที่ใช้จริงมาจัดแสดง

"แนวคิดการออกแบบนิทรรศการทาง ตรีหทัย สุพรรณธะริดา Design Director ของบริษัทฯ ได้เรียบเรียงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่ปฏิบัติการช่วยเหลือได้เริ่มต้นมาเป็นแกนการเล่าเรื่องของนิทรรศการ เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ตรง โดยจำลองบรรยากาศและเหตุการณ์การหายตัวไปในถ้ำ ผู้ชมสามารถส่องดูจากด้านนอกซึ่งจะเห็นจักรยานและข้าวของที่ไร้วี่แววเจ้าของจอดอยู่บริเวณหน้าถ้ำ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นภาพเสมือนจริงถึงการเอาชีวิตรอดของโค้ชและเด็กๆ ทีมหมูป่าฯ ทั้ง 13 คนว่าเอาตัวรอดจากอันตรายได้อย่างไร" นายอุปถัมป์ กล่าว

ทั้งนี้ ทุกวันของนิทรรศการมีการจัดเสวนา ได้มีการเชิญผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการช่วยเหลือจากทั่วโลกมาร่วมเสวนาเพื่อเป็นเวทีกลางในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถอดบทเรียนจากประสบการณ์กู้ชีพฉุกเฉิน โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การเผยแพร่ความรู้ในเรื่องของธรรมชาติ ธรณีสัณฐาน ลักษณะทางกายภาพของถ้ำหลวง และข้อควรระวังในการเข้าไปภายในถ้ำหรือป่าเขาและองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องผ่านการถอดบทเรียนจากผู้ปฏิบัติการจริงที่มาถ่ายทอดเรื่องราวเชิงลึกให้ฟัง อาทิ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายฯ(ศอร.) พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือ ผบ.หน่วยซีล และ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ 'หมอภาคย์' เจ้าของฉายา 'มนุษย์ที่แกร่งที่สุดในปฐพี' หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการส่วนอื่นๆ เช่น ทีมรังนก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือเจ้าหน้าที่ขุดเจาะบาดาล มาถ่ายทอดเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังเหตุการณ์ให้ฟัง ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และผู้ชมจะได้ซึมซับเรื่องราวอันลึกซึ้งของจ่าแซม น.ต.สมาน กุนัน ฮีโร่ถ้ำหลวง โดยนำหุ่นจำลอง และภาพวาด The HERO ที่เปรียบเสมือนตัวแทนแห่งความระลึกถึงจ่าแซมมาจัดแสดง และยังได้สัมผัสเรื่องราวมิตรภาพไร้พรมแดนผ่านการช่วยเหลือจากทั่วโลก ผ่านคลิปวีดีโอ ภาพถ่าย หรือกระดาษข้อความ สะท้อนทุกมุมมองทั้งที่เคยและไม่เคยปรากฏผ่านสื่อทั่วไป 

"เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณการช่วยเหลือที่เป็นการรวมพลังของทั่วโลก ทางทีมงานได้เปิดทวิตเตอร์ #ThamlaungExhibition เพื่อให้ประชาชนได้ติดแฮชแท็กขอบคุณแก่บุคคลหรือองค์กร ที่ให้ความช่วยเหลือปฏิบัติการถ้ำหลวงผ่านทวีตเตอร์ ที่จะสื่อสารไปได้ทั่วโลก พร้อมกับเตรียมเดินสายจัดนิทรรศการอีกหลายจังหวัด และมอบนิทรรศการดังกล่าวให้จัดแสดงถาวรไว้ที่จังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจของคนทั้งโลก"

นายอุปถัมป์ กล่าวว่า ทางบริษัท ไร้ท์แมน มีความภูมิใจ ในฐานะที่ได้รับมอบหมายและความไว้วางใจให้เป็นหนึ่งในผู้ถอดบทเรียนภารกิจช่วยชีวิต 13 หมูป่า เรานำความเชี่ยวชาญด้านการจัดการอีเวนต์และเอ็กซิบิชั่น มาเนรมิตพื้นที่ การจัดแสดงให้กลายเป็นนิทรรศการที่เป็นวาระของโลก เราสร้างสรรค์งานออกแบบด้วยการสร้างประสบการณ์ร่วมเสมือนจริง ได้สัมผัสของจริง สร้างความเข้าใจให้กับผู้ชม โดยนิทรรศการนี้ถือเป็นบันทึกหน้าแรกของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว สู่การจัดทำพิพิธภัณฑ์ถ้ำหลวงที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ในการบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ ให้ได้ครบถ้วนที่สุดต่อไป